เพื่อให้เห็นภาพชัดนี่คือกลไกที่เกิดขึ้นระหว่างหลั่งน้ำตาครับ ระหว่างหลั่งน้ำตา ฮอร์โมนเกี่ยวกับความเครียด เช่น โปรแลคติน คอร์ติซอล และ ACTH ก็จะไหลออกมาพร้อมกับน้ำตาด้วย
แต่ที่มาของการเกิดน้ำตาก็สำคัญ เค้าบอกว่าน้ำตาที่ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายความเครียดได้ เป็นน้ำตาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์นะครับ เช่น เสียใจ, ดีใจ,เจ็บใจ แต่ในทางกลับกันน้ำตาที่เกิดระหว่างการปอกหัวหอม หรือตาแห้ง แล้วน้ำตาไหลนั้น เป็นน้ำตาที่ไม่ได้ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย
แต่การดูคลิป วีดีโอ เรื่องเดียวกันเอง คนนึงร้องไห้ อีกคนหนึ่งไม่ร้อง มันเป็นเรื่องธรรมดา เพราะมันขึ้นอยู่กับหลายๆ อย่าง รวมทั้ง สภาพแวดล้อมที่คนๆ นั้นเติบโตขึ้นมาด้วย . ฉะนั้นหากอยากร้องไห้ด้วยวิธีนี้ต้องเรียนรู้ก่อนว่า ตัวเองชอบน้ำตาแตกหลังจากเสพข้อมูลอะไร เพื่อนๆ รู้มั้ยครับ?
หากใครอยากฝึกร้องไห้ได้ด้วยตัวเอง สามารถเริ่มได้จากการดูภาพยนตร์ หรือซีรีย์ที่ชื่นชอบได้ เพื่อนๆ ชอบดูภาพยนตร์หรือซีรีย์แนวไหนครับ ระหว่าง 1-4 เดี๋ยวช่วยหาจุดที่จะทำให้ต่อมน้ำตาแตกให้…. 1.แนวคอมเมดี้ อบอุ่น 2.แนวรักเร่าร้อน 3.แนวอาชีพ 4.แนวแพทย์ที่มีความน่าตื่นเต้น
คนเลือกข้อ1 แนวคอมเมดี้→ต่อมน้ำตาแตกง่ายเมื่อเป็นเรื่องครอบครัว/สัตว์เลี้ยง ข้อ2 แนวรักเร่าร้อน→ต่อมน้ำตาแตกง่ายเมื่อเป็นเรื่องดราม่า ความรัก การแต่งงาน ข้อ 3 แนวอาชีพ→ต่อมน้ำตาแตกง่ายเมื่อเป็นเรื่องอาชีพ นักกีฬา ข้อ 4 แนวแพทย์→ต่อมน้ำตาแตกเมื่อเป็นเรื่องการเจ็บป่วย การจากลา
แล้วถ้าเป็นไปได้การเลือกเวลาร้องไห้ก็ช่วยได้ครับ เพราะจากกลไกการทำงานของระบบประสาทซิมพาเทติกกับพาราซิมพาเทติก จะเห็นว่า ช่วงเย็นตั้งแต่ 6:00 เย็นเป็นต้นไป ระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (ที่ช่วยให้ผ่อนคลายจะเริ่มทำงาน) ช่วงหลัง 6 โมงเย็นจะเป็นช่วงที่ร้องไห้ง่ายขึ้น
การปรับสิ่งแวดล้อมก็ช่วยได้ เช่นการหรี่ไฟลง เมื่อต้องการร้องไห้ หรือการ เตรียมทิชชู่ ผ้าเช็ดหน้าเอาไว้ เราจะได้ร้องไห้ได้เลย ลองเอาไปปรับใช้ดูนะครับ สุดท้ายอยากบอกว่า “มนุษย์ไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้น จะร้องไห้ซะบ้างจะเป็นไรไป ถ้าอยากร้องไห้ก็ร้องเถอะครับ อย่าไปฝืนมัน” 😭😭😭
อะไรคือสิ่งที่คนต่างชาติยกย่องเมื่อเดินทางไปญี่ปุ่น อย่างหนึ่งที่เค้ายกย่องคือ “Service Area” หรือจุดแวะพักรถระหว่างทาง . เพราะตอนแรกนึกว่าจะเป็นแค่จุดแวะจอดระหว่างทาง แต่พอเข้าไปข้างในมีทุกอย่าง ขนมของฝาก, Wi-Fi ฟรี ที่ว้าวที่สุดคือห้องน้ำ สะอาดมาก ขนาดนั่งพื้นกินข้าวตรงนั้นได้!
