176
และนี่ก็คือโรดังที่โพสต์ท่าแบบนักคิด (the thinker) ของตัวเองล่ะ 55555555 twitter.com/misperaki/stat…
177
เมื่อวานวันเกิดสตราวินสกีเลยนึกถึง ช่วงปฏิวัติรัสเซีย สตราวินสกีที่กลับรัสเซียไม่ได้ย้ายมาอยู่ฝรศ แล้วก็ได้เจอชาแนลช่วงปี 1920 พอดี
เรื่องของสองคนนี้เอามาทำเป็นหนังปี 2009 เป็นหนังปิดเทศกาลเมืองคานส์ด้วย Mads Mikkelsen เล่นเป็นสตราวินสกีล่ะ ฟังเธอพูดฝรศปนรัสเซียได้มีเสน่ห์ชะมัด twitter.com/misperaki/stat…
178
คำถามจากปีก่อนๆ ที่ข้อยจำได้เช่น
'เราจะรักงานศิลปะโดยไม่เข้าใจมันได้ไหม'
'เราทำงานไปแล้วได้อะไร'
'เราสามารถจะปรารถนาบางสิ่งโดยไม่เจ็บปวดได้ไหม'
//คำถามพวกนี้มี corrigés (ตัวอย่างคำตอบ?) ทุกปีด้วยนะคะ อย่างอันปีนี้ของเลอปารีเซียง m.leparisien.fr/etudiant/etudi… twitter.com/misperaki/stat…
179
#รีช่า ข้อสอบ bacphilo ของ ฝรศ เพิ่งประกาศคำถามล่ะ ดู séries techno
'การทำผิดกฏหมายเป็นเรื่องไม่ถูกต้องเสมอไปไหม'
'การจะรู้อะไรสักอย่างคือการไม่เชื่ออะไรเลยใช่ไหม'
//นั่งคิดคำตอบประหนึ่งเข้าสอบด้วย 555555
180
Printemps-été 1958 ของดิออร์นี่เป็นอะไรที่สะเทือนอารมณ์มาก เพราะ 1. ดิออร์เพิ่งตาย 2. เมซงดิออร์เป็นห้องเสื้อสำคัญที่สุดของฝรศตอนนั้น
เรียกว่าทั้งปารีสกลั้นหายใจรอดูงานนี้เลย ความคาดหวังสูงลิบลิ่ว
และวันต่อมานสพ ก็พาดหัวข่าวว่างานของแซงต์โลรองต์คือคอลเลคชั่นที่ดีที่สุดของดิออร์
181
งานช่วงแรกที่ดังมากอีกชิ้นของอีฟแซงต์โลรองต์คือ Trapèze เป็นคอลเลคชันแรกหลังจากที่รับดิออร์มา เป็นกระโปรงที่ไม่เข้าเอวล่ะ!
เทียบกับซิลลูเอทเดิมของดิออร์ที่เน้นเอวบางกับกระโปรงยี่สิบหลาแล้วฉีกกฏสุดๆ เรียกว่างานแรกแซงต์โลรองต์ก็ท้าดิออร์ดวลเลย แล้วก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงามซะด้วย twitter.com/misperaki/stat…
182
คุณูปการ (?) อีกอย่างของชาแนลคือสายกระเป๋าแบบยาวๆ ล่ะ!
เธอเป็นคนแรกที่ออกแบบกระเป๋าถือผู้หญิงแบบมีสายพาดไหล่และทำให้มันเก๋ กลายเป็นกระเป๋า 2.55 แสนไอคอนิคที่เรารู้จักในปัจจุบันค่ะ
พอไม่ต้องคอยถือกระเป๋าคล้องมือไว้ให้เกะกะมือไม่ว่างตลอดเวลา ก็น่าจะรู้สึกอิสระขึ้นอีกนิดจริงๆ twitter.com/misperaki/stat…
183
ตั้งแต่ Nº5 กูตูริเยร์ก็เลยขายน้ำหอมกัน อย่างฝั่ง YSL ที่ดังมากคือ Opium (1977) ตอนนั้นแซงต์โลรองต์กับแบร์เฌทำการตลาดออกมาเก๋มาก คือเป็นน้ำหอมที่ไม่ได้มีไว้ดึงดูดใครหรือต้องการจะบอกอะไร แต่เป็นน้ำหอมสำหรับตัวคุณเอง ใส่เวลาอยู่คนเดียวก็ได้ ใส่เพื่อตัวเอง ใส่แค่เพราะชอบกลิ่นนี้ twitter.com/misperaki/stat…
184
อีกเรื่องเล่าที่ดังมากเกี่ยวกับชาแนลคือตอนไปงานเต้นรำ แล้วชาแนลทำสายสร้อยไข่มุกที่ตัวเองใส่อยู่ขาด ไข่มุกตกกระจาย บรรดาผู้สูงศักดิ์ ดยุค ฯลฯ ในห้องนั้นช่วยกันไล่เก็บไข่มุก แต่ตัวชาแนลเองเต้นรำต่ออย่างไม่แยแส
ก็ดูเป็นคนที่จะทำเรื่องแบบนั้นได้อยู่หรอกนะ…
185
อนึ่ง เผื่อใครยังไม่เคยเห็น นี่คือกาเบรียล โคโค ชาแนลสมัยอายุ 20 กว่าล่ะ!
