⠵⠑⠝⠚⠊(@zenjigame)さんの人気ツイート(古い順)

101
แจก writing template ในการเขียนเปเปอร์เป็นอิ้งครับ เรียงให้ตามใจความที่อยากสื่อ
102
ใครอยากได้เป็นไฟล์โหลดได้ตามลิงก์นี้เลยครับ blogs.monm.edu/writingatmc/fi…
103
ช่วงนี้มีคนมาขอให้ช่วยเรื่องการเขียน essay ช่วยไปแนะนำ source ให้ไปลองดูเพิ่ม และพบว่ามี Youtube channel ที่สอนเรื่องนี้ไว้ได้ดีมากทีเดียวครับ สนใจลองดูนะครับ youtu.be/UFXN8v4V-fI
104
#มีหนังสือมาเสนอ นส.เล่มนี้เป็นตำราเรียนวิจัยสังคมศาสตร์ที่หลายๆ มหาวิทยาลัยใช้ครับ การันตีคุณภาพว่ามีค.รู้จำเป็นในการทำวิจัยสายสังคมอยู่เต็มเปี่ยม Earl Babbie ผู้เขียนอธิบายแนวคิดต่างๆ ตั้งแต่การวิจัยคืออะไร ตัวแปรเป็นยังไง พร้อมยกตัวอย่างไว้ละเอียดทีเดียว ใครสนใจลองหาดูครับ
105
(1) ว่าด้วยเรื่องการเขียน argumentative essay ปีนี้เจอคนที่มีปัญหากับการเขียน argumentative essay เยอะเหมือนกัน เลยจะมาแชร์ทริคในการเขียนแนวนี้ให้ครับ argumentative essay หลักๆ คือการหาเรื่องมา 1 เรื่อง (ซึ่งเรื่องนั้นควรประเด็นที่ controversy ประมานนึง คือ มีมุมมองได้หลายมุม)
106
(2) เมื่อเลือกเรื่องแล้ว ให้ค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนั้นเพื่อทำค.เข้าใจเรื่องก่อน โดย 1) ศึกษาพัฒนาการในเชิงแนวคิดหรือปวศ.ของเรื่องนั้น 2) ศึกษาแง่มุมค.เห็นต่างๆ ของเรื่องนั้น หลังจากนั้นเลือกมุมมองหรือแนวคิดมา 1 มุมที่เราคิดว่ามุมนี้หรือทางนี้แหละคือ แง่ที่ดีในการมอง
107
ว่าด้วยเรื่อง such as ... ได้ตรวจงานเขียนแล้วพบว่า วลีใช้ยกตย. ส่วนมากที่ชอบใช้กันคือ such as กับ for example จริงๆ มีให้เลือกใช้อีกหลายตัวเลย ได้แก่ ..including: ..but not limit to: ..some of which are: ..which include: ..for instance: .. ー x, y and z to name a few.
108
(1) มีโอกาสได้ฟังและให้คะแนนงานนำเสนอของนิสิตปี 1 เรื่องของเรื่องคือ มีนิสิตคนนึงนำประเด็นซีรีส์ Y มาพูด ซึ่งพูดได้น่าสนใจว่า ซีรีส์ Y นำไปสู่การสร้างกรอบแบ่งประเภทผู้ชายใหม่ เป็นผู้ชายมาดเคะ และผู้ชายมาดเมะ ซึ่งการแบ่งเช่นนี้ทำให้สังคมเปลี่ยนการให้คุณค่าในพฤติกรรมของผู้ชายไป
109
(5) และยังเหลืออีกหลายๆ คำถามที่น่าหาคำตอบครับ จริงๆ ในห้อง นิสิตคนที่เสนอก็ชูประเด็นเรื่องซีรีส์ Y นอกจากจะยัดเยียดกรอบในการตีค่าแล้ว ยังทำให้ภาพผู้ชายแบบเคะ ที่โดน sexual harrassment ดูเป็นเรื่องปกติไปด้วย โดยการเสนอภาพว่าในท้ายที่สุดการถูกทำเช่นนั้นก็จบลงที่รักกันอย่างมีค.สุข
110
