แล้วทำไมถึงขายกาแฟแค่เดือนละครั้งเท่านั้น แบบนี้จะมีรายได้พอเลี้ยงชีพหรอครับ!? พอถามไปก็ได้คำตอบว่า “จริงๆ แล้วอาชีพหลักของผมคือการเป็นหมอ ผมทำงานอยู่ในโรงพยาบาลครับ” แล้วทำไมคุณหมอถึงทำรถเข็นขายกาแฟล่ะ!?
คุณหมอเล่าว่า “ยังมีคนอีกมากที่ไม่เคยไปโรงพยาบาล และไม่เคยรับการตรวจรักษา อีกส่วนหนึ่งคือคนป่วยที่ชอบมาโรงพยาบาล แม้เรารอเค้าอยู่ที่โรงพยาบาลแค่ไหน คนเหล่านี้ก็จะไม่มาโรงพยายาลหรอก จึงเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องออกไปหาคนไข้ ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบว่า สบายดีมั้ย เจ็บป่วยอะไรรึเปล่า”
คิดได้ดังนั้นจึงผุดไอเดียใหม่คือการทำรถเข็นขายกาแฟ ทุกที่ที่ไปเขาจะทักทายลูกค้า ถามสารทุกข์สุขดิบ เผื่อลูกค้ามีอาการป่วยไข้อะไรเขาจะได้ให้คำปรึกษา และแนะนำให้เข้าไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลได้
ร้านขายของสุดลับในญี่ปุ่นที่เจ้าของร้านเปิดร้านแค่ระยะเวลาสั้นๆ 2 ชั่วโมง/สัปดาห์เท่านั้น! เป็นร้านอะไร ขายอะไร ขายแค่ 2 ชั่วโมง/สัปดาห์แล้วอยู่ได้จริงหรอ!? ติดตามอ่านได้ในเธรดนี้เลยครับ #ธุรกิจญี่ปุ่นกับคุณบูม Cr: Tokorosan! Taihendesyo
ไอเดียเปลี่ยนถนนลูกรังธรรมดาๆ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในหมู่หนุ่มสาวญี่ปุ่น ที่ Wakkanai เกาะฮอกไกโด . ปกติเป็นถนนลูกรังธรรมดาๆ ความยาว 3 กิโลเมตร กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนหนุ่มสาวอยากไปเยือน ไอเดียนี้จะเป็นอะไรติดตามได้ในเธรดนี้ครับ #สาระญี่ปุ่นกับคุณบูม
ที่ญี่ปุ่นบอกว่าช่วงปีสองปีนี้คนไม่ค่อยได้ออกไปไหน เลยมีปัญหาเล็บขบกันมากขึ้น ตอนแรกผมก็นึกว่าปัญหาเล็บขบไม่ได้อันตรายมากนัก แค่ทำให้รู้สึกเจ็บนิ้วเท้าเฉยๆ แต่จริงๆ แล้วปัญหาเล็บขบอันตรายเหมือนกันนะ เรื่องราวที่ว่าจะเป็นอย่างไรอ่านได้จากเธรดนี้ครับ #สุขภาพญี่ปุ่นกับคุณบูม
เรื่องนี้ดูมาจากรายการ Tokorosan! Taihendesuyo ทางรายการไปสัมภาษณ์ผู้สูงอายุที่เดินผ่านไปผ่านมาว่า เล็บเท้าของคุณตอนนี้มีลักษณะเป็นแบบไหนบ้าง!? ระหว่าง เบอร์ 1 เล็บปกติ, เบอร์2 เล็บขบ นิดหน่อย, เบอร์ 3 เล็บขบปานกลาง, เบอร์ 4 เล็บขบขั้นรุนแรงหรือเล็บกินเข้าไปในเนื้อของนิ้วเท้าแล้ว