*ทุกคนน่าจะรู้ แต่จริงๆ ชาแนลชื่อกาเบรียล โคโคเป็นชื่อหมา (…) มาจากเพลง qui qu'a vu coco ที่ชาแนลร้องสมัยร้องเพลงที่ลาโรทงด์ แล้วติดหูมาก เลยกลายเป็นชื่อเล่นของเจ้าตัวไป twitter.com/misperaki/stat…
186
โบซ์ทำน้ำหอมมาให้ชาแนลเลือกสิบขวด คือหมายเลข 1-5 กับ 20-24 ชาแนลตัดสินใจเลือกหมายเลข 5 (ว่ากันว่าเป็นขวดที่ผู้ช่วยบังเอิญใส่อัลดีไฮด์เข้มข้นลงไป แทนที่จะเป็นแบบเจือจาง)
Nº5 ที่เรารู้จักกันในปัจจุบันก็เลยเป็นกลิ่นอัลดีไฮด์ซ้อนด้วยกลิ่นมะลิชั้นเลิศจากกราซ
187
ส่วนบรรดากุลสตรีมักจะใช้น้ำหอมที่ทำจากดอกไม้ที่บอบบางกว่า อย่างเช่นกุหลาบหรือไวโอเล็ต
น้ำหอมที่ชาแนลอยากได้คือน้ำหอมจะทำลายเส้นแบ่งระหว่างกุลสตรีกับเดอมิมงแดนล่ะ เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นสะอาด สดชื่น แต่ก็เย้ายวนในเวลาเดียวกัน
<<ว่ากันว่าแรงบันดาลใจมาจากดาลองซง
188
คอนเซปต์ก็คือทำไมผู้หญิงต้องมีกลิ่นเหมือนดอกไม้ ในเมื่อเราไม่ใช่ดอกไม้ เราเป็นผู้หญิง!
ยุคนั้นคือยุคเดียวกับศิลปินอย่างปิกาสโซ ฯลฯ เป็นยุคของงานแนว abstract ที่ท้าทาย representational art ล่ะ เรียกว่า Nº5 เป็นศิลปะแบบ abstractในรูปแบบของน้ำหอมก็ว่าได้
189
ก่อน Nº5 น้ำหอมส่วนมากจะเป็นแบบ representational คือเลียนแบบกลิ่นอะไรสักอย่าง (เช่นกุหลาบ)
แต่สิ่งที่ชาแนลอยากทำก็คือน้ำหอมที่ไม่ได้เลียนแบบอะไรเลย เป็นน้ำหอมที่สร้างจากจินตนาการ เป็นกลิ่นที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัสมาก่อน
เจ้าตัวว่าเป็น 'น้ำหอมของผู้หญิงที่มีกลิ่นของผู้หญิง'
190
ถ้าพูดถึงชาแนล นอกจากคาเมเลีย กระเป๋ากับเวสต์แสนสวย ทุกคนน่าจะนึกถึงน้ำหอม Chanel Nº5 กันเนอะ
ปีนี้ Nº5 อายุครบ 100 ปีพอดี ห้องเครื่องประดับของชาแนลออกคอลเลคชัน Nº5 มาฉลองด้วย เลยอยากเขียนถึงเรื่องราวเบื้องหลังของน้ำหอมระดับตำนานขวดนี้ขึ้นมาค่ะ
#บทเพลงในขวดแก้ว twitter.com/misperaki/stat…
191
Mais mon amour,
Mon doux, mon tendre,
Mon merveilleux amour,
De l'aube claire jusqu'à la fin du jour,
Je t'aime encore, tu sais,
Je t'aime
…แต่ที่รักของผม
คุณผู้อ่อนหวาน นุ่มนวล
แสนมหัศจรรย์
ตั้งแต่รุ่งสางงดงามจนถึงแสงสุดท้าย
ผมยังรักคุณ รักคุณมาตลอด คุณก็รู้ใช่ไหม
ผมรักคุณ
192
อยากเอาสิ่งที่แบร์เฌเขียนถึงอีฟมาให้ดูอีกนิดก่อนจะเก็บหนังสือกลับขึ้นชั้น Yves, mon Yves, 'อีฟ อีฟของผม…'
… celui qui devait me prendre par la main et m'emmener
… je ne cesserai ni de t'aimer ni de penser à toi
'ผมไม่มีวันหยุดรักคุณ ไม่มีวันหยุดคิดถึงคุณ' twitter.com/misperaki/stat…
193