วันนี้นักเรียนไปสอบวัดระดับญี่ปุ่น ใครสอบ N3 เล่าให้ฟังทีได้ไหมครับ เกิด war อะไรขึ้น น้องที่สอนเล่าว่า มีคนยกมือเทปเสียงก้องไป การสอบชะงักลง คนขอออก อยากรู้ความวุ่นวายเป็นไง จริงๆ น้องที่สอบ N5 N4 ก็บ่น ส่วนตัวมองว่าการเอา Impact เป็นสนามสอบไม่เวิร์คอยู่แล้ว
111
ถ้าเยีขนข้อวคามประมนานี้แล้ยวังอ่าอนอกสาบยๆ แดสงว่าภษาาไทยก็เกิด typoglycemia เมหือนกัน Typoglycemia ที่ว่านี้คือความสามารถของสมองในการอ่านข้อความที่สลับตัวอยู่บ้างเล็กน้อยออก ทำให้นักภาษาศาสตร์รู้ว่าจริงๆ แล้วสมองเราอ่านตัวอักษรในคำไม่หมดแล้วเราอ่านเพื่อเข้าใจคำทั้งคำ
112
เอาเข้าจริง การเรียนภาษาที่ 2 ที่ 3 ไปจนถึงจุดสูงๆ พื้นฐานภาษาแม่ก็ต้องดีด้วย จริงๆ ก็คิดแบบนี้มาสักพักแล้วจากการเรียนของตัวเอง แต่พอได้สอนก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้น ว่าพอขึ้นชั้นสูง การมีคลังศัพท์และมีความละเอียดอ่อนในภาษาแม่ตัวเอง ทำให้ข้าใจภาษาอื่นที่กำลังเรียนอยู่ได้ง่ายขึ้นจริงๆ
113
#มีเปเปอร์มาเสนอ งานนี้ศึกษาคนไร้เพศ ผู้วิจัยเสนอว่าการระบุตัวตนเป็นคนไร้เพศเป็นกระบวนการซับซ้อนผ่านการรับรู้เรื่องเพศรวมถึงชีวิตเรือนร่างที่อาบไปด้วยประสบการณ์ของบุคคลดั่งกล่าว นอกจากนี้ วาทกรรมการแบ่งเพศภาวะแบบ LGBTQ+ ก็ทำให้ภาพความไร้เพศซับซ้อนขึ้นด้วย ใครสนใจลองหาอ่านดูครับ
114
ทำ slide สอนนิสิตปี 4 ทำไปทำมาคิดว่ามีประโยชน์กับคนที่ต้องใช้ SPSS อยู่ เลยเอามาแบ่งปันครับ chart นี้เป็น chart แสดงค่าสถิติเมื่อต้องการทดสอบประเด็นต่างๆ ในงานวิจัยสายสังคม ปกติก็ดูกันว่ามีนัยยะสำคัญไหม ไม่ก็ดูระดับความเข้มข้นและทิศทางของค.สัมพันธ์ระหว่างตัวแปร ขนมาให้หมดละครับ
115
รูปน่าสนใจครับ จริงๆ ก็อยากถามความเห็นอยู่เหมือนกัน คิดว่าทุกวันนี้ (เอาตัวคุณเป็นที่ตั้งนะ) ตามภาพนี้ยังคงจริงอยู่ไหม
116
จุฬาประกาศปรับอัตราค่าเล่าเรียนในการศึกษาแต่ละเทอมใหม่แล้วนะครับ ป.ตรี ภาคไทย วิทย์พวกแพทย์ 34000 วิทย์ประยุกต์ เช่น จิตวิทยา 26500 วิทย์กายภาพ พวก สถาปัตย์ วิศวะ 25500 สังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ 21000 ป.โท ภาคไทย สายวิทย์อยู่ที่ 33500-48000 สายสังคมและมนุษย์อยู่ที่ 24500-31000
117
อ้อ อัตรานี้เริ่มใช้ปี 63 นะครับ นิสิตที่เข้าเรียนก่อนปี 63 ยังคงใช้อัตราเดิมจนจบการศึกษาในปริญญานั้นๆ ทั้งป.ตรีและระดับบัณฑิตศึกษาครับ
118
#มีหนังสือมาเสนอ นส.เล่มนี้มอง “เวลา” ในฐานะตัวแปรที่มีค.สัมพันธ์กับปรากฏการณ์สังคมครับ นส.พาไปทำค.เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับเวลาในด้านต่างๆ พร้อมทั้งชักชวนให้ตั้งคำถาม อาทิ การรับรู้เกี่ยวกับเวลาเมื่อวิทยาศาสตร์พยายามทำให้เวลาทางสังคมกลายเป็นภาพเชิงปริมาณ ใครสนใจลองหาอ่านดูนะครับ
