4. แนะนำวิธีการเลือก Toner . ถ้านึกอะไรไม่ออกแนะนำให้พลิกด้านหลังผลิตภัณฑ์ดูส่วนผสม ถ้ามีเขียนว่า เซราไมด์ (ceramide) คือดี เพราะ เซราไมด์คือส่วนผสมที่จะช่วยรักษาความชุ่มชื้นผิว และยังมีคุณสมบัติเป็น barier ให้กับผิวของเราด้วย
2. ให้รักษากฎการล้างหน้าภายใน 20 วินาที . คุณ Kazunosuke แนะนำว่า ให้ล้างผลิตภัณฑ์ล้างหน้าออกภายใน 20 วินาทีหลังจากทาหน้าไปแล้ว การใช้เวลาสั้นๆ ไม่เกิน 20 วินาทีจะช่วยให้ผิวสามารถรักษาความชุ่มชื้นของมันได้ตามธรรมชาติ การทิ้งไว้นานเกินไป ผิวจะเสียความชุ่มชื้น
เทคนิคการล้างหน้าของเขา คือ ล้าง 2 ครั้ง ตอนเช้าและตอนเย็น โดยตอนเช้าไม่ได้แนะนำให้ใช้โฟมล้างหน้านะ ล้างด้วยน้ำอุ่นก็พอ เพราะในโฟมล้างหน้าจะมีสารลดแรงตึงผิวซึ่งจะค่อนข้างแรงสำหรับผิวหน้า และตอนเช้าหน้ายังไม่สกปรกมาก ไม่ต้องล้างโฟมก็ได้ ส่วนการล้างโฟมจะไปใช้ตอนเย็นครั้งเดียว
เรื่องนี้ดูมาจากรายการ Hanataka no Yuetsukan เค้าเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านสกินแคร์ในญี่ปุ่นมาให้คำแนะนำเรื่องการล้างหน้า ผมเห็นว่าหลายเรื่องน่าจะเอามาปรับใช้ได้ แต่บางเรื่องอ่านแล้วก็สงสัยเหมือนกัน เลยอยากให้เพื่อนๆลองอ่านแล้วช่วยกันวิเคราะห์ดูนะครับว่าวิธีเหล่านี้ใช้ได้กับบ้านเรามั้ย
อันนี้ใครคิดเนี่ย ไอเดียบรรเจิดมาก เป็นกาจาปองที่เมื่อหมุนแล้วจะได้ลุ้นว่า จะได้รูปถ่ายติดบัตรคนอื่น (ที่เราก็ไม่รู้จักนะ) . อย่างในรูปนี้เจ้าของเธรดหมุนได้รูปติดบัตรคุณลุงท่านนึง 🤣🤣🤣 twitter.com/aerobics_girl/…
หลายไอเดียก็เกิดจากการดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดนะ อย่างเคสนี้เป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์ในญี่ปุ่นชื่อว่า ACTUS ที่มีร้านค้า 30 สาขาทั่วประเทศ ร้านเริ่มขายโต๊ะเขียนหนังสือเด็กตั้งแต่ 40 ปีก่อน แต่ช่วงหลังๆ เจอวิกฤติหนัก เพราะเด็กเกิดน้อยลงมาก จึงต้องหาไอเดียบางอย่างเพื่อกระตุ้นยอดขาย
รายการมีแซวพิธีกรต่อว่า บนหน้าผากเวลามันย่น มันจะย่นแนวนี้ เวลาทาครีมที่หน้าผากก็ต้องทาแนวนั้นเช่นกัน 5555 ที่ริมฝีปากก็ใช้หลักการเดียวกัน เพราะลายผิวที่ริมฝีปากจะตรงจากบนลงล่าง ฉะนั้น เวลาทาลิปก็ควรทาแนวบนลงล่าง หรือล่างขึ้นบนครับ จะช่วยให้ดูดซึมลงริมฝีปากได้ดีกว่า
หากวันหลังจะทาครีมที่ส่วนไหน ให้สังเกตลายผิว ณ บริเวณนั้นๆ ก่อน แล้วให้ทาไปตามเส้นของลายผิวครับ จะช่วยให้ครีมดูดซึมเข้าผิวได้ดีขึ้น เช่น II —> II   = —> =
นี่เป็นเคล็ดลับจากรายการ Hanataka Yuetsukan เค้าบอกว่า หากใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์ทาผิว แล้วอยากให้ครีมดูดซึมเข้าผิวหนังได้ดียิ่งกว่า แนะนำให้ทา “แนวขวาง” ของแขน เพราะลายผิวคนเราจะเป็นแนวขวาง ถ้าทาในแนวนี้จะช่วยให้ดูดซึมเร็ว ลองส่องลายผิวดูนะ ไปทางไหนทาทางนั้น #สุขภาพญี่ปุ่นกับคุณบูม
5.อยากเพิ่มการโฟกัส ให้สร้าง routine หรือกิจวัตรอะไรบางอย่างก่อนลงมือทำ 6. ต้องลิสต์ “not to do list” มีอะไรให้ทำมากเกินไป ก็จะทำให้เสียเวลา เรื่องบางอย่างต้องกล้าตัดใจไม่ต้องทำก็ได้ 7.ลองเปลี่ยนเส้นทางเดินทางบ้าง จะเห็นแวดล้อมใหม่ๆ ช่วยกระตุ้นให้สมองทำงานกระฉับกระเฉงขึ้น
สรุป 7 เทคนิคเพิ่มผลลัพธ์การเรียนและการทำงาน 1.ออกกำลังกายเล็กน้อย 2-3 นาทีก่อนอ่านหนังสือ ช่วยให้โฟกัสดีขึ้น 2.อยากท่องจำได้ดี ให้แสดงความรู้สึก ความคิดเห็นออกมาพร้อมๆ กับการอ่าน 3.เล่นดนตรีช่วยให้จดจำได้ดีขึ้น 4.อยากตัดสินใจอะไรให้ฟังเพลงที่มีเสียงเบสลึก .