คนต่างชาติว้าวกับห้องน้ำใน Service Area หรือจุดจอดพักรถที่ญี่ปุ่นมาก มีปุ่มให้กดเมื่อเรารู้สึกว่าห้องน้ำสกปรก (ที่ตัวห้องน้ำ? ที่ล้างหน้า? ทางเดิน?) พอกดไปได้ไม่กี่นาทีก็มีพนักงานทำความสะอาดเดินมา ก้มหน้าก้มตาทำความสะอาดให้ แล้วห้องน้ำก็กลับมาสะอาดอีกครั้ง…ใส่ใจในความสะอาดจริงๆ
เรื่องนี้ขอยืนยันว่า เห็นด้วยมากๆ ครับ ถ้าเราคิดถึงความสมบูรณ์แบบระดับ 100% เมื่อไหร่ เราจะประวิงเวลาและไม่ค่อยกล้าลงมือทำ(สักที) แต่การลงมือทำไปก่อน แล้วค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไปให้ดีขึ้นจะช่วยให้เราถึงเป้าหมายได้ดียิ่งกว่าครับ Cr: หนังสือ “คนเก่งระดับท็อป 5% ที่ AI ค้นพบ”
อะไรคือปัญหาหนักใจที่สุดของแม่บ้านญี่ปุ่นในหน้าฝน ได้ตอบว่า “เรื่องซักผ้า” คือหนักใจสุดครับ โดยเฉพาะผ้าขนหนูหนาๆ เสื้อฮู้ด กางเกงยีนส์ ฯลฯ 50% ตอบว่า มันหนักใจเพราะผ้าแห้งยาก 30% ตอบว่า หนักใจเพราะปัญหาผ้าเหม็นอับ วันนี้จะมาเล่าวิธีแก้ไขปัญหานี้ครับ #สาระญี่ปุ่นกับคุณบูม
2. เวลาในการตากผ้าสำคัญมาก ต้องทำให้ผ้าแห้งภายใน 5 ชั่วโมงหลังบิดผ้าแห้งเสร็จ เพราะถ้าเลย 5 ชั่วโมง แบคทีเรีย Moraxella จะแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วมาก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นเหม็นอับด้วย ฉะนั้น ดูให้ดีว่าการตากผ้าทุกครั้ง แห้งภายใน 5 ชั่วโมงหรือไม่ ถ้าแห้งทันก็โอเค
เคยเป็น 555555 แต่พอเข้าใจเรื่องการบริหารเวลาก็ค้นพบว่าไม่ต้องเช็คอีเมลตลอดเวลาก็ทำงานมีประสิทธิภาพได้ ไม่มีปัญหาอะไรด้วย ปล.ถ้าเค้าด่วนเค้าต้องโทรมา แต่ถ้าส่งเมลมาเท่ากับว่าเค้าพอจะรอได้ เราจัดสรรเวลาการตอบอีเมลไว้ก็พอเช่น ทุกเช้าวันธรรมดา 8:00-8:20 และก่อนเลิกงาน 16:00-16:20
มาแล้ว! คอลเลคชั่นพิเศษของ “แชมพู Maro” แชมพูขายดีอันดับ 1 ในญี่ปุ่น ร่วมกับ “Jujusu Kaisen มหาเวทย์ผนึกมาร อนิเมะขวัญใจมหาชนทั้งคนญีปุ่น และคนทั่วโลก ผมได้ข้อมูลจาก MARO ว่า เอาเข้ามาได้แค่ 300 ชิ้นเท่านั้น! เนื่องจากที่ญี่ปุ่นก็ขายดีมากเลยได้ของมาเท่านี้จริงๆ ต้องรีบจัดครับ
นอนหันหัวหันเท้าไปทางไหน จะช่วยพัฒนาคุณภาพการนอน? คุณหมอ Kajimoto ผอ.คลินิกการนอนในญี่ปุ่นบอกว่า แนะนำให้นอนหันเท้าไปที่หน้าต่าง เพราะตอนเช้าแสงสว่างจะค่อยๆ ส่องเข้ามาหาตัวเรา เราจะตื่นได้อย่างสดชื่นมากขึ้น Cr:รายการ Soredame
เราเคยสังเกตความผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่เล็บของเราเองมั้ยครับ เธรดนี้จะมาเล่าวิธีเช็คสุขภาพง่ายๆ ด้วยการสังเกตเล็บ เล็บแบบไหน บ่งบอกอะไร ไปอ่านกันครับ!! #สุขภาพญี่ปุ่นกับคุณบูม Cr: รายการ Konosatte Nandesuka
