เคยเป็น 555555 แต่พอเข้าใจเรื่องการบริหารเวลาก็ค้นพบว่าไม่ต้องเช็คอีเมลตลอดเวลาก็ทำงานมีประสิทธิภาพได้ ไม่มีปัญหาอะไรด้วย ปล.ถ้าเค้าด่วนเค้าต้องโทรมา แต่ถ้าส่งเมลมาเท่ากับว่าเค้าพอจะรอได้ เราจัดสรรเวลาการตอบอีเมลไว้ก็พอเช่น ทุกเช้าวันธรรมดา 8:00-8:20 และก่อนเลิกงาน 16:00-16:20
2. เวลาในการตากผ้าสำคัญมาก ต้องทำให้ผ้าแห้งภายใน 5 ชั่วโมงหลังบิดผ้าแห้งเสร็จ เพราะถ้าเลย 5 ชั่วโมง แบคทีเรีย Moraxella จะแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วมาก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นเหม็นอับด้วย ฉะนั้น ดูให้ดีว่าการตากผ้าทุกครั้ง แห้งภายใน 5 ชั่วโมงหรือไม่ ถ้าแห้งทันก็โอเค
อะไรคือปัญหาหนักใจที่สุดของแม่บ้านญี่ปุ่นในหน้าฝน ได้ตอบว่า “เรื่องซักผ้า” คือหนักใจสุดครับ โดยเฉพาะผ้าขนหนูหนาๆ เสื้อฮู้ด กางเกงยีนส์ ฯลฯ 50% ตอบว่า มันหนักใจเพราะผ้าแห้งยาก 30% ตอบว่า หนักใจเพราะปัญหาผ้าเหม็นอับ วันนี้จะมาเล่าวิธีแก้ไขปัญหานี้ครับ #สาระญี่ปุ่นกับคุณบูม
เรื่องนี้ขอยืนยันว่า เห็นด้วยมากๆ ครับ ถ้าเราคิดถึงความสมบูรณ์แบบระดับ 100% เมื่อไหร่ เราจะประวิงเวลาและไม่ค่อยกล้าลงมือทำ(สักที) แต่การลงมือทำไปก่อน แล้วค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไปให้ดีขึ้นจะช่วยให้เราถึงเป้าหมายได้ดียิ่งกว่าครับ Cr: หนังสือ “คนเก่งระดับท็อป 5% ที่ AI ค้นพบ”
คนต่างชาติว้าวกับห้องน้ำใน Service Area หรือจุดจอดพักรถที่ญี่ปุ่นมาก มีปุ่มให้กดเมื่อเรารู้สึกว่าห้องน้ำสกปรก (ที่ตัวห้องน้ำ? ที่ล้างหน้า? ทางเดิน?) พอกดไปได้ไม่กี่นาทีก็มีพนักงานทำความสะอาดเดินมา ก้มหน้าก้มตาทำความสะอาดให้ แล้วห้องน้ำก็กลับมาสะอาดอีกครั้ง…ใส่ใจในความสะอาดจริงๆ
อะไรคือสิ่งที่คนต่างชาติยกย่องเมื่อเดินทางไปญี่ปุ่น อย่างหนึ่งที่เค้ายกย่องคือ “Service Area” หรือจุดแวะพักรถระหว่างทาง . เพราะตอนแรกนึกว่าจะเป็นแค่จุดแวะจอดระหว่างทาง แต่พอเข้าไปข้างในมีทุกอย่าง ขนมของฝาก, Wi-Fi ฟรี ที่ว้าวที่สุดคือห้องน้ำ สะอาดมาก ขนาดนั่งพื้นกินข้าวตรงนั้นได้!
