51
หลายปีที่ผ่านมา ไปงานศพทีไรก็จะนึกถึงประโยคของเฮเซลซ้ำในหัววนไปวนมาตลอด ที่ว่า funerals are not for the dead, they are for the living วันนี้ก็เช่นกัน
52
และทางออกจากความสัมพันธ์ก็ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายๆ อย่างการปิดประตูเดินออกมา ไม่ใช่ทุกคนจะมีอำนาจทำแบบนั้นได้ ไหนจะต้องกลัวเรื่องผลกระทบทางจิตใจ ผลกระทบกับคนรายล้อม หรือแม้แต่ความรุนแรงทางร่างกายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทั้งหมด แล้วถามว่าผู้หญิงตัวคนเดียวจะแบกทั้งหมดนี่ไหวได้ยังไง
53
ทั้งที่จริงๆ ในความสัมพันธ์หนึ่งๆ อาจจะมี dependency หรือความจำเป็นทางความรู้สึกใดๆ ห้อยตามมาเป็นพรวน ยังไม่นับการบังคับควบคุม พลวัตทางอำนาจที่ไม่เท่ากัน หรือข้อผูกมัดเป็นชิ้นเป็นอันอย่างเรื่องเงินเรื่องการดูแล สิ่งเหล่านี้ผูกมัดหลายคนไว้ในความสัมพันธ์ที่ตัวเองก็ไม่ได้ต้องการ
54
คำว่าปักหมุดความเสียหายไม่ได้เป็นคำสำคัญ เพราะเมื่อจับต้องไม่ได้ หลายคนก็มักจะตีขลุมไปว่ามันไีม่รุนแรง มัน subtle นำไปสู่ทัศนคติว่า "ก็แค่เลิกกันไปสิ" ส่วนตัวคิดว่าตรงนี้มาคู่กับการที่สังคมชอบมองเรื่องสุขภาพจิตเป็นเรื่องเล็กน้อย เหมือนคนเราเปิดปิดสวิตช์ความรู้สึกกันได้ง่ายๆ
55
สังคมนี้ถามผญง่ายเกินไปว่า "แล้วทำไมไม่เลิก ทำไมไม่เดินออกมาจาก abusive/toxic relationship" เหมือนกับลืมไปว่านั่นก็เป็นวิธีโทษเหยื่อแบบหนึ่ง จริงๆ ปัจจัยรายล้อมที่ทำให้คนคนหนึ่งออกมาจากคสพ.ใดๆ ไม่ได้ เป็นความรุนแรงที่มองไม่เห็น ซึ่งมักเรื้อรังและไม่ได้ปักหมุดความเสียหายได้เสมอไป
56
เวลาบ่นว่าวันจันทร์ไม่อยากทำงาน ไม่ได้แปลว่าวันอื่นอยากทำงาน แต่วันจันทร์หรือวันไหนๆ ก็ไม่อยากทำงาน ขอบคุนค่ะ
57
เจก็คือเหมือนดูดความปิตาฯ ความเหยียดเพศมาทั้งจากฝั่งคนขาวและจากฝั่งเกา worst combination สุดๆ และใช่เราเคยชอบเขามาก ส่วนตอนนี้ก็คือไม่อยากกลับไปฟังเพลงอีกแล้ว อินไม่ลงแล้ว เพราะแบบนี้เดี๋ยวนี้เลยไม่ค่อยกล้าพูดว่าชื่นชมหรือชอบใคร ล้มทีใจชั้นก็พังไปด้วย 😔
58
ซึ่ง 1) ไม่ได้แปลว่ามองแบบนี้คือผิด 2) ยังสามารถหยิบมาถกกันได้ ไม่รู้ก็สามารถถามได้ เหมือนเอาแนวคิดเฟมไปแปะจับเพื่อตีความกับกรอบสังคม-การเมือง-ศกตามปกติ แต่คิดว่าไม่ได้มีใครเอามา identify ตัวเองเท่าไหร่ ปกติในภาคความเคลื่อนไหวที่เจอมากกว่าคือถามว่า เออแล้วสนใจประเด็นไหนเป็นพิเศษ
59
เวลาถามว่าเฟมสายไหนจะนึกถึงตอนเรียนโท มีคลาสนึง ขาวมาก อาจารย์พยายามจำแนกสายเฟมแบบ เฟมลิบ นีโอลิบ สตรัคเชอรัล ฯลฯ แล้วเราคือ lose interest อย่างรวดเร็ว มองตามกรอบแบบ eurocentric ก็เออเก็ท แต่สำหรับนี่คือมันทำให้วิธีคิดแบบเฟมติดกรอบทฤษฎีม้ากมาก อารมณ์เดียวกะการมองเป็นเวฟ ;-;