รายการเลยไปสัมภาษณ์ ผอ. nagai แห่งคลินิกกายภาพบำบัดแห่งหนึ่ง ท่านรักษาคนไข้ที่มีอาการเล็บขบเยอะมาก ท่านบอกว่า ถ้าเราไม่ใช้นิ้วเท้าเลย ปล่อยมันไว้เฉยๆ เล็บมันก็จะงุ้มงอตามธรรมชาติของมันนะ ในทางกลับกันถ้ามีการเดินลงน้ำหนักที่นิ้วเท้าการลงน้ำหนักจะช่วยให้เล็บเท้างอกออกมาตรงไม่งุ้มงอ
แล้วทำไมตอนนี้ถึงมีคนมีปัญหาเล็บขบ นิ้วงุ้มงอเข้ามากินเนื้อเท้าเยอะขึ้น!? คุณ Nagai บอกว่า เป็นผลกระทบจากโควิดที่คนกักตัวอยู่บ้านมากขึ้น จำนวนชั่วโมงการออกกำลังกายน้อยลง ทำให้มีปัญหาเล็บขบมากขึ้น (ช่วงปี 2021 มีลูกค้าเดินทางเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ที่คลินิกมากถึง 1.5 เท่าเลยครับ)
หนึ่งในคนไข้ของคลินิกให้สัมภาษณ์กับทางรายการว่า เธอเองก็มีปัญหาเล็บขบเหมือนกัน (งุ้มงอเข้ามากินส่วนเนื้อเท้า) วันนึงเธอทำงานช่างภาพถ่ายรูปติดบัตรตามปกติ อยู่ดีๆ เธอก็เสียสมดุล ล้มลง แล้วกระดูกหัก ต้องพักฟื้นถึง 3 เดือนจนกว่าจะหายดี เธอเลยตกใจมาก “แค่เล็บขบ ทำให้หกล้มได้เลยนะ”
เวลายืนบนเครื่องวัดแรงกดน้ำหนักเท้า ส่วนที่กดน้ำหนักมากจะเป็นสีแดง ส่วนที่แทบไม่กดน้ำหนักเลยจะแสดงเป็นสีน้ำเงิน ผลคือ คนเล็บปกติจะเห็นว่า มีการกดน้ำหนักอย่างสมดุลทั่วทั้งเท้าไปถึงส่วนเล็บด้วย ในทางกลับกันคนเล็บขบจะเห็นว่ากดน้ำหนักเท้าน้อย ส่วนนิ้วเท้าแทบไม่มีการน้ำหนักลงไป
หนึ่งสาเหตุที่คนเล็บขบไม่อยากลงน้ำหนักที่นิ้วเท้ามาก อาจเป็นเพราะว่ารู้สึกเจ็บก็ได้ แล้วส่วนเล็บกับนิ้วเท้าจะเคลื่อนไหวสัมพันธ์กัน คนเป็นเล็บขบ เวลาลุกขึ้น หรือก้าวเดินจะไม่อยากลงน้ำหนักที่นิ้วเท้า ทำให้ร่างกายเสียการทรงตัวได้ง่าย เสี่ยงต่อการหกล้มนั่นเองครับ
เธอบอกว่าคนส่วนใหญ่ยังตัดเล็บแบบผิดๆ นะ คือชอบตัดเล็บเท้าลึกจนเกินไป ตัดบ่อย มาก และตัดจนไม่เหลือส่วนขาวๆ ไว้เลย (เค้าเรียกว่า 深ヅメ หรือการตัดเล็บลึก) พอตัดลึกไปนานๆ เนื้อที่ปลายนิ้วเท้าจะนูนขึ้นมา บดบังไม่ให้เล็บยาวออกมาครับ
คุณ Shimoda บอกว่า การตัดเล็บเท้าที่ถูกต้องให้เริ่มจากการใช้มี่ตัดเล็บที่ส่วนตัดเป็นเส้นตรง (แบบโค้งไว้ใช้ตัดเล็บมือ แบบตรงไว้ใช้ตัดเล็บเท้า) จากนั้นให้ตัดเล็บเป็นเส้นตรงครับ อย่าตัดเข่าไปลึกจนเกินไป เว้นออกมาให้เห็นสีขาวนิดหน่อย (ในรูปคือตัดตามเส้นสีแดง)
ส่วนด้านข้างที่ยังยื่นออกมา และมีความคมอยู่นั้น (ส่วนสีแดงๆ ที่แรเงาให้ดู) ให้ใช้ตะไบเล็บค่อยๆ ตะไบแทน . เพราะฉะนั้น การตัดเล็บเท้าที่ดีคือการตัดเล็บให้เป็นสี่เหลี่ยม มีขอบมนนั่นเองครับ!