119
มีโอกาสได้สอนการเขียน essay คิดว่าส่วนหนึ่งของสไลด์ที่สอนน่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่ต้องเขียนงานส่งเป็นประจำ เลยแชร์ให้ครับ เป็นสไลด์สรุปโครงร่างการเขียน ข้อคำนึงในการสร้างหัวเรื่อง protocal ในการ lit review และตัวอย่าง template ใช้จัดการเนื้อหาที่ได้จากการ lit review ครับ
120
น่าเปิดคลาสสอนเขียน essay สอนตั้งแต่กระบวนการคิด เทคนิคจำเป็นพวกการสแกนและคัดเลือกบทความ ดีไซน์บันทึกข้อค้นพบ การใช้ข้อมูลที่ได้ การเขียนส่วนต่างๆ เช่น ความนำแบบต่างๆ กลเม็ดเขียนบอดี้ แถมการใช้ Endnote ทำคลังข้อมูลอ้างอิง สอนว่าใช้การอ้างแบบไหนตอนไหน เอาจริงมหาลัยควรมีวิชานี้
121
เป็นคนติดจำคำศัพท์จากที่มา หรือส่วนประกอบของคำ ชอบพวก prefix / suffix / root มาตั้งแต่จำความได้ รู้สึกว่า ถ้ารู้คำนี้ประกอบมาจากอะไร ประกอบขึ้นมายังไง ก็จะจำคำนั้นได้ไปเลย เช่น พอรู้ว่า ab- แปลว่า ‘away’ คำอย่าง absent / abduct / adject ก็เข้าใจง่ายขึ้นมาทันที
122
ให้นร.เขียน essay ในหัวข้อที่สนใจ นร.เลือก การค้าประเวณี ซึ่งเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องใช้ศัพท์เกี่ยวกับการ "ร่วมเพศ" นร.มีคำถามว่า นอกจาก sexual intercourse แล้ว มีคำอื่นอีกไหม เลยบอกเพิ่มอีก 3 คำ คือ - copulation - coition - fornication (คำนี้ใช้กับการร่วมเพศของคนที่ยังไม่แต่งงาน)
123
ว่าด้วยเรื่อง toxic masculinity (1) คนนำคำนี้มาใช้ตามสื่อเยอะขึ้นเรื่อยๆ จำนวนหนึ่งเข้าใจว่าคำนี้พูดถึงผู้ชายที่มีพฤติกรรมหรือทัศนคติที่เป็นพิษเมื่ออยู่ด้วย ที่จริงแล้ว โดยเฉพาะในวงวิชาการคำนี้อ้างถึง สภาพที่บรรทัดฐานทางสังคมเกี่ยวกับเพศชายได้ทำร้ายผู้ชาย รวมถึงคนอื่นๆ ในสังคม
124
(2) คำนี้ถูกคิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 80-90 ครับ ตามนิยามเดิมหมายถึง การที่ค่านิยมค.เป็นชาย เช่น ผู้ชายต้องปกปิดความอ่อนแอ ต้องมีภาพผู้นำ ดูเข้มแข็ง ดูมีอำนาจ น่ายำเกรง สร้างเงื่อนไขหรือกดดันผู้ชายที่ออกจากบรรทัดฐานดังกล่าวให้ดูด้อยลง ที่เราพูดว่า “ดูไม่แมน” นั่นแหละครับ
125
(3) นอกจากนี้ ยังใช้อ้างถึงภาวะที่สังคมยอมรับ/ทำเป็นเพิกเฉยต่อค.รุนแรงบางประเภท เช่นการชกต่อยระหว่างผู้ชาย หรือค.รุนแรงในครอบครัว เนื่องจากมองว่าเป็นสิ่งที่ผู้ชายกระทำได้ในสังคมจากธรรมชาติความเป็นชายตามบรรทัดฐานทางสังคม ซึ่งในท้ายที่สุด กลับเป็นผลเสียต่อคนในสังคมเสียเอง