เรื่องนี้แนะนำโดยหมอ Watanabe Chiharu ท่านเป็น ผอ.คลินิกผิวหนังแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น มีประสบการณ์ตรวจรักษาเล็บคนไข้มากว่า 30,000 คนแล้วครับ คุณหมอบอกว่า “เล็บเป็นเหมือนหน้าต่างของร่างกายเรา เป็นจุดที่ส่งสัญญาณทางสุขภาพได้ชัด” ถ้าเราอยากรู้ว่าสุขภาพเป็นอย่างไรให้ หมั่นสังเกตจุดนี้
คุณหมอเล่าว่าจากประสบการณ์ตรวจรักษาของเธอ ปัญหาเล็บ 6 อย่างนี้คือปัญหาที่คนไข้เป็นเยอะ แล้วเข้ามาตรวจรักษากับเธอ 1.เส้นแนวตั้งบนเล็บ 2.เส้นแนวขวาง 3.เล็บซ้อนกันสองชั้น 4.เล็บโค้ง 5.ไม่มีจุดขาวตรงโคนเล็บ 6.มีจุดดำบนเล็บ ลักษณะทั้ง 6 อย่างนี้บ่งบอกอะไร ไปดูกันครับ
1.เล็บที่มีเส้นในแนวตั้ง = มักเป็นในคนที่มีอายุมากขึ้น คุณหมอบอกคนไข้หลายคนนึกว่าเป็นเพราะขาดสารอาหาร แต่จริงๆแล้วไม่เกี่ยวกับเรื่องขาดสารอาหารเลย มันเป็นเรื่องปกติของคนที่มีอายุมากขึ้น เพราะเล็บงอกจากNail Matrix (ตัวสร้างเล็บ)ที่มีหยัก ตอนเราอายุน้อยร่องมันจะบางเลยไม่ค่อยเห็น..
…ถ้าอายุมากขึ้นจะยิ่งเห็นร่องของเล็บชัดขึ้น มองที่เล็บเลยเห็นเป็นเส้นแนวตั้ง อย่างในรูปนี้คือการเปรียบเทียบเล็บของคนอายุ 20-30 ปี (ภาพซ้าย) กับคนอายุ 80-90 ปี (ภาพขวา) จะสังเกตเห็นเลยว่า ด้านขวาเห็นเป็นเส้นในแนวตั้งชัดมากครับ
2. มีเส้นแนวขวางในเล็บ = เครียดมากเกินไป โดยอาจจะเกิดจากความเครียดทางจิตใจ หรือความเครียดด้านร่างกาย (เช่น อุณหภูมิร่างกายสูง) ทำให้เลือดไปเลี้ยง Nail Matrix (ตัวสร้างเล็บ) ไม่เพียงพอ ทำให้กลไกการสร้างเล็บ ณ ขณะนั้นทำได้ไม่เต็มที่ เล็บเลยงอกออกมาบางผิดปกติ จึงเห็นเป็นแนวขวาง
ซึ่งคุณหมอบอกว่าโดยปกติเล็บเราจะงอกออกมายาว 0.1 mm/วัน ถ้าเดือนนึงเล็บจะงอกได้ยาว 3 mm . ฉะนั้น ถ้าเราเห็นว่าเล็บมีเส้นแนวขวางห่างจากโคนเล็บประมาณ 5 mm เราจะสันนิษฐานได้ว่า 2 เดือนก่อนหน้า คนๆ นั้นอาจมีเรื่องเครียดอะไรบางอย่างก็ได้ เล็บก็เลยแสดงออกมาแบบนี้
อันนี้ภาพประกอบของคนเมื่อกี้นะครับ ที่เห็นเส้นขวางอยู่ที่เล็บ โดยห่างจากโคนเล็บประมาณ 5mm = เคยเครียดหนักๆ ประมาณ 2 เดือนก่อนหน้านี้
3.เห็นเล็บเป็นสองชั้น = คนมีอาการนี้บ่งบอกว่าขาดโปรตีน คุณหมอเล่าว่าส่วนประกอบสำคัญของเล็บคือโปรตีน ปกติเล็บคนเราจะเป็นโครงสร้าง 3 ชั้นเชื่อมต่อกันดี ทำให้เล็บมีความแข็งแรง แต่ในคนที่มีโปรตีนไม่เพียงพอ การเชื่อมต่อระหว่างชั้นไม่ค่อยดี ทำให้บางชั้นลอกออกได้ เราเลยเห็นเป็น 2 ชั้น
4. เห็นเล็บงอขึ้น = ธาตุเหล็กไม่เพียงพอ ธาตุเหล็กในร่างกายจะทำหน้าที่รักษาความแข็งแรงให้กับเล็บ ซึ่งถ้าร่างกายขาดธาตุเหล็ก เล็บจะอ่อน และไม่แข็งแรง ไม่สามารถคงรูปที่ควรจะเป็นได้โดยเฉพาะตอนใช้นิ้วมือหนีบจับสิ่งของ เล็บจะโค้งงอง่ายมาก โดยเฉพาะส่วนปลายที่ไม่มีส่วนของกระดูกอยู่