(mook/dapa)(@mdpyy)さんの人気ツイート(新しい順)

76
ความทรงจำเดียวของนี่ที่มีต่อพระเกี๊ยวคือ ร้านที่หอศิลป์อร่อยมากค่ะ เกี๊ยวกุ้งตัวใหญ่หอมหยุบ ซดกับน้ำซุปร้อนๆ ไม่ต้องปรุง จำได้ว่าแม่ค้าเคยบอกทำแค่วันละร้อยชาม เคยไปแล้วอดกินเพราะหมดอย่างไว และเคยชวนคนที่แอบชอบมากินด้วยกัน ล่าสุดจีบติดเป็นแฟนกันแล้ว เทิดพระคุณมนตร์รักเกี๊ยวกุ้ง
77
เมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์อาจารย์งามศุกร์เกี่ยวกับคดีความที่อจ.โดนฟ้อง ซึ่งเป็นเรื่องของสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก อจ. เล่าผลกระทบทั้งทางร่างกายจิตใจต่อตัวเองและคนรอบข้าง ตลอดระยะเวลาสองปีของการโดนดำเนินคดีต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ฟังแล้วสะท้อนใจมากๆ เผื่อใครสนใจค่ะ 😔 twitter.com/FortifyRights/…
78
Do you know how many adults are traumatised by their parents to the point that they don’t even think for a split second about wanting to have their own children for fear of the same feelings they have experienced growing up? It’s heartbroken. But there you have it. The truth.
79
ไม่อยากจะด่าแล้ว เหนื่อย แต่คนที่คุกคามคนอื่นบางทีก็ไร้สมองจริงๆ ทำไปด้วยความคึกคะนอง (ไหนบอกเป็นเพศที่มีเหตุผลมาก) แถมยังปากดีด่าให้เหยื่อต้องอับอาย แต่พอไปถึงขั้นดำเนินคดีเท่านั้นแหละทำมาขอขมาเรียกร้องความเห็นใจ มึงไม่คิดได้ตั้งแต่ตอนยื่นมือไปลวนลามเขาล่ะว่าที่ทำอยู่มันเหี้ยน่ะ
80
คือการขึ้นโรงขึ้นศาลไม่ใช่สิ่งที่ทำไปด้วยความสะใจหรืออยากเอาคืน สุดท้ายทุกอย่างมันก็ boil down กลับมาว่า ใครจะอยากเสียทั้งเงินทั้งเวลาทั้งสุขภาพจิตดำเนินคดีเป็นปีๆ แต่เพราะเขารู้ว่าสิ่งที่กำลังฟ้องมันสำคัญ สำคัญกับหยื่อคนอื่นๆ แล้วก็สำคัญด้วยว่าคนๆ นั้นจะไม่ไปคุกคามใครอีกอะ
81
โพสต์ของเพจมนุษย์กรุงเทพฯ เรื่องโดนลวนลามใน MRT คือรู้สึกขอบคุณคนเล่ามากๆ ที่พูดถึงเรื่องการดำเนินคดี พอเรื่องไปถึงชั้นศาลมักจะชอบมีคนมาบอกให้ไกล่เกลี่ย แล้วถ้าเราไม่ทำนั่นกลายเป็นว่าเราใจดำอีก? (victim-blaming all the way) ทั้งที่จริงๆ คนฟ้องก็เหนื่อยทั้งกายใจเหมือนกันไง
82
It’s 2021 already and we’re still blaming women for making wrong decisions. Great. Just great. twitter.com/tele_education…
83
เพิ่งนึกได้ อีกอันนึงที่เคยเจอ (จากเพื่อนอีกคน) คือมันคิดว่าเมนส์มาครั้งนึงใช้ผ้าอนามัยแค่แผ่นเดียว 5555555555555555555 โอ้ย เครียด อยากจะด่าก็ด่าไม่ถูกเพราะมันไม่รู้แบบไม่รู้จริงๆ ชั้น question อย่างเดียวเลยคือวิชาสุขศึกษาอีกแหละ
84
อนึ่ง การแก้ไขความเข้าใจผิดมันก็ทำไปพร้อมๆ กับการเรียกร้องสวัสดิการผ้าอนามัยได้ ไม่ใช่ว่าพอบอกไม่ต้องใส่ทุกวันแล้วจะแปลว่าผ้าอนามัย affordable ขึ้นมาทันที
