201
บทความของที่ปรึกษาป.ตรีผมเองครับ อยากแชร์ให้ผู้ที่สนใจในประเด็นค.ตายกับค. เป็นเมืองดูไม่ค่อยเกี่ยวกันใช่ไหมครับ? อ.ผมชวนทุกคนคิดอีกมุมว่า อันที่จริงแล้วโครงสร้างเมืองและการรับมือกับค.ตายของชีวิตมีมิติสัมพันธ์กันน่าสนใจมาก ใครอยากรู้ว่ายังไงลองอ่านดูครับ
adaybulletin.com/talk-conversat…
202
#มีหนังสือมาเสนอ
สำหรับคนที่มีพื้นด้านการเขียนงานสายสังคมไม่แน่น อยากหานส.ที่ช่วยสรุปประเด็นสำคัญ หรือช่วยขมวดวิธีคิด บอกลำดับขั้นตอนพร้อมตย.ให้เห็นว่าจะเขียนยังไง เล่มนี้มีครบเลย แนะนำมากๆ สำหรับคนที่อยากพัฒนาการเขียนให้เป็นระบบ ส่วนตัวคิดว่านส.จัดคอนเทนต์ดี เป็นลำดับตามสเต็บ
203
มีโอกาสคุยกับเพื่อนที่สอนภาษาอื่น แล้วเพิ่ง realized ว่าการเรียนการสอนญป.ในไทยคือ พร็อบเรียนพร้อมกว่าภาษาอื่นมาก เพื่อนบ่นเรื่องต้องทำแบบฝึกเอง (ญี่ปุ่นมีนส.แบบฝึกที่ไปกับแบบเรียนขาย) ต้องหาสื่อการสอนเอง ญป.มีองค์กรทำหน้าที่ผลิตตำราเรียนหลายที่ มีระบบออกแบบเนื้อหาที่เป็นรูปธรรม
204
จนเกิดความสงสัยว่า นั่นสิ อะไรทำให้ระบบการเรียนภาษาญป.ในไทยเป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่เอาจริง ภาษาฝรั่งเศสเปิดก่อนญป. แต่ตำราเรียนฝรั่งเศสเหมือนแต่ละรร.จะหามา / ผลิตเองอีกที (ฟังจากเพื่อนมา) ไม่ทราบเหมือนกันว่ามีที่กระทรวงศึกษากำหนดเลยว่าใช้เล่มไหนแบบภาษาญป. ไหม
205
#มีหนังสือมาเสนอ
เล่มนี้ซื้ออ่านเพื่อใช้สอนการเขียนกับรีดดิ้งที่ตัวเองสอนอยู่
เนื้อหาข้างในดีทีเดียวครับ ถึงปกจะเขียนว่าสำหรับ postgrad แต่ undergrad ป.ตรี คือควรหาติดไว้เลย ใครอ่านงานอิ้งไม่เข้าใจ ดึงที่อ่านมาใช้เขียนงานไม่ได้ อยากหานส.ไกด์ เล่มนี้ครบครับ รวมสเต็ปจำเป็นให้แล้ว
206
#มีappมาเสนอ
สำหรับคนที่ต้องหางานวิจัยเพื่อทำเปเปอร์ / ธีสิสนะครับ ผมแนะนำ research gate ครับ เป็นแพลตฟอร์มที่รวมงานวิจัยจากหลายๆ ศาสตร์มาอยู่ที่เดียวกัน (ส่วนตัวชอบมากกว่า google scholar) สามารถ browse งานวิจัยได้ทั้งจากว็บไซต์ researchgate.net และ appนี้ครับ
207
สนใจข้อความโต้ตอบของ ปู ไปรยาในไอจีในแง่ที่ข้อความแสดงค.เข้าใจต่อการแบ่งว่าอะไรคือการเมืองและไม่ใช่การเมืองในค.คิดของเขา
คิดถึงคำที่อ.รัฐศาสตร์ให้ไว้ตอนเรียนว่า การพยายามขีดเส้น (classify) ว่าอะไร political / apolitical ก็คือการเมืองแล้วแบบหนึ่ง
“การไม่เลือกคือการเลือกแบบหนึ่ง”
208
ไม่รู้คิดไปเองไหม หลังๆ สังเกตเห็นคนกลับใช้คำว่า (จูนิ) เบียวมากขึ้นในทวิตเตอร์แต่ใช้ในค.หมายที่กว้างกว่าของเดิมอยู่เหมือนกัน
เหมือนตอนนี้ครอบคลุมไปถึงคนเห่อ/หลงอะไรบางอย่างจนลืมหูลืมตา ใดๆ คือ สนใจว่าเจ้าโรคเด็กม.2 (chūnibyou แผลงจาก jūnibyou) ทำไมอยู่ๆ คนกลับมาใช้ 😂😂
