3. คนห้องรกมีแนวโน้มอ้วนง่าย คนห้องสะอาดมีแนวโน้มว่าจะลดน้ำหนักได้ดี . คุณหมอบอกว่า หากห้องสะอาดก็จะช่วยให้รู้สึกดี มีสมดุลในชีวิตมากขึ้น และความจริงจังในการทำความสะอาดห้อง ทำห้องให้สะอาดอยู่เสมอ จะเป็นพลังให้เรารู้สึกตั้งใจในการไดเอทมากขึ้นด้วยครับ
4. คนชอบส่องกระจกพินิจพิเคราะห์รูปร่างของตัวเองนั้นมีโอกาสผอมง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะคนที่กำลังควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย การส่องกระจก (แล้วเห็นตัวเองหุ่นดีขึ้นทุกวัน) เหมือนเป็น Motovation กำลังใจให้ลดน้ำหนักต่อครับ!!
คุณหมอบอกว่า ถ้าชั่งน้ำหนักเช้าเย็นแล้วมีน้ำหนักไม่ต่างกันนัก เช่น เช้า 50 เย็น 50.3 นี่คือรูปแบบน้ำหนักของคนที่มีแนวโน้มผอมลงครับ ในทางกลับกันหากชั่งเช้าเย็น แล้วมีน้ำหนักต่างกันมากๆ เช่น 50.0 กับ 52.0(ต่างกันตั้ง 2 กิโล) อันนี้เป็นสัญญาณว่าต้องปรับวิถีการกินและหมั่นออกกำลังกาย
5. การทานอาหารโดยใช้ถ้วยกับข้าวเล็กๆ จะมีแนวโน้มว่าผอมง่ายกว่าครับ . หากทานอาหารโดยใช้จานใหญ่ ชามใหญ่ เราจะมีแนวโน้มว่าต้องใส่กับข้าวลงไปเยอะๆ แล้วต้องกินให้หมด ไม่งั้นจะเหลือแล้วน่าเสียดาย สุดท้าย เราก็จะทานมากเกินความพอดีครับ
เรื่องราวของเด็กญี่ปุ่นอายุ 4 ขวบ ที่มีความปรารถนาแรงกล้าว่าอยากจะเป็นอย่างสไปเดอร์แมน อยากห้อยหัวด้วยใยแมงมุมอย่างในหนัง ถ้าโดนแมงมุมกัดแล้วเป็นสไปเดอร์แมนได้ก็อยากลองดูสักครั้ง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น ไปดูกันครับ (ปล.รายการก็น่ารักมากทำเพื่อน้องจริงๆ) Cr: รายการ Knight scoop
‘Weekend Entrepreneur’ เคล็ดลับจากญี่ปุ่นสำหรับคนอยากหารายได้เสริม สร้างธุรกิจใหม่ โดยไม่ต้องลาออกจากงานประจำ . Weekend Entrepreneur คือ เทรนด์การทำงานแบบใหม่ของคนญี่ปุ่น “เปิดบริษัทของตัวเอง วันสุดสัปดาห์” (1)
ที่ญี่ปุ่น มะม่วงน้ำดอกไม้ไทยก็ได้รับความนิยมเช่นกัน โดยเฉพาะเทศกาล Thai Festival ที่จัดในญี่ปุ่น จะเห็นคนญี่ปุ่นยืนกินมะม่วงเยอะมาก ตอนผมเรียนอยู่ญี่ปุ่นก็รู้สึกหิวข้าวเหนียวมะม่วงหลายที แต่เสียอย่างเดียว ถ้าซื้อที่ญี่ปุ่นจะราคาแพงมาก จะกินได้น้อย #ข้าวเหนียวมะม่วง Cr:livedoor
นี่คือเรื่องราวการพลิกฟื้นสวนสนุกเก่าแก่ในญี่ปุ่น Seibuen Amusement Park ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1950 พื้นที่ เครื่องเล่นต่างๆ ก็เก่าทรุดโทรม จนกระทั่งได้คุณ Morioka Tsuyoshi นักการตลาดชื่อดังชาวญี่ปุ่น ผู้มีประสบการณ์พลิกฟื้น USJ มาช่วย ทำให้ปังยิ่งกว่าเดิม Cr: hatsumimigaku
เทคนิคใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด สร้างผลลัพธ์ที่ใหญ่ขึ้น จากหนังสือยอดฮิตเรื่องบริหารเวลา レバレッジ時間術 เขียนโดยคุณ Honda Nayuki . เธรดนี้ผมสรุปมาจากหนังสือเล่มนี้นะครับ ชอบมากๆ โดยเฉพาะส่วนที่เล่าเรื่อง “เทคนิคการใช้เวลา” ที่มีอยู่อย่างจำกัด เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ใหญ่ที่สุด
เค้าบอกว่าให้ทำตามหลักการเหล่านี้ . 1.จงสร้างระบบ 2.จงสร้างตารางเวลา 3.ทำงานแค่ 80 แต้มก็พอ ไม่ต้องเอาเต็ม 100 4.โฟกัส KSF (Key Success Factor) ยาวหน่อยนะ แต่คุ้มค่าต่อการอ่านมาก เริ่มอ่านไปทีละเรื่องครับ
รายการญี่ปุ่นพิสูจน์เรื่องนี้ได้สุดมาก เอาคนตัวอ่อนไปเข้าเครื่อง MRI ในโรงพยาบาล แล้วมาวิเคราะห์ดูว่า เพราะเหตุใดคนที่ตัวอ่อนมาก ถึงได้ตัวอ่อน ร่างกายยืดหยุ่นขนาดนั้น แล้วก็ได้คำตอบมาในเชิงวิทยาศาสตร์ด้วยครับ คำตอบที่ว่านี้จะเป็นอะไรไปดูกัน Cr: shujii ga mitsukaru shinryojo
อยากรู้ว่า คนตัวอ่อน มีเคล็ดลับการตัวอ่อนมั้ย ต้องไปพิสูจน์กับคนตัวอ่อนครับ โดยรายการเดินทางไปที่สถานที่แห่งหนึ่ง ที่นี่มีนักแสดง Cortortion จำนวนมากที่กำลังฝึกการแสดงอยู่ (Corrortion=ศิลปะการแสดงที่นักแสดงจะแสดงทักษะความยืดหยุ่นทางกายภาพ) อยากรู้ว่าภายในร่างกายพวกเธอเป็นอย่างไร?
แล้วเราก็ได้ตัวแทนคนตัวอ่อนมาหนึ่งท่าน ชื่อคุณ Honoka เธอเคยเป็นตัวแทนนักแสดง Cortotion ที่โชว์ในพิธีเปิดโอลิมปิกญี่ปุ่นด้วย รายการพาเธอไปเข้าเครื่อง MRI ในโรงพยาบาล เพื่อจะดูว่าภายในร่างกายมีลักษณะเป็นอย่างไร ให้ทำตัวอ่อนค้างไว้ แล้วเลื่อนเข้าไปในเครื่อง MRI ในแบบที่เห็นเลยครับ
พอเข้าเครื่อง MRI เสร็จก็มาฟังคำอธิบายของคุณหมอ Sugahara เค้าอยากให้สังเกตจุดตรงกลางภาพที่ชี้อยู่ให้ดีๆ ในภาพนี้คือแนวข้างของลำตัว ด้านซ้ายสุด (อักษรสีน้ำเงิน) เขียนว่า ฝั่งท้อง อักษรสีแดงตรงกลางคือ กระดูกสันหลัง และอักษรสีชมพูคือ ฝั่งหลังของเธอ . แล้วไปดูกันต่อว่าพิเศษอย่างไร
โดยเฉพาะบริเวณที่มีเส้นสีแดงๆ ในภาพเป็นจุดที่คุณหมอย้ำมาก จะสังเกตได้ว่า ยืนหยุ่นมากๆ จริงๆ ซึ่งในคนตัวอ่อน ส่วนนี้จะยืดหดได้ดีมาก . ซึ่งก็จะช่วยข้อต่อต่างๆ ขยับได้ในอาณาเขตที่กว้างขึ้นด้วย
คุณ Nakashima นักกายภาพบำบัดประจำโรงเรียนกีฬา Tokyo Medical เล่าว่า . คนตัวอ่อนทุกคนมีจุดร่วม 1 อย่างที่เหมือนกันคือ “ข้อกระดูกที่เคลื่อนที่ได้กว้างมาก” และพวกเค้าจำการเคลื่อนไหวนั้นได้ถึงตอนเป็นผู้ใหญ่ หากเค้าทำทำกิจกรรมอะไรบางอย่างตั้งแต่ช่วงเด็กจนถึงอายุ 10 ขวบ
ไปถามนักกายกรรมสาวหลายคนว่า ช่วงเด็กเคยเรียนอะไรมามั้ยที่ช่วยให้ข้อกระดูกเคลื่อนไหวได้กว้างมาก - ตอนอายุ 6-12 ฉันไปโรงเรียนว่ายน้ำตลอดเลย - ตั้งแต่ 4 ขวบถึงจบมหาลัย ฉันเล่นยิมนาสติกลีลา - ตั้งแต่ 6-10 ขวบฉันเรียน Classic Ballet - ฉันเรียนว่ายน้ำจนถึงช่วง ป3 .