60
ไม่ค่อยเชื่อเรื่องการค้นหาตัวเองจนเจอเท่าไหร่แล้ว สำหรับเรา moment of discovery แบบนั้นอาจจะไม่มีวันมาถึง แต่มันไม่ได้หมายความว่าสิ่งต่างๆ ที่ผ่านมาแล้วผ่านเลยไปไม่มีความหมาย อยากตั้งใจมองรายละเอียดของการเติบโตให้มากกว่านี้ เลิกกังวลกับการเชื่อว่าปลายทางจะต้องจบลงด้วยความชอบเสมอ
61
หลังเลยยี่บห้ามา อย่างนึงที่อยากทำให้ได้คือใจดีและผ่อนปรนกับตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อได้รับรู้แล้วว่าความกดดันรอบข้างทั้งทางตรงทางอ้อมโบยตีเรามาตลอด อย่างเรื่องงาน สุดท้ายอาจจะไม่ได้รู้ว่าตัวเองชอบอะไร แต่ได้ใช้ชีวิตทั้งหมดไปกับการได้ลองจนรู้ว่าตัวเองไม่ชอบอะไรบ้าง มันก็โอเคนะ
62
จะหาเช่าคอนโดทีคือปวดหัวเป็นบ้า นอกจากดูทำเล รปภ. ชั้น ทางเดิน ตำแหน่งห้อง ฯลฯ แล้วยังต้องมานั่งคิดเรื่องความปลอดภัย อย่างถ้าผู้ให้เช่า (ช) ถือกุญแจอีกเป็นต้น แล้วข่าวที่ออกมาแต่ละอย่าง ผชแอบเข้าห้องมาข่มขืนงี้ คือ แค่ผู้หญิงจะออกมาอยู่ตัวคนเดียวมันต้องมานั่งระแวงอะไรขนาดนี้ก่อน
63
นั่งดูคลิปติ้กต่อกทำอาหาร เพิ่งได้รู้วันนี้ว่ามีคนเรียกการผ่าหลังกุ้งสดแล้วแหกออก (เพื่อเอาไปทอดหรือผัดต่อ) ว่า butterfly your shrimp เออมันน่ารัก คือพอหั่นแล้วกางออกเต็มๆ มันก็ดูเป็นผีเสื้ออยู่ อะไรประมาณนั้นมั้ย แสนน่ารัก 🥺
64
อส material ชั้นดี คำก็สืบพันธุ์ สองคำก็สืบพันธุ์ ไม่ต้องอ่านระหว่างบรรทัดอะไรแล้ว ทิ่มลูกตาขนาดนี้ เป็นชั้นจะแจกคำวินิจฉัยนี้ให้นักเรียนอ่านแล้วเขียน response เอาเลยเต็มที่ ทุกประโยคมีความเหี้ยในตัวมันเองพร้อม
65
เอาไปสอนต่อเลย ปิตาธิปไตยที่แฝงอยู่ในโครงสร้างสังคมเป็นยังไง ไปดูกฎหมาย นอกจากจะเชิดชูรักต่างเพศแบบไม่อ้อมค้อม รัฐยังมองผู้หญิงเป็นเครื่องจักรผลิตลูก เกิดมาเพื่อสืบพันธุ์และเป็นแม่ในครอบครัว มากกว่าจะเป็นมนุษย์ที่มีเสรีภาพ มีเจตจำนงมากกว่าแค่สนองตอบหน้าที่สืบพันธุ์ตามธรรมชาติ
66
เอาจริงๆ นะหมดหวังขนาดนี้ โมโหขนาดนี้ นี่ก็ยังเลือกจะเชื่อว่าสังคมทวนกระแสย้อนกลับไปมืดบอดเหมือนเดิมไม่ได้แล้วกับเรื่องสมรสเท่าเทียม อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นกับรัฐบาลนี้เพราะมันพังกันหมดทั้งนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ แต่ก่อนตายต้องได้เห็น ทำมาตั้งขนาดนี้ เรื่องนี้ถอยหลังไม่ได้แล้วจริง
67
ถึงจุดนึง แนวคิดเรื่องสถาบันครอบครัวต้องถูกลดความสำคัญลง ไม่งั้นสังคมก็จะเชิดชูคสพ.แบบรักต่างเพศ (แล้วอุ้มมันด้วยคำว่าค่านิยม ประเพณี ธรรมเนียมปฏิบัติ ฯลฯ) อยู่ร่ำไป ไม่ใช่แค่เรื่องสมรสเท่าเทียมนะ แต่ปัญหาอย่างกฎหมาย dv ก็ตกหล่มเพราะมัวแต่บูชาครอบครัวให้ไกล่เกลี่ยไว้ก่อนอยู่นั่น
