1
Tips การทำงานแบบสายตะวันตก
• อย่าเงียบ ถ้าเงียบ = ยอม/เห็นด้วย มีอะไรให้ไป discuss ไม่พอใจอะไรต้องบอก deal to the right person
• มีข้อมูล+เหตุผล อย่าใช้อารมณ์ เถียงแบบข้างๆ คูๆ ควรมีหลักฐาน
• รักษาคำพูด+เวลา
• มีค.รับผิดชอบ
• ทำผิดให้ขอโทษตรงๆ แล้วหาทางแก้ อย่าขอไปที
2
• อย่าคิดไปเอง ไม่เข้าใจให้ถาม อย่าคิดว่าเขาต้องรู้เพราะเขาไม่มีความจำเป็นต้องเข้าหาคนอื่นที่ไม่เกี่ยวไรกับชีวิตเขาโดยตรง
• อย่าหวังน้ำใจ มันไม่ใช่ way เขา ทุกคนมีเวลาของตัวเอง
• มีมารยาท เลือกใช้คำพูดที่สุภาพเวลารู้ส่าต้องไปรบกวนเขา
• ถ้าเขา refuse ที่จะช่วยก็อย่าไปว่า
3
เอาจริงๆ คนทำงานสายตะวันตกที่ได้ภาษามากๆ แล้วรู้วัฒนธรรมเขาจะเป็นคนกล้าพูดกล้าเถียงหรือไม่ชอบความวุ่นวายเวิ่นเว้อก็ไม่แปลกหรอก มันมีหลายอย่างที่ต่างกับฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะแนวคิด เพราะเรื่อง equality และเสียงของตัวเองต่างกันเยอะด้วย ถ้าไม่พูด ไม่แสดงออก ไม่มีใครสนใจว่าคุณสื่ออะไร
4
เลือกเรียนสายไหน ถ้าเป็นสิ่งที่รักแต่ไม่ใช่สิ่งที่ตลาดต้องการ = คุณมีความกล้าหาญที่เลือกทำในสิ่งที่รัก และให้ค่ากับมัน ทำเพื่อตัวเอง
มันไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นการเติมเต็มทางจิตใจ ต่อจากนั้นจะต่อยอดหรือหาไรเรียนเพิ่มยังมีโอกาสอีกมาก โลกมีไรให้เรียนรู้อีกเยอะที่อัพเดตได้ตลอดเวลา +
5
หลานแฟนในนอร์เวย์เองก็ต้องเอาไปนอนกลางวันข้างนอกบ้าน เขาบอกว่าเป็นวิธีให้ร่างกายเด็กชินกับสภาพอากาศ ลดการเกิดแบคทีเรีย เด็กจะนอนหลับได้ดีกว่าถ้าได้อากาศบริสุทธิ์
เซฟขนาดที่ไม่ต้องกลัวคน kidnap แล้วโตมาคือร่างกายอึดกันมาก สอนให้ล้ม เจ็บ แล้วลุกเป็นเรื่องปกติ twitter.com/todayyearsoldi…
6
อยากเก่งเรื่องลงทุนหรือเรื่องไหนๆ สิ่งแรกที่ควรมีคือ positive mindset ถ้ามีตรงนี้ได้ ทุกๆ อย่างจะตามมาเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
• การเรียนรู้
• การรับมือความเสี่ยง
• การ handle กับปัญหา
แล้วมันจะ lead ไปเรื่องการเข้าใจและยอมรับในสิ่งต่างๆ เพราะมันคือการเปิดใจให้ตัวเอง+
7
นี่โดนผช. 🇸🇪 🇯🇵 🇳🇴 พูดว่า “ทำไมเธอรู้เรื่องเศรษฐกิจ/ธุรกิจเยอะ”
เลยบอก “แล้วทำไมเธอรู้ล่ะ ก็เหมือนกันน่ะล่ะ” นี่คุยกับบางคนก็ปล่อยให้คุยไปนะ (ทำเป็นไม่รู้เรื่อง)
แต่ partner อิตาลีที่เป็นนักวิเคราะห์ตลาดหุ้นจริงๆ กลับบอกกับเราว่า “ดีนะ มันมีประโยชน์มาก” ตั้งแต่นั้นก็คุยกันตลอด twitter.com/37564kr/status…
8
สมองกับการนอน
#Fact
• ความต้องการในการนอนของแต่ละคนไม่เท่ากัน
• ถ้าเวลาในการนอนแบบสนิทลดลงกว่า 2 ชม.เสี่ยงความจำหาย เพราะสมองจะรับประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน แล้วเอามาประมวลซ้ำตอนเราหลับ จนเกิดเป็นความจำระยะสั้น ก่อนที่จะพัฒนาเป็นระยะยาว+
9
