เห็นอันนี้แล้วรู้สึกถึงโลกอนาคตมาก! เป็นการโฆษณา QR Code ในเซี่ยงไฮ้ โดยใช้โดรนบินทำรูปร่างแบบที่เห็น Cr: จากทวิตคนญี่ปุ่นด้านล่าง twitter.com/Luck81O/status…
ชอบรายการญี่ปุ่นตอนนี้จัง เค้าพยายามรณรงค์ให้ผู้ใหญ่เห็นว่า “เด็กรู้สึกไม่อยากไปโรงเรียน ไม่ใช่เรื่องผิดนะ” เพราะปัญหาในโรงเรียนก็มีเยอะ การกลั่นแกล้งบ้าง แบ่งชนชั้นบ้าง และมีช่องทางอื่นๆ ที่ใช้เรียนรู้ได้เหมือนกัน Free School, Home School เดี๋ยวมีเวลาว่าจะเอาเรื่องนี้มาเล่ายาวๆ
อยากให้น้องหมา น้องแมวรู้สึกรักตั้งแต่แรกพบ ผมมีเทคนิคมาฝากครับ!! แนะนำโดยคุณหมอ Shirai หนึ่งในสัตวแพทย์ 11 คนในญี่ปุ่นที่ตรวจรักษาสัตว์ด้วยการศึกษาพฤติกรรม . Cr: รายการ Sekai Ichi Uketai Jugyou #สาระญี่ปุ่นกับคุณบูม
ที่ญี่ปุ่นเค้าจะมีกลุ่มสัตวแพทย์ที่วิจัยพฤติกรรมสัตว์ (Japanese Veterinary Society of Animal Behavior) โดยเฉพาะ คุณหมอ Shirai ก็เป็น 1 ใน 11 ท่านในญี่ปุ่นที่ได้รับการรับรองให้สามารถตรวจรักษาและให้คำแนะนำเจ้าของสัตว์เลี้ยงผ่านการศึกษาพฤติกรรมสัตว์ได้ เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เลย
หากเราสังเกตและเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงของเรา ดูแลเค้าอย่างถูกวิธีแล้ว ก็จะช่วยให้สัตว์เลี้ยงที่บ้านรักเรามากขึ้น . ใครๆ ก็อยากให้น้องแมว น้องหมาที่บ้านรัก และเข้ามาอ้อนเราใช่มั้ยล่ะครับ
ก่อนอื่นเริ่มจากเคสเราเป็นคนแปลกหน้า เจอหน้าน้องหมาเป็นครั้งแรก ทำอย่างไรเค้าถึงจะเปิดใจเข้ามาหาเรา ??? . ในรายการพาน้องหมาชิบะอินุมาทดลอง (เค้าว่ากันว่าชิบะอินุเป็นพันธุ์ที่คุ้นชินยากเมื่อเทียบกับสุนัขพันธุ์อื่นๆ อย่างเวลาเจอคุณแมนดี้ยื่นมือเข้าไปหา น้องเห่าใส่ใหญ่เลย
คุณหมอแนะนำว่า เวลาเจอน้องหมาเป็นครั้งแรก็ให้สังเกตอาการน้องก่อน ถ้าน้องรู้สึกเครียด เมื่อเจอคนแปลกหน้า น้องจะส่งสัญญาณประมาณนี้ 1. เกาตัวเองบ่อยๆ 2. คอยดมกลิ่นฟืดๆ แบบจริงจัง 3. สะบัดตัวสะบัดขน (รูปสุดท้ายเป็นรูปน้องสะบัดขนนะ ไม่ได้กำลังถ่ายหนัก 5555)
ครั้งแรกที่เจอกัน ไม่แนะนำให้ยื่นมือเข้าไปใกล้น้องทันที เพราะโดยสัญชาตญาณแล้ว บรรพบุรุษของน้องหมา หรือหมาป่า เค้าเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างระแวง โดยเฉพาะคนแปลกหน้า หรือสัตว์ชนิดอื่นๆ . หลายครั้งที่เราเจอน้องหมาน่ารักๆ เราจะพยายามเข้าไปลูบทันที เค้าบอกว่า ไม่ดีครับ น้องไม่ชอบ
น้องหมาก็เหมือนเรานั่นแหละ เวลาเราเจอคนแปลกหน้าเราก็อยากจะมีพื้นที่ส่วนตัวของเราใช่มั้ยครับ การที่ใครบางคนเข้ามารุกพื้นที่ส่วนตัวของเราทันที เราก็ไม่ชอบเหมือนกัน . น้องหมาก็คิดแบบเดียวกับเราครับ
ครั้งแรกที่เจอกันแนะนำให้ทำแบบนี้ 1.ทำตัวสบายๆ แล้วเดินเข้าไปหาน้องแบบช้าๆ 2.ไม่เผชิญหน้าตรงๆ แต่ให้เข้าไปด้านข้าง 3.ลดระดับสายตา ให้เข้าใกล้ระดับสายตาน้องด้วยการย่อลง 4.ให้น้องดมกลิ่นของเรา ให้น้องรู้สึกคุ้นเคยและเชื่อใจเรา
คุณหมอที่เพิ่งเจอน้องชิบะเป็นครั้งแรกใช้เวลาเพียงแค่ 39 วินาที น้องก็เข้ามาอ้อนแล้วครับ . ซึ่งต่างจากคุณแมนดี้ที่ไม่รู้วิธีการเข้าหาน้อง ใช้เวลามากกว่า 30 นาทีน้องก็ยังไม่สน . นี่แหละครับความแตกต่างระหว่างคนที่เข้าหาน้องเป็น กับคนที่ยังไม่เข้าใจความคิดน้องน้องหมาเลยยังไม่เปิดใจ
คุณหมอบอกว่าน้องหมาเป็นสัตว์ที่ช่างสังเกตเค้ามีแนวโน้มชอบคนที่ยิ้มมากกว่า ฉะนั้น เวลาเข้าหาน้องอย่าลืมยิ้มพริมใจด้วยนะครับ!!