ดีมาก บอกเลยยยยยย ผมดูรวดเดียว 10 คลิป twitter.com/TAXBugnoms/sta…
ทุกเรื่องเกี่ยวกับการนอน เราอินทั้งหมด . เรื่องนี้จะมาพูดถึง 3 เทคนิคที่จะช่วยให้คุณภาพการนอนดีขึ้น หลับสนิทมากขึ้น 3 วิธีที่ว่านี้จะเป็นอะไรบ้าง ติดตามได้ในเธรดนี้ครับ #สุขภาพญี่ปุ่นกับคุณบูม Cr: รายการ Sekai ichi Uketai jugyou
คุณหมอบอกว่า แค่ปรับวิถีชีวิตอย่างละนิดอย่างละหน่อย 3 อย่างนี้ก็ช่วยให้เราหลับสนิทขึ้นแล้ว เริ่มจากข้อแรกกันก่อน “แนะนำให้ทานซุปมิโสะในมื้อเช้า” จะช่วยให้ตอนกลางคืนหลับดีขึ้นครับ แม้จะเป็นวิธีกินของชาวญี่ปุ่น แต่เดี๋ยวนี้บ้านเราหาซื้อได้ไม่ยากครับ ตามซุปเปอร์ก็หาซื้อได้ครับ
ในมิโสะจะมี ทริปโตเฟน กรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ช่วยให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งช่วยให้เรานอนหลับมีประสิทธิภาพมากขึ้น รู้สึกผ่อนคลาย และนอนหลับสนิท . พูดง่ายๆ คือ มิโสะที่ดื่มในตอนเช้า จะช่วยให้นอนหลับดีในตอนกลางคืนครับ
เทคนิคที่ 2 กดนวดกล้ามเนื้อบริเวณคอขณะอาบน้ำ และทำการยืด (Stretching) ก่อนนอน จะช่วยให้นอนหลับสนิทขึ้น . อันนี้ดูเหมือนง่าย แล้วคนจะละเลยไม่ยอมทำกัน แต่คุณหมอแนะนำให้ทำทุกวัน แล้วคุณภาพการนอนจะดีขึ้นจริงๆ ครับ
ทุกครั้งที่อาบน้ำให้จัดเวลาประมาณ 1 นาที -หันหลังให้ฝักบัว แล้วให้น้ำในฝักบัวฉีดเข้าบริเวณหลังคอ -ประสานมือทั้งสองข้าง แล้วใช้นิ้วโป้งกดนวดคือตามภาพ ขึ้น-ลง จนครบ 1 นาที
ก่อนนอนให้ทำท่ายืด (Stretching) -หมุนไหล่ โดยเน้นให้กระดูกสะบักทั้งสองข้างเคลื่อนที่มาชิดกัน (ทำแขนแบบในรูปเลยนะ) -ประสานมือกันยืดไปข้างหน้า จากนั้นให้ยืดขึ้นด้านบน 2 ท่านี้ทำสลับกันไปเรื่อยๆ จนครบ 1 นาทีก็เพียงพอครับ
ปล. Tips & Tricks อย่างหนึ่งที่ช่วยให้เรานอนหลับง่ายขึ้นคือ การทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น แล้วต่ำลง ขณะที่อุณหภูมิต่ำลงเราจะรู้สึกง่วงนอน (เหมือนตอนเราเล่นกีฬาเหนื่อยๆ ตอนกลางวัน และกลับมาเรียนต่อช่วงบ่ายในห้องแอร์ เราจะรู้สึกง่วงใช่มั้ยครับ) แช่โอฟุโระ 1-2 ชม.ก่อนนอนก็ดีมากนะ
เทคนิคที่ 3 เป็นเทคนิคเกี่ยวกับการตั้งนาฬิกาปลุก คนส่วนใหญ่ชอบใช้มือถือตั้งนาฬิกาปลุกก่อนนอน จะต้องตื่นกี่โมง.. จะนอนได้อีกกี่ชั่วโมง.. คุณหมอบอกว่า ทำพฤติกรรมแบบนี้ช่วงก่อนนอนคือไม่ดีนะ เป็นพฤติกรรมที่เบรกไม่ให้เรานอนหลับสนิท . แนะนำให้ตั้งนาฬิกาปลุกทันทีเมื่อกลับมาถึงบ้านครับ!!
น้องเพกวินที่ญี่ปุ่นใส่ theme คริสต์มาส 🐧🐧🐧🎄🎄🎄 น่ารักฝุดๆๆๆๆๆๆ