4. การฟังเพลงที่ให้เสียงเบสลึก (ย่านเสียงที่รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของเบส) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจได้ ฉะนั้น หากมีจังหวะต้องตัดสินใจอะไรบางอย่าง ให้ลองฟังเพลงที่มีเสียงเบสลึกดูครับ จะช่วยให้เราตัดสินใจดีขึ้น (ในรายการยกตัวอย่างเพลง เป็น we will rock you นะ)
3. การเล่นดนตรีจะช่วยให้เรามีผลลัพธ์ดีกว่าคนที่ไม่ได้เล่นดนตรี เพราะดนตรีจะช่วยเพิ่มทักษะความทรงจำ และทักษะการรับรู้ในเรื่องต่างๆ ด้วย ที่มหาวิทยาลัยชิลี คาทอลิกในประเทศชิลีมีการวิจัยในเรื่องนี้ โดยแบ่งเด็กอายุ 10-13 ปีออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มทีเรียนดนตรีกับกลุ่มไม่ได้เรียนดนตรีเลย
สาเหตุที่ให้ทำแบบนี้เพราะการท่องจำมันเชื่อมโยงกับสมองส่วนฮิปโปแคมปัส ซึ่งทำหน้าที่จัดการ จัดเก็บข้อมูล ความทรงจำใหม่เข้าไปในสมอง พอเราออกเสียง พูด “ความรู้สึก” “แสดงความคิดเห็น” ออกมาด้วยขณะท่องจำ ฮิปโปแคมปัสก็จะแยกแยะว่านี่คือเรื่องที่จำเป็น ควรจัดเก็บนะ เราเลยจำได้กีขึ้น
2. ใครไม่ถนัดท่องจำ แต่มีความจำเป็นต้องท่องจำบทเรียน สิ่งต่างๆ ให้ “พูดความรู้สึกต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการท่องจำออกมาด้วย” เช่น อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ แล้วรู้สึกว่า เรื่องที่คนนี้ทำสุดยอดจริงๆ นะ ก็เอ่ยปากแสดงความรู้สึกออกมาได้เลย “ทำได้ไงสุดยอดจัง” “หน้าตาซามูไรน่ากลัวมาก”
ระวังอย่าออกกำลังกายหนักจนเกินไป เพราะร่างกายจะเหนื่อยล้าจนเกินไป ทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนรู้ลดลง . ฉะนั้น ออกกำลังกายเบาๆ เอาแต่พอดีนะครับ แค่ 2-3 นาทีพอ
1. ก่อนจะอ่านหนังสือ ศึกษาเรียนรู้อะไร ให้ ”ออกกำลังกายเล็กน้อย”ก่อนเสมอ . โดยจะเป็นการออกกำลังกายอะไรก็ได้เบาๆ ใช้เวลาไม่เกิน 2-3 นาที หากทำสิ่งนี้จะช่วยให้สมองส่วนการให้รางวัล brain reward system ทำงานกระฉับกระเฉงขึ้น ช่วยเพิ่มความสามารถในการโฟกัสจดจ่อ อ่านหนังสือมีสมาธิมากขึ้น
7 เทคนิคเพิ่มผลลัพธ์ในการเรียนและการทำงาน เหมาะทั้งนักเรียน มนุษย์เงินเดือน และฟรีแลนซ์ที่ต้องการผลลัพธ์สูงสุดจากการลงมือทำ หลายเทคนิคเห็นแล้วว้าวจริงๆ เพราะทำได้ง่าย และลงมือทำได้ทันทีด้วย จะมีอะไรบ้างนั้นไปอ่านกันครับ #สาระญี่ปุ่นกับคุณบูม Cr: รายการ Sekaiichi Uketaijugyo