สรุปได้ว่า หากทำกิจกรรมหรือเรียนอะไรที่ช่วยให้ข้อกระดูกเคลื่อนไหวได้เยอะ เช่น ว่ายน้ำ บัลเลต์ ฯลฯ ตั้งแต่เด็กจนถึง 10 ขวบ จะมีแนวโน้มว่าร่างกายจะจำการเคลื่อนไหวนั้นได้ ทำให้ตัวอ่อนจนถึงตอนโต กีฬาว่ายน้ำเราจะวาดแขนไปไกลๆ ได้ขยับกระดูกสะบักเยอะ รวมถึงข้อต่อสะโพกด้วย
เพื่อนๆถามว่า การกำหนดว่าเราจะตัวอ่อนหรือตัวแข็งนั้น ขึ้นอยู่กับการทำกิจกรรมตอนเด็ก-10 ขวบ ตามที่รายการบอกมา … แล้วถ้าอายุเยอะแล้ว แล้วอยากตัวอ่อนล่ะ (ย้อนเวลากลับไปก็คงไม่ได้) จะมีวิธีไหนช่วยให้ตัวอ่อน ยืดหยุ่นดีได้มั้ย คุณ Nakajima บอกว่า ทำได้ด้วยการฝึกยืด (Stretching) ครับ
ความยืดหยุ่นร่างกาย นอกจากจะเกี่ยวกับความกว้างที่ข้อต่อร่างกายสามารถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังเกี่ยวกับกล้ามเนื้อร่างกายด้วย (บางคนไม่ได้ออกกำลังกายนานๆ จะรู้สึกตัวแข็ง ยืดไม่ค่อยได้ เพราะกล้ามเนื้อเราตึงนี่แหละ) ที่ญี่ปุ่นเลยมีหนังสือยอดฮิตจำนวนมากที่ออกมาสอนเกี่ยวกับวิธีการยืดตัว
แต่ต้องทำให้ถูกวิธี และทำอย่างเป็นประจำถึงจะได้ผลนะ กล้ามเนื้อของเราจะค่อยๆ ยืดหยุ่นช่วยให้เราตัวอ่อนได้ในท้ายที่สุด (ผู้ใหญ่แล้วก็ทำได้) . ข้อดีอีกอย่างของการยืดตัวคือ เลือดจะไหลเวียนดี ช่วยให้เส้นเลือดนุ่มขึ้น ป้องกันความเสี่ยงจากโรคเส้นเลือดแข็ง เส้นเลือดอุดตันได้
มันเกี่ยวกับการเติบโตของระบบประสาทในมนุษย์ ซึ่งจะเติบโตไวมากตั้งแต่หลังเกิดไปจนถึงอายุ 10 ขวบ ที่กราฟเติบโตเกือบสมบูรณ์แล้ว (80-100%) ฉะนั้น การฝึกให้ร่างกายยืดหยุ่นได้ดีผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ จะได้ผลมากถ้าฝึกในช่วงเด็ก ก่อนถึงอายุ 10 ขวบ ร่างกายจะจดจำได้ยาวถึงตอนเป็นผู้ใหญ่เลย
ร่างกายคนเราก็แปลกเหมือนกันนะครับ รายการญี่ปุ่นเค้าไปพิสูจน์ว่ามีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้คนๆ หนึ่งมีอาการ “ปวดคอบ่าไหล่ง่าย” ในขณะที่อีกคนนึงแทบ “ไม่มีปัญหาปวดคอบ่าไหล่” เลย . อะไรคือข้อแตกต่างของคนสองคนนี้ อ่านเหตุผลได้ที่เธรดนี้เลยครับ cr: รายการ shujiigamitsukaru shinryoujo
โอ้ย เมื่อพูดถึงอาการปวดคอบ่าไหล่ นี่ปัญหาใหญ่ของพวกเราเลยนะครับ แค่พูดถึงนี่ก็รู้สึกปวดคอบ่าไหล่ขึ้นมาทันทีเลยเนี่ย 🥹🥹 ยิ่งช่วงนี้เราทำงานที่บ้านมากขึ้น ยิ่งนั่งทำงานจดจ้องคอมในสรีระที่ไม่เหมาะสม ยิ่งทำให้รู้สึกปวดคอบ่าไหล่เข้าไปใหญ่ .
คุณ Yoshida นักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญการรักษาปัญหาปวดคอบ่าไหล่กับคนไข้จำนวนมาก เล่าเรื่องนี้ว่า เวลาตึงบ่าไหล่ จะตึงไปถึงส่วนใกล้เคียงอื่นๆ ด้วย เช่น คอ หลัง ซึ่งเกิดที่กล้ามเนื้อ Trapezius กล้ามเนื้อรูปสามเหลี่ยมที่ครอบคลุมบริเวณหลังคอมาจนถึงแผ่นหลัง