การปรับสิ่งแวดล้อมก็ช่วยได้ เช่นการหรี่ไฟลง เมื่อต้องการร้องไห้ หรือการ เตรียมทิชชู่ ผ้าเช็ดหน้าเอาไว้ เราจะได้ร้องไห้ได้เลย ลองเอาไปปรับใช้ดูนะครับ สุดท้ายอยากบอกว่า “มนุษย์ไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้น จะร้องไห้ซะบ้างจะเป็นไรไป ถ้าอยากร้องไห้ก็ร้องเถอะครับ อย่าไปฝืนมัน” 😭😭😭
แล้วถ้าเป็นไปได้การเลือกเวลาร้องไห้ก็ช่วยได้ครับ เพราะจากกลไกการทำงานของระบบประสาทซิมพาเทติกกับพาราซิมพาเทติก จะเห็นว่า ช่วงเย็นตั้งแต่ 6:00 เย็นเป็นต้นไป ระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (ที่ช่วยให้ผ่อนคลายจะเริ่มทำงาน) ช่วงหลัง 6 โมงเย็นจะเป็นช่วงที่ร้องไห้ง่ายขึ้น
คนเลือกข้อ1 แนวคอมเมดี้→ต่อมน้ำตาแตกง่ายเมื่อเป็นเรื่องครอบครัว/สัตว์เลี้ยง ข้อ2 แนวรักเร่าร้อน→ต่อมน้ำตาแตกง่ายเมื่อเป็นเรื่องดราม่า ความรัก การแต่งงาน ข้อ 3 แนวอาชีพ→ต่อมน้ำตาแตกง่ายเมื่อเป็นเรื่องอาชีพ นักกีฬา ข้อ 4 แนวแพทย์→ต่อมน้ำตาแตกเมื่อเป็นเรื่องการเจ็บป่วย การจากลา
หากใครอยากฝึกร้องไห้ได้ด้วยตัวเอง สามารถเริ่มได้จากการดูภาพยนตร์ หรือซีรีย์ที่ชื่นชอบได้ เพื่อนๆ ชอบดูภาพยนตร์หรือซีรีย์แนวไหนครับ ระหว่าง 1-4 เดี๋ยวช่วยหาจุดที่จะทำให้ต่อมน้ำตาแตกให้…. 1.แนวคอมเมดี้ อบอุ่น 2.แนวรักเร่าร้อน 3.แนวอาชีพ 4.แนวแพทย์ที่มีความน่าตื่นเต้น
แต่การดูคลิป วีดีโอ เรื่องเดียวกันเอง คนนึงร้องไห้ อีกคนหนึ่งไม่ร้อง มันเป็นเรื่องธรรมดา เพราะมันขึ้นอยู่กับหลายๆ อย่าง รวมทั้ง สภาพแวดล้อมที่คนๆ นั้นเติบโตขึ้นมาด้วย . ฉะนั้นหากอยากร้องไห้ด้วยวิธีนี้ต้องเรียนรู้ก่อนว่า ตัวเองชอบน้ำตาแตกหลังจากเสพข้อมูลอะไร เพื่อนๆ รู้มั้ยครับ?
แต่ที่มาของการเกิดน้ำตาก็สำคัญ เค้าบอกว่าน้ำตาที่ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายความเครียดได้ เป็นน้ำตาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์นะครับ เช่น เสียใจ, ดีใจ,เจ็บใจ แต่ในทางกลับกันน้ำตาที่เกิดระหว่างการปอกหัวหอม หรือตาแห้ง แล้วน้ำตาไหลนั้น เป็นน้ำตาที่ไม่ได้ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย
เพื่อให้เห็นภาพชัดนี่คือกลไกที่เกิดขึ้นระหว่างหลั่งน้ำตาครับ ระหว่างหลั่งน้ำตา ฮอร์โมนเกี่ยวกับความเครียด เช่น โปรแลคติน คอร์ติซอล และ ACTH ก็จะไหลออกมาพร้อมกับน้ำตาด้วย
การร้องไห้ระหว่างวันก็จะช่วยให้ ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อน สมองได้รีแลกซ์นั่นเองครับ . นอกจากนี้คุณ Yoshida ยังบอกอีกนะครับว่า แค่หลั่งน้ำตาลแค่หยดเดียวเท่านั้น ก็ช่วยผ่อนคลายความเครียดต่อไปได้อีก 1 สัปดาห์เลย ฉะนั้น กิจกรรมการร้องไห้ สำคัญมากๆ อยากให้ลองทำดู
จากภาพนี้จะเห็นเลยว่าช่วงกลางวัน ระบบประสาทจะทำงานแบบซิมพาเทติก (กดดัน ต่อสู้) ในขณะที่ช่วงเวลานอนตอนกลางคืน ระบบประสาทจะทำงานแบบพาราซิมพาเทติก (พักผ่อน ผ่อนคลาย)
คุณ Yoshida นักบำบัดจิตใจโดยใช้วิธีการรักษาด้วยการร้องไห้ บอกว่า หากได้ร้องไห้ มนุษย์จะเปลี่ยนจาก “ระบบประสาทซิมพาเทติก” ที่ช่วยให้ร่างกายทำงานในสภาพกดดัน เคร่งเครียด ปรับเปลี่ยนเป็น “ระบบประสาทพาราซิมพาเทติก” หรือสภาวะที่ร่างกายได้พักผ่อน ซึ่งช่วยให้สมองรู้สึกรีแลกซ์ได้ด้วยครับ