ดูจากรายการ Hanataka no Yuetsukan เค้าบอกว่าที่เนื้อวัวทาน rare ได้ แต่เนื้อหมูต้องทำให้สุกเท่านั้น เป็นเพราะว่าในเนื้อวัว เชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคจะอยู่ที่ผิวด้านนอก แต่ในเนื้อหมูจะมีเชื้อจุลินทรีย์อยู่ด้านใน ถ้าจะกินหมูต้องทำให้สุกทั้งชิ้นก่อนเพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่อยู่ด้านใน
ตอนเด็กๆ เพื่อนๆ ได้ค่าขนมกันเท่าไหร่บ้างครับ (ตอนเด็กๆ ผมเคยได้ตั้งแต่ 20 บาท ไปจนถึงสูงสุดที่ 100 บาท *รวมค่ารถเมล์ ค่ากินมื้อกลางวันด้วย) เธรดนี้จะมาเล่าให้ฟังว่าเด็กญี่ปุ่นได้ค่าขนมกันเท่าไหร่บ้าง ไปอ่านกันครับ #สาระญี่ปุ่นกับคุณบูม Cr: kaneo kun
ดูจากรายการญี่ปุ่น เค้าบอกว่า คนที่ขึ้นเครื่องชั่งน้ำหนักวันละ 2 ครั้ง มีโอกาสน้ำหนักลดมากกว่าคนที่ไม่ได้ขึ่นเครื่องชั่งเลย เพราะจะรู้ความเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัวเอง จะได้รู้ว่าพฤติกรรมที่ผ่านมาดีหรือไม่ ทำให้น้ำหนักขึ้น หรือน้ำหนักลด หากน้ำหนักลดก็จะมีแรงใจในการลดน้ำหนักต่อด้วย
ดูมาจากรายการญี่ปุ่น เค้าบอกว่า ห้องที่มีตาแมวส่องประตูก็อาจมีความเสี่ยงได้นะ เพราะที่ญี่ปุ่นเคยมีเคสโจรเอาอุปกรณ์พิเศษส่องจากข้างนอกของช่องตาแมวแล้วแอบถ่ายผู้หญิงเปลี่ยนเสื้อผ้า เค้าเลยแนะคำว่า ให้หาอุปกรณ์มาปิดช่องตาแมว (เอาไว้ใช้ส่องเมื่อจำเป็นเท่านั้น) #สาระญี่ปุ่นกับคุณบูม
รายการญี่ปุ่นถาม ระหว่างตึกสูงไม่เกิน 3 ชั้น กับตึกสูงมากกว่า 4 ชั้นขึ้นไป อันไหนเสี่ยงโดนปล้นมากกว่ากัน!? คำตอบคือ ตึกสูงมากกว่า 4 ชั้นมีโอกาสถูกปล้นมากกว่า เพราะคนที่อาศัยในตึกสูงมีแนวโน้มไม่ระวัง เพราะคิดว่าที่พักมีระบบออโต้ล็อค และโจรไม่น่าขึ้นมาที่ตึกสูง
เรื่องนี้น่าสนใจมากครับ ที่ญี่ปุ่นเค้าเก็บสถิติว่า “ขโมยลักลอบเข้าบ้านด้วยวิธีไหนมากที่สุด” คนส่วนใหญ่จะคิดว่าเป็นวิธีการทุบกระจก หรือพังกุญแจแล้วบุกเข้าไป แต่คำตอบคือ ขโมยจะชอบเข้าบ้านคนที่ไม่ยอมล็อคกุญแจบ้านมากที่สุดครับ ฉะนั้นจะออกไปไหนมาไหนให้เช็คให้ดีก่อนนะว่าล็อคบ้านหรือยัง
เรื่องปาฏิหาริย์ไม่ได้มีแค่นั้น จากสมุดบันทึกสุขภาพทำให้รู้ว่า ทั้งสองเกิดวันเดียวกัน และยังเกิดโรงพยาบาลเดียวกันอีกด้วย ที่ รพ.อิชิดะ เสียดายอย่างเดียวรายการไม่ไปสัมภาษณ์คุณแม่ของทั้งสอง อยากรู้ว่าบังเอิญจริงๆ หรือแม่ของทั้งคู่แอบคุยกันในห้องคนไข้แล้วนัดกันตั้งชื่อลูกรึเปล่า55