ถ้านอนไม่พอ = สมองไม่ได้พักแล้วไปขัดขวางกระบวนการสร้างความจำ เป็นบ่อยๆ จะทำให้เป็นคนลืมง่าย คิดไรไว้ก็ลืมง่ายๆ
**ถึงจะนอนชดเชยก็กู้ความจำกลับมาไม่ได้ รวมทั้งการนอนหลับสนิทดีหว่าการนอนหลับๆ ตื่นๆ**
**สำหรับผู้ป่วยด้านจิตเวชเองก็มีโอกาสสูงมากที่จะกลับมาเป็นโรคอีก
10
Mental health should be the priority กลุ่มที่ออกมา defense หรือวาดภาพอะไร ควรหาค.รู้ และระวังการแสดงออกให้มากๆ เราว่านี่มันเกินไปที่จะมา romanticize
• เรื่องเพิ่งเกิด เขาไม่ควรถูก force ให้ออกมาเจอคนเยอะๆ เพราะยิ่งไปกระตุ้น trauma ทำให้สมองยิ่งเกิดอาการเครียด ไม่สามารถทำใจได้+
11
น่าสนใจที่วันนี้สังเกตเห็นว่าเวลาถามเด็กเล็กๆ ด้วยคำถาม “ทำไม” หลายๆ ครั้ง แล้วเขาจะตอบทุกครั้ง ไม่โมโหหรือสะบัดใส่ ต่อให้ตอบแบบจินตนาการล้ำๆ
แต่ผู้ใหญ่ไทย ถ้าถามเกิน 2 ครั้ง..เขาจะเริ่มหงุดหงิด แล้วมาด้วยคำบ่นว่า “ถามอะไรนักหนา” 🧐
12
#เธรด จัดระเบียบความคิด จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ handle ปัญหาได้ดีขึ้น ถ้าฝึกสกิล decision-making จริงๆ สกิลนี้ถูกสอนในการบริหารธุรกิจ แต่เราเอามา adapt กับชีวิตจริงด้วย มีอยู่ 7 stages 👇🏻
13
1. Set objectives
ก่อนเริ่มตัดสินใจทำ ต้องรู้ว่าทำไปเพื่ออะไรก่อน แล้วมันควร specific ไม่ใช่ความอยากเลื่อนลอย เช่น “มีเป้าอยากลดนน.” แต่ไม่มีการ set ให้เคลียร์ว่า จริงๆ ทำเพื่ออะไรเป็นหลัก (สุขภาพ? หุ่น? เข้าสังคม? ประหยัด?)
แล้วต้องมี timeframe ที่ชัดเจน เช่น 1 กก.ใน 1 เดือน
14
2. Assess the problem or solution
เข้าใจสถานะตัวเอง ขุดต้นตอปัญหาให้เจอ เวลาหาทางแก้ก็จะง่ายขึ้น เช่น เรานน.ขึ้นเพราะอะไร? ตอนนี้เรานน.เท่าไหร่แล้ว? ถ้าจะแก้เลือกแก้ตรงไหนก่อนดี?
Level ความหนัก-เบาของปัญหา
เป็นการจัด priority และเริ่ม self-talk เพื่อเข้าใจปัญหาได้ชัดขึ้น
15
3. Gather data about the problem and possible solutions.
หาข้อมูลใส่สมองที่เกี่ยวกับปัญหาให้มาก พยายามเข้าใจปัญหา ยิ่งเข้าใจ ยิ่งหา possible solution ได้มากขึ้น เช่น หาข้อมูลทางสุขภาพ (ที่ relating กับตัวเรา ข้อมูลโภชนาการ การทำงานของร่างกาย etc.)
ฝึก Self-learning skill
16
Consider all decision options
พอรวบรวมทางแก้ได้หมดแล้ว ค่อยๆ ตัดส่วนที่เป็นไปได้ยากออกไปก่อน เลือก most possible option ก่อน อะไรที่เราทำได้ตอนนี้บ้าง แล้วถึงจะค่อยๆ ไต่ไป option ที่ยากขึ้น เพราะบางครั้งเรามี resource ไม่พร้อม ต้องใช้เวลารวบรวม เช่น ยังไม่มีเงินหาเทรนเนอร์ etc.
17
5. Make the strategic decision
ตั้ง short & long-term goals & vision เพื่อเข้าใจภาพรวมทั้งหมด สร้าง motivation ให้ตัวเอง ยิ่งเราเห็นว่าเราต้องการอะไร รู้ position ตัวเองแบบขั้นบันได
การที่จะตัดสินใจจะไปในทางที่แม่นยำก็จะยิ่งสูง แล้วเกิดความ regret น้อยลง (แนวรู้งี้..)