อนึ่ง ยุคนั้นในปารีส homosexuality ถือว่ายอมรับได้ แต่ในสังคมรอบนอกนี่ไม่ใช่นะ อย่างแบร์เฌอาจจะโตมาในสังคมที่ยอมรับเรื่องนี้ (เลยเสถียร) แต่อีฟเนี่ยไม่ใช่เลย ตอนเด็กๆ เหมือนจะโดนบุลลี่มาเยอะเพราะเป็นเกย์ <<แบร์เฌเขียนว่า ตอนนั้นผมยังไม่รู้จักคุณ คุณเลยต้องสู้อยู่คนเดียว twitter.com/misperaki/stat…
194
ใน นส แบร์เฌสปอยล์อีฟมาก แล้วก็ชอบถามตัวเองว่าผมปกป้องคุณมากเกินไปรึเปล่า ทำเหมือนคุณเป็นเด็ก ผมสปอยล์คุณมากไปมั้ย แต่ไม่เสียใจหรอกนะ! อ้าว 55555
(แต่จริงๆ เราว่าแบร์เฌก็สงสัยว่าตัวเองทำถูกมั้ยที่ไม่ได้บอกอีฟเรื่องเนื้องอก — แล้วอีฟก็ไม่สงสัยอะไรเลย แบร์เฌบอกอะไรก็เชื่อทุกอย่าง)
195
อนึ่ง แบร์เฌเนี่ยจริงๆ โหดอยู่นะ ตอนแบร์เฌตายเราเคยเขียนสกู๊ปลงนสพ ลองไปหาที่ออกมารณรงค์ปกป้องสิทธิ lgbtq แสบมากก เรื่องธุรกิจก็โหดมาก (แบร์เฌเป็นคน(บลัฟ)หาเงินทุนมาเปิด YSL ด้วยนะ รับกระสุนแทนได้ก็คงทำ) ถ้าไม่เก่งมากๆ คงบริหารธุรกิจขนาดนี้ไม่ไหวเนอะ ใน นส นุ่มนวลเป็นคนละคน
196
พอมาคิดอีกทีก็เศร้าเหมือนกันนะ การไปนั่งอยู่ที่อนุสรณ์ทุกวันเพื่อดูคนผ่านไปผ่านมาอ่านชื่อคนที่รักสุดหัวใจ แต่ไม่มีวันจะได้เจอแล้ว
เหมือนที่จะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว มีคนคอยถึงอีฟเป็นเพื่อน 555555 เหมือนอยากได้คำยืนยันว่าคนๆ นั้นมีตัวตนในชีวิตของคนตั้งมากมาย ไม่ใช่แค่เรา
197
ลืมบอกว่าระดับความคลั่งรักคือแบร์เฌเปิดพิพิธภัณฑ์ให้อีฟแซงต์โลรองต์ ที่เดียวไม่พอด้วย รักมาก เปิดไปเลยสองที่พร้อมกัน! ที่ปารีสแล้วก็ที่มาราเกช
ในหนังสือแบร์เฌบอกตอนอยู่มาราเกชไปนั่งที่อนุสรณ์อีฟทุกวัน เพราะ 'ผมมีความสุขเวลาที่เห็นคนอ่านชื่อคุณ เห็นพวกเขาคิดถึงคุณ' twitter.com/misperaki/stat…
198
เช่นถ้าดิออร์มีกุหลาบ ชาแนลก็มีคาเมเลีย ว่ากันว่าคาเมเลียของชาแนลมาจาก La dame aux camélias
เหมือนมาเกอรีต ชาแนลก็เป็นผู้หญิงที่มาจากระดับล่างสุดของสังคม (อาจจะเคยเป็นกริแซตต์?) แต่มีพลัง ความสามารถและเสน่ห์มากพอที่จะพาตัวเองมายังแนวหน้าของวงการแฟชัน/ศิลปะของปารีส
199
ด้านในของสูทก็จะต้องสวย ซับในก็จะควิลท์ไว้ให้ไม่เคลื่อน ตรงขอบจะมีโซ่เส้นบางๆ ที่ทำให้สูททิ้งตัวลงมาเป็นทรงตลอดเวลา ทั้งดูดีและใช้งานได้ในชีวิตจริง เป็นเสื้อผ้าที่ผู้หญิงออกแบบให้ผู้หญิงด้วยกันใส่
จริงๆ เรื่องของชาแนลก็น่าสนใจนะ!
200
เทียบลุคจาก 'วิหารของดิออร์' กับ 'อิสรภาพของชาแนล'
สูทของชาแนลเออกแบบมาให้ผู้หญิงเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ เช่น แขนเสื้อจะตัดยังไงให้ได้สูง (ได้ดูโปร่ง) และเคลื่อนไหวสะดวกที่สุด เล่ากันว่าชาแนลลองใส่ไปขับรถ ว่าใส่เสื้อแขนแบบนี้จะยังขับรถเองได้ไหม — อิสรภาพคือความสง่างามอย่างนึง! twitter.com/misperaki/stat…
où tout est tranquille / éternellement