⠵⠑⠝⠚⠊(@zenjigame)さんの人気ツイート(いいね順)

226
(4) ทว่าในปัจจุบันคำนี้ได้ขยายค.หมายโดยคลุมถึง “ตัวผู้ชาย” ที่ใช้ค.รุนแรงในการแก้ปัญหา เหยียดเพศ ทัศนคติป่วย ด้วย ซึ่งฉีกออกจากค.หมายที่ใช้แต่แรก ในแง่นี้จึงอาจจะต้องดูบริบทในการใช้ดีๆ ครับ ค.หมายล่าสุดยังถูกจำกัดในเชิงวิชาการ ดังนั้นหากใครใช้ในงานวิชาการอาจจะต้องระวังนิดนึงครับ
227
แค่มีการเลือกตั้งไม่ได้แปลว่าประเทศมีความเป็นประชาธิปไตยป่ะ ? เกาหลีเหนือเขาก็เลือกตั้ง เดี๋ยวนี้การจัดการเลือกตั้งมันเป็นแค่การแสดงฉากหน้าเพื่อซ่อนความไม่โปร่งใสหลังฉากมากกว่าไปซะแล้ว ประชาธิปไตยจริงๆ อยู่ที่การตรวจสอบได้มากกว่านะ ซึ่งข่าวไม่ค่อยเสนอด้านการตรวจสอบเลย
228
อ้อ อัตรานี้เริ่มใช้ปี 63 นะครับ นิสิตที่เข้าเรียนก่อนปี 63 ยังคงใช้อัตราเดิมจนจบการศึกษาในปริญญานั้นๆ ทั้งป.ตรีและระดับบัณฑิตศึกษาครับ
229
(6) เช่นค่านิยม อาทิ ผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว ผู้หญิงห้ามพูดจาโผงผาง ผู้หญิงควรนอบน้อมเชื่อฟังคนอื่น ผู้หญิงต้องมีเสน่ห์ปลายจวัก ได้ไปกดทับเสรีภาพพึงกระทำได้ของผู้หญิง หรือสร้างเงื่อนไขให้ผู้หญิงเสียเอง
230
จริง ๆ อธิบายเชิงสังคมวิทยาไม่ยากเลย 555 อย่ามองมันเป็นการเมือง มองมันเป็นความสัมพันธ์เชิงภักดี มองมันเป็นผลต่างตอบแทนที่ system ดีลกับ agency โครงสร้างทางสังคมที่เหลื่อมล้ำในทุกมิติ + ไทยเนี่ย faithful society สังคมแห่งความศรัทธามากๆ อ้างศาสนา อ้างสถาบันหน่อยก็แห่ให้กดขี่ละครับ twitter.com/FeiZV/status/1…
231
(2) แล้วจริงๆ พอมันมีปรากฏการณ์ที่มี drawback เกิดขึ้นเราก็ hypothesize ได้เลยว่าสังคมออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียมี chaos และมีสภาพ toxic เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่งั้นคำนี้จะไม่สะท้อนออกมาชัดและเริ่มแผ่ขยายขนาดนี้ นี่เลยอยากศึกษา mechanism ว่าสภาพแวดล้อมเช่นไร induce ให้คนทำ social detox
232
(5) ด้วยกระแสการใช้ toxic masculinity ที่มากขึ้น คำอย่าง toxic femininity ก็เกิดขึ้นมาด้วย ตรงนี้เป็นปัญหาว่า มันเกิดขึ้นมาจากการเทียบกับ toxic masculinity ใน sense ไหน? แต่ถ้ายึดตามขนบ คำนี้ควรอ้างถึงภาวะที่ความเป็นหญิงตามบรรทัดฐานสังคมถูกใช้ทำร้ายผู้หญิงและส่งผลเสียต่อสังคม
233
(7) ในแง่นึง พอค.หมายของ toxic masculinity กว้างขึ้น คำนี้ก็นำไปใช้ในค.หมายว่า “ผู้หญิง” ที่มีพฤติกรรมหรือทัศนคติแย่ อยู่แล้วรู้สึกเป็นพิษ ได้เช่นกัน ตอนนี้ทั้งสองคำอยู่ในภาวะที่ค.หมายเกิดค.ลื่นไหลอยู่ หากนำไปใช้ควรระบุค.หมายที่ต้องการสื่อให้ชัดเจนเพื่อกันค.เข้าใจคลาดเคลื่อนครับ