ที่ญีปุ่นเล็งเห็นปัญหานี้ที่คนเครียดเยอะ และพยายามนำเสนอวิธีคลายเครียดแบบหนึ่ง จึงออกมาเป็นบริการที่ชื่อว่า RUI-KATSU หรือแปลว่า “กิจกรรมร้องไห้” เพื่อผ่อนคลายความเครียดโดยใช้คลิป, หนังสือ ฯลฯ ที่เชื่อว่า ดูแล้วจะร้องไห้ หากใครสนใจสามารถมาเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้ฟรีด้วยครับ
ดูมาจาก osaka television เค้าบอกว่า “การร้องไห้” ช่วยให้เราผ่อนคลายความเครียดได้ด้วยนะ ที่ญี่ปุ่นถึงกับมีการจัด web meeting เพื่อดูคลิปที่มีเนื้อหาซึ้งกินใจ อาทิตย์ละครั้ง เราจะได้ร้องให้และรู้จักฝึกการบริหารอารมณ์
@napolycat ได้ฟังเพลงญี่ปุ่นอยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่เด็กๆ (คงเหมือนกับเราทุกคน) จากอนิเมะ จากโฆษณา จากฃต่างๆ ตลอด (มันก็เลยจะวนๆ อยู่ในสมองของเรา) ตอนจบพี่นะก็เล่นเพลง Romantic Ageruyo ซึ่งเป็นเพลง Ending ของดราก้อนบอลให้ฟังด้วย Cr: รายการ Sekaiichi Uketai Jugyou
ในรายการได้สัมภาษณ์พี่นะด้วยว่า อะไรคือเสน่ห์ของ City Pop พี่นะบอกว่าเสน่ห์ของเพลง City Pop คือซาวด์เครื่องดนตรี การเรียบเรียง และเมโลดี้นั้นงดงามมาก เขามีนักร้องญี่ปุ่นที่ชื่นชอบหลายคน เช่น Kadomatsu Toshiki, Anzen Chitai, Kikuchi Momoko
รายการญี่ปุ่นพูดถึงคนที่มีอิทธิพลต่อวงการ City Pop ในปัจจุบัน สาวอินโดที่เอาเพลง City Pop ของญี่ปุ่นไป cover จนดังไปทั่วโลกดีเจเกาหลีที่ชอบเปิดแผ่น City Pop ญี่ปุ่น อีกคนที่ชื่นชมคือวง Polycat ของไทยที่เป็นผู้สร้างวัฒนธรรม City Pop ให้แพร่หลายและนิยมออกไปในวงกว้าง @napolycat
วิธีเดียวกันนี้ใช้ได้กับเด็กโตด้วยนะ การนั่งดูภาพหรือดูคลิปดีๆ ในอดีตด้วยกัน จะช่วยให้ลูกมีความมั่นใจมากขึ้น . เวลาเห็นลูกกำลังท้อ หรือขาดความมั่นใจ ลองใช้วิธีนี้ดูครับ #สาระญี่ปุ่นกับคุณบูม
เธรดนี้จะมาแนะนำวิธีง่ายๆ ใช้เวลาเพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้น ช่วยให้ลูกมีความมั่นใจมากขึ้น . แนะนำโดย T-Sensei ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเลี้ยงเด็กในประเทศญี่ปุ่นและมีผู้ติดตามใน YT มากกว่า 650,000 คน #สาระญี่ปุ่นกับคุณบูม
* ทานอาหารที่มีส่วนผสมของสารซัลโฟราเฟน เช่น บร็อคโคลี่ ผักกะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคซึมเศร้าได้ (ผลในขั้นทดลอง) 4.ถอนหายใจได้ช่วยให้หายเครียดและรู้สึกเบาใจลงเยอะ 5.รู้สึกหงุดหงิดเมื่อไหร่ให้หาคำพูดมานิยามมันในมุมมองบวกดู หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะครับ
ขออนุญาตสรุปเรื่องนี้ตามนี้ครับ 1. ไม่ต้องตอบทุกอย่างทันที ข้อความ เมล การนำเสนอ ไม่กดดันตัวเองให้เวลาเราได้คิดบ้าง ตอบช้าลงหน่อยก็ได้ 2. หาเวลาออกกำลังกายวันละ 20 นาที++ ถ้าไม่มีเวลาก็ยืดเส้นยืดสาย เดินเล่นอยู่ที่บ้านได้ 3. ทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ หลีกเลี่ยงการทานจุบจิบ มื้อดึก .