85
(ขออนุญาตจขทว. ค่ะ) พูดเป็นเล่นไป มีผช.คนนึงที่เคยคุยเรื่องนี้ด้วย เขาสนับสนุนเรื่องสวัสดิการผ้าอนามัยนะ แต่เหตุผลเบื้องหลังคือเพราะเขาคิดจริงๆ ว่าผู้หญิงต้องใส่ผ้าอนามัยตลอดเวลา 😨 เอาเป็นว่าที่แน่ๆ สุขศึกษาบ้านเราล้มเหลวมาก twitter.com/septamberwish/…
86
มีช่วงนึงที่พยายามหา opening quote เหมาะๆ สำหรับเล่มนี้ โจทย์คือไม่อยากได้อะไรที่พูดถึงความสุขแล้วเพราะเนื้อหาในเล่มหนักมาก ประจวบเหมาะกับไปเจอประโยคนี้ที่อาเหม็ดเขียนไว้ อ่านแล้วจะร้องไห้ เลยได้มีโอกาสฝากฝีมือแปลเล็กๆ ไว้ตรงนี้ด้วย ขอส่งพลังให้ทุกคนข้ามผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ค่ะ 🍃 twitter.com/okjetaime/stat…
87
คือเรารู้กันอยู่ละแหละว่ากฎหมายไม่ใช่ทุกอย่าง แต่ถ้าปราศจากกฎหมาย หลายๆ อย่างก็เกิดขึ้นไม่ได้ในบริบทสังคมปัจจุบัน แล้วมันเป็นทุกอย่างที่เกี่ยวกับเงื่อนไขต่างๆ ที่ทำให้เราใช้ชีวิตต่อไปได้ เพราะงั้น #สมรสเท่าเทียม เลยไม่ใช่แค่ตัวหนังสือ แต่เป็นความหวังในชีวิตของคนที่มีลมหายใจจริงๆ
88
อาเหม็ดสรุปไว้ดีมากว่า การจะเข้าใจความร้ายแรงของการสูญเสีย เราต้องเริ่มจากการรับรู้ความมีหัวจิตหัวใจของคน ที่เจ็บและแตกหักได้ในความสัมพันธ์รูปแบบนอกเหนือจากบรรทัดฐานเสียก่อน ซึ่งเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากฎหมายก็เป็นกลไกสังคมอย่างหนึ่งที่ shape ทัศนคติคนไปสู่ความมีหัวจิตหัวใจที่ว่า (3)
89
แอ็บบี้ตอบว่า “เพื่อนฉันตกต้นไม้ค่ะ” แต่กลับได้รับคำพูดกลับมาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นหนักหนาน้อยกว่าตนที่สามีป่วย เพราะยังไงเพื่อนก็เป็น “คนนอกครอบครัว” เสียใจยังไงก็เสียใจได้ไม่เท่ากันอยู่แล้ว คือมันสะท้อนใจมากเพราะสังคมไม่เคยมีที่ยืนให้ความสัมพันธ์แบบอื่นที่ไม่ใช่รักแบบชายหญิงเลย (2)
90
เห็นข่าว #สมรสเท่าเทียม วันนี้แล้วหดหู่ นึกถึงบทวิเคราะห์ของอาเหม็ดที่พูดถึงตัวละครเลสเบี้ยนในหนัง If These Walls Could Talk 2 แฟนของตัวละครคนนั้นตกจากต้นไม้สูงจนต้องเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน ฉากนั้นมีคนที่สามีป่วยมานั่งรอหน้า ER อยู่ด้วย คนนั้นถามตลคว่า “เธอมาทำอะไรที่นี่” (1)
91
เกิดมามีมดลูกคือมีความเจ็บปวดทางร่างกายที่บอกใครไม่ได้อยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคืออาการทรมานขณะเบ่งอึตอนเมนส์มา น้ำตาคลอในส้วมทุกเดือน ด้วยความที่อวัยวะไม่ได้ไกลกัน ออกแรงเบ่งทีก็จะรู้สึกเหมือนมีมือมากระชากลำไส้ส่วนปลายที เจ็บเหี้ยๆ เป็นความเจ็บรายเดือนที่ไม่เคยทำใจให้ชินได้เลย ;-;
92