234
ถูกฮะ จริงๆ วิทย์/สังคมเริ่มเรียนเหมือนกันอยู่นะ วิทย์เริ่มจากตั้งคำถามทางนี้ก็เริ่มแบบนั้น จุดทำให้ไปคนละทางคือ fact แหละ ธรรมชาติของ natural facts กับ social facts ต่างกัน facts ทางวิทย์เปลี่ยนแปลงไม่ไวแต่ทางสังคมเปลี่ยนไวมาก เลยศึกษาไม่เหมือนกันเพราะตอบโต้กับ facts คนละแบบกัน twitter.com/stampwords/sta…
235
ถามอ.ว่า คนที่ได้เกียรติ 1 ควรมีเท่าไหร่ต่อคนทั้งรุ่น อ.ให้ค.เห็นว่าควรมีประมาณ 10 เปอร์เท่านั้น ให้คนที่เป็นเลิศจริงๆ ซึ่งเขาต้องแสดงให้เห็นผ่านความรู้หลายๆ วิชา อ.บอกว่ามันสำคัญกับการสมัครงานสายวิชาการ แบบมันยังพูดได้เต็มปากว่าจะสมัครอาจารย์แต่คุณไม่ได้เกียรตินิยมมาราศีก็ไม่จับ
236
(5) และยังเหลืออีกหลายๆ คำถามที่น่าหาคำตอบครับ จริงๆ ในห้อง นิสิตคนที่เสนอก็ชูประเด็นเรื่องซีรีส์ Y นอกจากจะยัดเยียดกรอบในการตีค่าแล้ว ยังทำให้ภาพผู้ชายแบบเคะ ที่โดน sexual harrassment ดูเป็นเรื่องปกติไปด้วย โดยการเสนอภาพว่าในท้ายที่สุดการถูกทำเช่นนั้นก็จบลงที่รักกันอย่างมีค.สุข
237
“ประชาธิปไตยไทยจบลงที่การเลือกตั้ง” ส่วนใหญ่รู้สึกว่าไปใช้สิทธิ์คือได้ทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยแล้ว แต่จริงๆ ประชาธิปไตยเริ่มหลังเลือกตั้ง เราควรหมั่นทวงสัญญาที่เขาบอกจะทำ ควรส่องการประชุมสภาทุกครั้ง ควรวิเคราะห์นโยบายและการบริหารบ่อยๆ แบบนี้อะคือการใช้สิทธิ์ในอำนาจของเราจริงๆ
238
(2) นอกจากแนวโน้มชื่นชอบคู่ครองแบบ homogamy แล้ว การเลือกคู่ครองยังมีแนวโน้มที่จะเลือกคนที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเราด้วย นักสังคมวิทยาพบว่า หากคนที่เราคุยด้วย อยู่ในพื้นที่สังคมใกล้เรา เช่น จบรร. หรือมหาลัยเดียวกัน เราจะมีแนวโน้มปันใจให้ง่ายกว่า สังวิทย์เรียกอันนี้ว่า propinquity
239
(3) ยังไม่นับว่าสนใจศึกษารูปแบบของการทำว่าเป็นยังไง มี correlation กับ independent variables ตัวไหนยังไง แล้วมันจะยิ่งน่าสนใจทีนี้พอได้ pilot มาประมานนึงแล้วเอามาขยายด้วย conceptual framework ตั่งต่าง
240
@Devilkin21 @typx27 เขียนทวิตนี้เพิ่มต่อท้ายแต่ติดงาน มาอีกทีคนรีไปเยอะแล้ว อย่าเพิ่งไปตีกันว่าใช้กันเกลื่อนไม่เกลื่อนนะครับ 55 คือท่อนข้อความที่มี They is มันพิมพ์ว่า John is my friend. They is a doctor แต่เป็นท่อนในอารติเคิลแนว queer น่ะครับ น้องถามพิมพ์ผิดไหม ผมบอกว่าเขาน่าจะใช้เพื่อชูประเด็น 55