พฤติกรรมที่คุณหมอไม่แนะนำให้ทำ (แต่คนชอบทำกัน) คือการลูบหัวน้องหมาจากด้านบนครับ (โดยเฉพาะน้องหมาที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก) คุณหมอบอกว่า การลูบหัวจากด้านบน มันค่อนข้างคล้ายพฤติกรรมการถูกตีจากมนุษย์ ถ้าน้องหมาตัวนั้นเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการโดนตี จะทำให้เค้ากลัว หรือรู้สึกเครียดได้
เวลาอยากจะลูบเค้า แนะนำให้ลูบบริเวณใบหน้า หรือข้างๆ คอแทน . แนะนำให้เปลี่ยนจากการใช้หน้ามือลูบ เป็นการลูบด้วยส่วนหลังมือนะ เพราะพื้นที่สัมผัสจากการลูบด้วยหลังมือนั้นน้อยกว่า น้องหมาจะรู้สึกสบายใจมากกว่า
สำหรับน้องแมวล่ะ เข้าหาอย่างไร ถึงจะได้ใจเค้า? . ต้องบอกว่าน้องแมวเป็นสัตว์ที่ระแวงมากกว่าน้องหมา มีความบอบบางกว่า ฉะนั้น เวลาเข้าหาต้องระมัดระวังมากขึ้น เวลาแมวรู้สึกเครียด ไม่พอใจเค้าจะชอบขู่ฟ่อๆ ยิ่งเป็นคนแปลกหน้าน่าจะมีโอกาสเห็นน้องแมวแสดงอาการนี้บ่อยๆ นะ
สำหรับผู้ชายเพื่อให้น้องเปิดใจรับเราง่ายขึ้น คุณหมอบอกว่า “เวลาคุยกับเค้าให้ใช้โทนเสียงที่สูงขึ้น” เพราะเสียงต่ำของผู้ชาย เป็นเขตเสียงที่คล้ายกับเสียงคำรามหรือเสียงที่ใช้ในการขู่ น้องไม่ชอบ เมื่อปรับเป็นเสียงสูงขึ้นกว่าปกติ น้องจะมีแนวโน้มชอบเรามากขึ้นครับ
นอกจากเสียงโทนต่ำแล้วยังมีเสียงแบบไหนที่น้องแมวไม่ค่อยชอบ? คำตอบคือ การที่เราทำเสียงดังใส่ครับ เค้าจะระแวงและตกใจได้ง่ายๆ ครับ . จะให้น้องแมวเปิดใจ อาจใช้เวลามากกว่าน้องหมาครับ
สำหรับน้องหมา ถ้าเค้าทำท่านี้ยกก้นสูงกว่า ส่วนหัวต่ำลง เป็นภาษากายที่เรียกว่า Play Bow หมายความว่า “อยากเล่นด้วย” กำลังรู้สึกคึกเลย เห็นเค้าทำท่านี้ก็เล่นกับเค้าหน่อยนะ
จากการวิจัยของทีมวิจัย University of Bari Aldo Moro ในอิตาลี บอกว่าการกระดิกหางของน้องหมามีความสัมพันธ์กับสมองซีกซ้ายและซีกขวา ทิศทางของหางก็บอกความรู้สึกที่ต่างกัน ยกตัวอย่าง เช่น หางชี้ขึ้น = คึก,ตื่นเต้น หางชี้ลง = เครียด
การกระดิกหางของน้องหมาไปด้านซ้ายขวาก็มีความหมายนะครับ . กระดิกหาง เอียงไปทางขวา (ของน้องหมา)หมายความว่า สนุก มีความสุข กระดิกหาง เอียงไปทางซ้าย (ของน้องหมา) หมายความว่า กำลังโกรธ . วันหลังลองสังเกตดูนะครับ ผมเองก็เพิ่งรู้ เมื่อก่อนไม่ได้สังเกตละเอียดขนาดนี้เลย
น้องหมาให้สังเกตอารมณ์ที่หาง น้องแมวให้สังเกตที่ “หนวด” ครับ ถ้าหนวดชี้ไปด้านหน้า มีความหมายว่า อยากเล่น หรือกำลังสนใจ หนวดชี้ไปด้านหลัง มีความหมายว่า ระแวง หรือหวาดกลัวอยู่
หนวดชี้ขึ้นด้านบนมีความหมายว่า กำลังมีความสุข รู้สึกคึกคัก หนวดชี้ลงล่างคือ กำลังผ่อนคลาย หรือง่วง
ฝากเคล็ดลับสุดท้ายสำหรับการเอาใจน้องแมว ทำให้น้องรู้สึกอยากเข้าใกล้ . วิธีที่ว่าคือ ให้กระพริบตาช้าๆ . เอ๊ะ ทำไมแมวเห็นคนกระพริบตาช้าๆ แล้วรู้สึกอยากเข้าใกล้!?
นี่เป็นงานวิจัยของมหาวิทยาลัย University of Sussex อังกฤษ . นั่งอ่านหนังสืออยู่ มีแมวมายืนใกล้ๆ เพียงแค่เรากระพริบตาช้าๆ ให้แมวเห็น แมวก็กระโดดขึ้นมาบนเตียง มาคลอเคลียเราเลย
ขอเช็คประชากรจากเรื่องนี้หน่อยครับ อยากให้น้องหมารัก รี อยากให้แมวรัก เฟบ twitter.com/JapanSalaryboo…