18
7. Review it’s success against the original objectives
ต้องประเมินตัวเอง (สำคัญมาก) เพราะเป็นการสร้าง motivation ในครั้งต่อๆ ไป ให้รางวัลและคำชมกับตัวเอง ถ้ายังไม่สำเร็จทั้งหมด **อย่าเบลมตัวเอง** ให้นึกเสมอว่า เราขยับขึ้นมาทีละนิด ยังดีกว่าไม่ทำไรเลย ค่อยทำให้ดีขึ้นครั้งต่อไป
19
• Active ถ้าเริ่มรู้ตัวว่าปล่อยตัวเองมากไป ต้องรีบหาไรทำให้ตื่นตัวตลอด แก้ปัญหาการผลัดวันประกันพรุ่ง
• ลดเวลาสนใจเรื่องอื่นน้อยลง อาทิพวก passive activity เช่น ดูทีวี/เล่นเกมเยอะไป เมาส์มากไป ว่างสำหรับทุกคน ช่วยทุกคน ทุกกิจกรรมทำได้แต่จ้องจำกัดเวลา
• ศึกษาตลอด อัพเกรดตัวเอง
20
• อย่าใส่ใจคำพูดคนอื่นมาก
**และข้อสุดท้ายคือ อย่าทำหนักเกินไปจนสุขภาพกาย/ใจทรุด คุณต้องหมั่นเติมค่าพลังชีวิตตลอด ถ้ารู้ว่าเริ่มตึง เครียด ต้องพัก/ถอยออกมา ต้องรู้ลิมิตตัวเอง
อย่าลืมว่าเป้าหมายอาจจะสำเร็จแต่คัวเองไม่ทันอยู่ชื่นชมก็ไม่มีความหมาย เพราะหลักๆ คุณทำเพื่อตัวเอง
21
คนน่าจะลืมว่าแม่คนร้ายที่กราดยิง เขาก็เสียใจที่ลูกเขาเสียเหมือนกันนะ อีกอย่างลูกเขาก็บรรลุนิติภาวะแล้ว มันไม่ใช่หน้าที่ที่ต้องรับผิดตาม
คนที่ตายคือลูก แต่คนแม่ไม่ได้ทำไรอันตราย การเลี้ยงดูของครอบครัวอาจมีส่วนในพฤติกรรมลูก **แต่ไม่ใช่ทั้งหมด**
พ่อแม่บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกทำไร
22
Work hard = ควรใช้ในสิ่งที่เราสนใจ และต้องการเห็นมัยประสบความสำเร็จ ควรเป็นในรูปแบบ project
Work smart = ใช้กับการทำงานที่ต้องทำเป็นประจำหรือ long-term เพื่อลดภาระทางร่างกาย
ไม่มีใครทำงานหนักๆ ได้ตลอดแล้ว healthy ล้วนแต่ผ่อนส่งสุขภาพในระยะยาวกันทั้งนั้น ตอนนี้ fine ต่อไป die
23
#เธรด อ่านเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับ #การควบคุมอาการคลั่งรัก ผ่าน science
❤️ เข้าใจก่อนว่าส่วนผสมเคมีความรักมี 3 ส่วน
• ความใคร่: แรงกระตุ้นทางเพศ ร่างกายหลั่ง Testosterone & Adrenaline
• ความหลงใหล: รู้สึกดี
Dopamine&Phenethylamine
• ความผูกพัน: รักนานๆ Oxytocin& Vasopressin
24
How we fall in love:
• ความใคร่จะเกิดเมื่อเจอคนถูกสเป็ค อวัยวะเพศจะหลั่งฮอร์โมนกระตุ้นความต้องการ
• พอใจตรงกัน ระบบสมองส่วนของ rewarding จะผลิตฮอร์โมนความสุขทำให้เกิดอาการ “เสพติด” ออกฤทธิ์คล้ายยาบ้าทำให้ตื่นเต้นกระปรี้กระเปร่า ส่งผลให้โลกสีชมพู กินไม่ได้ นอนไม่หลับ คิดถึงตลอด
25
#อาการคลั่งรัก
จากการสำรวจพบว่าคนที่คลั่งรักมากๆ มีอาหารคล้ายคนที่เป็นโรคย่ำคิดย้ำทำ ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับอาการหมกมุ่นที่ “ควบคุมไม่ได้” หากมีมากไปอาจจะทำให้จิตใจว้าวุ่น จนอาจจะเป็นภัยกับตัวเอง เช่น ขาดสมาธิ จดจ่อ หวาดระแวง หึงหวง มีความรู้สึกอยากครอบครองจนแรงกล้า