209
อาการดังกล่าวมักเกิดขึ้นในช่วงวัยแตกพาน กล่าวคือ เป็นช่วงที่เด็กเป็นวัยรุ่นแล้วอยากเป็นอิสระ มีค.มั่นใจในตนเองสูง คิดว่าที่ตัวเองทำคือเหมาะสม และถูกต้อง ไม่สนว่าคนอื่นจะว่าอะไร เลยเป็นที่มาของคำ “โรคเด็ก 12” นี้เองครับ ちゅうに จริงๆ เพี้ยนมาจาก じゅうに ที่แปลว่า 12 びょう = โรค
210
สืบเนื่องจากทวิตตัวเอง มีคนขอให้อธิบายว่า (จูนิ) เบียว จริงๆ หมายความว่าอะไร อะเรามาดูค.ตั้งต้นกันครับ
จูนิเบียว【中二病】เป็นคำประชดใช้บรรยายลักษณะของคนที่มักคิดว่าตัวเองทำอะไรเท่ๆ คูลๆ แต่ในสายตาคนปกติคือ เป็นการกระทำที่ประหลาด ตรรกะเพี้ยนๆ ไม่ได้คูลเหมือนเจ้าตัวคิดครับ twitter.com/zenjigame/stat…
211
มีคนพยายามจะดประเภทอาการของจูนิเบียวด้วยนะครับ เท่าที่ผมทราบคือมีประมาน 3 แบบ
1) พวกแสร้งทำเป็นสนใจ อินอะไรที่ชาวบ้านไม่อิน แบบ wanna be ในเรื่องนั้น
2) พวกแสร้งทำเป็นกร่าง เกรียนๆ ให้ดูเท่ๆ
3) พวกที่แสร้งอวดว่าตัวเองรู้ดี มีพลังพิเศษในการรับรู้เรื่องนั้ง มีอินไซต์กว่าคนอื่น
212
ที่คนไทยใช้กันตอนนี้คิดว่าแตกมาจากเซนส์ 1 + 2 แล้วขยายกว้างขึ้นไปถึงพวกเห่อ/หลงอะไรบางอย่างจนลืมหูลืมตา ซึ่งในสายตาคนนั้นคือ สิ่งนี้ดี แต่คนนอกมองว่าตรรกะเพี้ยน รสมไปถึงคนเข้าใจว่าดูเป็นคำบอกโรค (เบียว = โรค) ก็เห็นคนใช้ในเซนส์ ตรรกะป่วย ด้วย ซึ่งอันนี้เกินกว่าค.หมายเก่าของคำครับ
213
ขอเพิ่มเติมนะครับ มีคนทักมาให้ขเอมูลเพิ่มว่า คำว่า ちゅうに ไม่น่าจะเพี้ยนมาจาก じゅうに แต่หมายถึง ちゅうに ねんせい ที่แปลว่าเด็กม. 2 ครับ
214
#มีหนังสือมาเสนอ
ปีนี้มีนส.สังคมวิทยาเบื้องต้นออกมาหนึ่งเล่ม น่าสนใจมากครับ นส.ถักทอและเรียบเรียงเนื้อหาดี วัจนลีลาที่ใช้ในการเขียนก็ไม่ทางการจนรู้สึกน่าเบื่อ ใครที่ยังไม่เคยซื้อหนังสือแนวนี้ ผมขอแนะนำเล่มนี้เลยครับ ตย.ค่อนข้างทันสมัย ช่วยขับให้เข้าใจทฤษฎีต่างๆ ชัดพอสมควร
215
อ่านงาน semiotics ศึกษา elements และ pattern ของ IG story พบว่า
รูปแบบเนื้อหามี 4 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
1. ลงเกี่ยวกับมู้ดตัวเอง (ผ่านการเซลฟี่ / เพลง)
2. ลงอัพเดทชีวิต (ผ่านการถ่ายภาพ งาน หรือกิจกรรม)
3. ลงอาหาร
4. ลงวิว
ที่น่าสนใจ และชวนคิดต่อจากเชิง semiotics มีอีกหลายประเด็น
216
อ.ชวนวิจัยเรื่องการจัดการร่างศพ ความตาย และสังคม ตอบตกลงโดยไม่คิด
สนใจมานานมากแล้ว โอกาสในการ explore มาถึงในที่สุด
ไว้เจออะไรน่าสนใจจะมาแชร์ครับ แต่มาแน่ๆ แล้วคือ #มีหนังสือมาเสนอ เพราะต้องช่วยอ.ทบทวนวรรณกรรม หัวข้อแรกเป็นเรื่องการอาบยาศพ เพิ่งอ่านได้ 3 บท สนุกมาก
217
#มีหนังสือมาเสนอ