นี่คิดมาสักพักละว่าท่าทีของรัฐบาลที่หน้าหนาไม่รู้สึกรู้สากับเสียงวิจารณ์ นอกจากเหตุผลชัดๆ อย่างการวางตัวเป็นเผด็จการไม่สนสี่สนแปด คือหรือว่าจริงๆ อยู่กันด้วยทัศนคติแบบ haters gonna hate วะ ถ้าจริงคือกุเวทแล้วหนึ่ง คำวิจารณ์เสียงสะท้อนใดๆ คงไม่ทะลุเข้าหนังหัวไปให้ได้ตกตะกอนบ้างเลย
93
"I don't actually mind sitting still at this moment, thinking of you, of what it would be like if the universe spun its thread just a millimetre away and we lost that little chance of exchanging glances." twitter.com/Daiong/status/…
94
ปกติจะออกไปไหนมาไหนด้วยความรู้สึกว่าไม่โดนจับตามองก็ยากอยู่แล้ว พอมีโควิดที ความเป็นลูกสาวในครอบครัวจีนหัวโบราณยิ่งรัดจนแทบหายใจไม่ออกทุกวัน อย่าพูดถึงไม่โดนที่บ้านจับตามองเลย แค่จะออกไปไหนเองยังไม่ได้ เหมือนมีเรื่องกลัวติดโรคมาซ้อนทับไว้อีกชั้นหนึ่ง สภาพจิตใจคือแหลกเหลวไปหมดละ
95
ล่าสุดเจอวลี “ขมแต่ไม่คาย” เฮ้ย ชอบว่ะ เหมาะกับมนุษย์ heavy angst อย่างชั้น ชอบดีนักแหละอะไรหนักๆ ขยี้ตับเข้าไป แต่ถามว่าอ่านมั้ย อ่าน อ่านอีก ก็ร้องไห้ให้น้ำตาชุ่มหมอนไปเลยสิคะ
96
@kaeyarbz Easy for you to say when you ain’t living in a country where police brutality and excessive use of force from authorities happen almost on a daily basis. You know being happy and being politically sensitive can co-exist even though they’re two completely different things.
97
เราไม่ได้ตามอ่านดราม่าในนี้นะ แต่นี่เป็นความรู้สึกแรกที่ผุดขึ้นมาตอนดูเลย อึดอัดฉากชุดตำรวจเป็นพิเศษ อาจจะเพราะเห็นต่อเนื้อตาแล้วมันกวนภาพจำแง่ลบขึ้นมาแบบที่จะไม่ให้นึกถึงเลยก็เป็นไปไม่ได้ละมั้ง จะไม่ให้นึกโยงไปถึงเลยก็คงยาก ยังไงคนเสพสื่อก็คือมนุษย์ ไม่ใช่ตุ๊กตากระเบื้องนี่นา
98
เพิ่งได้ดูเอ็มวี แล้วก็รู้สึกว่า อืม คนคิดคอนเซปต์สอบตก นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเวลาจะทำสื่อแมส แต่ลืมทำการบ้านรีเสิร์ช socio-political context ขององค์ประกอบที่หยิบฉวยมาใช้ (เผลอๆ พ่วง cultural sensitivity ด้วย) ไม่ใช่ว่าใช้ไม่ได้เลย แต่คำถามคือจะใช้อย่างมี awareness ยังไงมากกว่า
99
ก็ดูเอา แค่แชร์โพสต์ของ spring movement เรื่องพื้นที่ปลอดภัยในคลับเฮ้าส์ ก็โดนคนตามมาคอมเม้นท์ระรานถึงหน้าเฟซตัวเอง ironic ชิบหาย พอผนวกกับกระแสแต่งตัวโป๊โดนลวนลามเหมือนไม่ล็อคประตูให้ขโมยปีนได้ก็แบบ ยังจะให้เชิดชู not all men อยู่ได้ยังไงเอ่ย ที่เจอมาก็มั่นควยแบบนี้ทั้งนั้น 🤦🏻‍♀️
100
*สปอยล์บางส่วน* รู้สึกขอบคุณที่หมอเพลงใส่ประเด็น domestic violence หนักๆ เข้ามาในเรื่อง เราว่าอย่างหนึ่งที่ชัดเจนมากและตัวละครนี้ (ขอไม่เอ่ยชื่อ) พยายามสื่อสารออกมาคือความรุนแรงในครัวเรือนไม่ได้ทำให้เกิดบาดแผลแค่ในทางกายภาพ แต่ยังเป็นความบอบช้ำสาหัสในจิตใจด้วย