68
คำวินิจฉัยรอบนี้ยิ่งตอกย้ำว่า ทำไมเราถึงต้องทลายความเชื่อที่ว่ามีเพียงครอบครัวแบบ nuclear family ตามขนบชายหญิงเท่านั้นที่สามารถมีความผูกพันลึกซึ้งได้ ทั้งความรัก ความอบอุ่น สายสัมพันธ์ kinship ความเป็นครอบครัวของมนุษย์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความรักแบบชายหญิงแน่นอน
69
ทุกคนนน วันนี้แล้วนะสำหรับ #ม็อบสมรสเท่าเทียม พกปากกามาลงชื่อแก้กฎหมายกันค่ะ ซุ้มหน้าสุดตรงทางเข้างานเลย! นอกจากนี้ในงานยังมีปราศรัยจากประชาชน ปราศรัยจากตัวแทนพรรคการเมือง การแสดง วงดนตรี ซุ้มกิจกรรม ขายของ และอื่นๆ อีกมากมาย 🏳️🌈✨ twitter.com/femliberateth/…
70
เห็นข่าว “พัฒนาพื้นที่ xx เพื่อเชิงพาณิชย์” ทีไรแล้วปวดหัวใจกับสิ้นหวังในประเทศนี้ทุกครั้งไป รัฐวิสัยทัศน์แคบมองเห็นแต่ทุน ทำอะไรก็เลียตีนนายทุน แต่ไม่เคยมองเห็นความสำคัญของชุมชน คน สิ่งแวดล้อม หรือพลวัตของเมือง สาธารณประโยชน์อะไรๆ ก็โดนกลืนไปหมด
71
(อ่านสิ่งที่ไทยไปสัญญาไว้ในเวทีโลกแล้วแบบ แหะ นึกถึงความทรงจำหลายอย่าง นี่คือเหตุผลที่ทำงานด้านการทูตไม่ได้จริงๆ ไม่สามารถพูดโดยปักธงมีจุดยืนต้องปกป้องประเทศหรือรัฐบาล *โดยเฉพาะในบรรยากาศทางการเมืองแบบนี้* โดยไม่รู้สึกอะไรเลยได้ขนาดนั้น แค่คิดก็ปั่นป่วนในท้องแล้ว)
72
รีรันอีกรอบ ชวนทุกคนจับตามองค่ะ วันพรุ่งนี้ (10 พ.ย.) ประเทศไทยจะเข้าสู่กระบวนการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนหรือ UPR หนึ่งในประเด็นที่เราและองค์กรภาคประชาสังคมกำลังผลักดัน คือเรื่องรับรองสถานะทางกฎหมายให้ผู้ลี้ภัย รวมถึงให้รัฐหยุดจับกุมควบคุมตัวและส่งพวกเขากลับประเทศต้นทางโดยพลการ twitter.com/FortifyRights/…
73
น่าเศร้าที่ความเปลี่ยนแปลงพวกนี้ไม่เคยตอบสนองล้อรับกับความทรงจำหรือความสัมพันธ์ของชีวิตทางสังคมที่คนมีต่อสถานที่ และการไม่เหลืออะไรให้จดจำนั้นน่ากลัว พอคิดว่าเราค่อยๆ สูญเสียความรู้สึกร่วมกับพื้นที่หนึ่งๆ ไปตลอดกาล แต่แน่นอนว่ามันทำงานควบคู่ไปกับวิธีคิดแบบนายทุนหรือเผด็จการได้ดี
74
ไม่ได้มาสยามนานมาก กลับมาอีกที ทำไมมันดูกลายเป็น a shell without a soul ไปแล้ว มีแต่ตึกของนายทุนขึ้น ที่โดนไล่ทุบ ร้านเล็กๆ ที่รู้จักทยอยปิดไม่ก็ย้ายออกไป นี่คือย่ายที่ได้ชื่อว่าเป็นไข่แดงของกรุงเทพฯ เหรอ เป็นพื้นที่ที่กลวงเปล่ามากเลย
75
ช่วงนี้มักเจอคำพูดประมาณว่า “ไม่ใช่ทุกเรื่องจะเป็นประเด็นเรื่องเพศ” โอเค ก็รู้ ไม่เถียง แต่ที่สำคัญคือหลายเรื่องมีมิติเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมถึงเรื่องที่คุณอาจจะคิดไปก่อนแล้วด้วยว่าไม่เกี่ยว เพราะงั้นการปักธงว่าไม่ใช่ไว้ก่อนมันเลยกลายเป็นอคติได้ง่าย