นส. ชวนมองมิติสังคมของอาหารครับ เริ่มด้วยทำค.เข้าใจอาหารในค.คิดทางสังคม เป็นอะไร? อยู่ในฐานะไหน? ต่อด้วยการเล่าถึงปวศ.ของอาหารกับสังคมผ่านการเกษตร แล้วโยงไปประเด็น เช่น วัฒนธรรม เศรษฐกิจ ตลอดจนการเมืองครับ
ใครสนใจ google books มีฉบับดิจิทัลราคาประมาน700 ครับ
218
219
#มีเปเปอร์มาเสนอ
เปเปอร์นี้พูดถึงการศึกษากลุ่มผู้ชุมนุมในเชิงสังคมวิทยาครับ
เนื้อหาเป็นปวศ.ของการศึกษาด้านนี้ในสังคมวิทยา และแนวคิดทฤษฎีการมองการชุมนุมทางการเมืองครับ ว่ารูปแปปที่เกิดขึ้นสัมพันธ์กับการเมืองและกลไกการเกิดเป็นอย่างไร ใครสนใจหาอ่านดูนะครับ
220
สิ่งที่ตกผลึกจากการดิสคัสเรื่องทฤษฎีทางสังคมกับการเลือกข้างทางการเมือง
1. การเรียนทฤษฎีไม่ได้ช่วยให้เลือกข้างง่ายขึ้น การเลือกข้างประกอบปัจจัยอื่นๆ อีกมาก แต่ทฤษฎีทำให้เราตรวจสอบ คิดสะท้อนย้อนกลับ มองคุณค่าของสิ่งที่เราตัดสินใจลงไปได้ดีขึ้น ง่ายๆ คือรอบคอบในการตัดสินใจมากขึ้น
221
ช่วงนี้โดนเพื่อนทักว่าใช้ภาษาไทยแปลก ๆ เช่น ชอบพูดปย.ปฏิเสธซ้อนปฏิเสธ (double negation) แบบ "ไม่มีใครเลยที่ไม่ชอบ.." กับเอาคำวิเศษณ์ขยายกริยาวางไว้หลังประธานของปย. แบบ "ส่วนตัว จริงๆ แล้ว ไม่คิดแบบนั้น" เป็นต้น ก็เลยตระหนักได้ว่าเป็นเพราะสอนญป.นานมากจนเกิด L3 transfer แล้วแน่ ๆ
222
#มีหนังสือมาเสนอ
หัวข้อใหญ่มากๆ อันหนึ่งในสังคมวิทยาคือ เรื่องเพศครับ การมี Handbook ไว้ explore ประเด็นต่างๆ จึงมีปย.มาก ใครหานส.ที่ช่วยเปิดภาพกว้างด้านนี้ทางสังคมวิทยา แนะนำเล่มนี้ครับ หัวข้ออัพเดทพอสมควร (แม้จะยังตามไม่ทันค.ซับซ้อน) แต่ไว้เป็นเล่มศึกษาเบื้องต้นได้ดีทีเดียว
223
คุยกับเพื่อนเรื่องม็อบกับคนรุ่นใหม่ มีข้อสังเกตฝว่า สิ่งที่ดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้ไปม็อบในตอนนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องของอุดมการณ์และการเรียกร้อง แต่มันเป็นเรื่อง “พื้นที่” ของม็อบเองที่ทำให้คนรุ่นใหม่ได้รู้สึกถึงการเปิดรับทางค.คิดและการแสดงออกจากแวดวงสังคมอื่นที่คอยกดทับเขามาตลอด (ต่อ)
224
ชอบสังคมวิทยาอย่างหนึ่งตรงที่เป็นวิชาเน้นทำค.เข้าใจคนรอบๆ ตัวในสังคมมากๆ
อ.ที่สอนบอกว่า พอเรารู้ BG เขา รู้ค.คิดเขา เข้าใจในตัวเขาจากมุมที่เป็นเขาได้ เรากับเขาจะยืนบนพื้นเดียวกัน เสน่ห์ของวิชานี้ไม่ใช่แค่โลกทัศน์ที่กว้างขึ้น แต่คือการได้รู้สึกว่าทุกคนคือมนุษย์เท่าๆ กัน
225
อยู่กทม.มา 10 กว่าปี หลายครั้งเลย รู้สึกว่าเวลาออกจากห้องทีคือ
1. ต้องออกไปที่ไกลๆ หน่อย ถ้าออกไปใกล้ๆ รู้สึกไม่คุ้ม
2. ถ้าออกต้องออกทั้งวัน ออกไปแค่ 2-3 ชม. ไม่ได้ รู้สึกเสียเวลา ออกสายกลับเย็น ออกบ่ายกลับค่ำๆ ดึกๆ มี 2 โมเดลหลักๆ
3. ไม่มีฟีลแบบอยากออกไปเรื่อยเปื่อย ออกขำๆ