สรุปเราได้เป็นตัวแทนไปพูดสปีชใหญ่แหละค่ะ 🥹 ขอบคุณทุกกำลังใจมากๆๆเลยนะคะ พูดจริงอาทิตย์หน้าแล้ว จะทำให้ดีที่สุดเลย หวังว่าสปีชเรื่องสมรสเท่าเทียมและ Lgbtq ของเราจะช่วยให้คนเข้าใจประเด็นนี้ได้มากขึ้นไม่มากก็น้อย! twitter.com/arielqueenss/s…
มีการถกเถียงเกี่ยวกับเวลาผีออก (Witching Hour/ Devil’s Hour) อยู่มากค่ะ ว่าจริงๆแล้วเป็นกี่โมง แต่ที่เชื่อกันมากที่สุดคือตีสาม เพราะเชื่อมกับความเชื่อของศาสนาคริสต์ รวมถึงตำนานพื้นบ้านหลายที่ แต่บางคนก็เชื่อเวลาเวลาผีออกจริงๆแล้วคือเที่ยงคืน เพราะคือการเริ่มต้นวันใหม่- (1)
ราชวงศ์อังกฤษจะไม่กิน shellfish (สัตว์ทะเลที่มีเปลือก) กันค่ะ เพราะเชื่อว่าอาหารประเภทนี้จะทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษมากกว่าชนิดอื่น พวกเขาจะต้องเข้าร่วมงานสังคมบ่อยๆ คงน่าอายถ้าอยู่ๆต้องวิ่งเข้าห้องน้ำ นอกจากนี้ยังระวังพวกเนื้อไม่สุก หรือน้ำดื่มเวลาอยู่ต่างประเทศด้วยนะ (10)
นอกจากนี้ยังวาดออกมาแบบนี้เพื่อประโยชน์ในการคลุมถุงชนด้วยนะ สมัยก่อนจะจับคู่กันเขาทำกันยังไง? ก็ส่งรูปวาดให้ดูกันไปเลยสิคะ ให้ดูหน้าลูกดิชั้นล่วงหน้าสิบปีเลย โตมาก็หน้าแบบนี้แหละ จองกันตั้งแต่ยังเดินไม่ได้ (8)
ประสบการณ์ดีๆจากโอซาก้า 🥺 ไปเล่นเกมตู้คีบในร้าน แล้วจู่ๆก็มีคนนึงเดินมาหา (เหมือนจะเป็นสตรีมเมอร์ เห็นเขาสตรีมอยู่) แล้วบอกว่าให้เป็นของขวัญนะ พอดีเขาคีบได้ ก็เลยได้น้องโตะมาแบบฟรีๆเลย ;—; เป็นเซ็ตที่อยากได้มากๆด้วย แถมพนง.ในร้านคีบใจดีมาก ช่วยจนคีบได้แชงค์มาอีก ตู้คีบต้องโอซากา
น้องมิเกล 🥺 เป็นตัวละครที่น่ารักน่าเอ็นดูมากๆ ฟันแฟคสำหรับน้องคนนี้คือทีแรก น้องจะเล่นแต่กีต้าร์อย่างเดียว จะไม่ร้องเพลง แต่ผู้กำกับของเรื่องรู้ว่าน้อง Anthony ที่พากย์เสียงมิเกลร้องเพลงเพราะมาก เลยตัดสินใจให้มิเกลได้ร้องเพลง เพราะอยากโชว์ศักยภาพของคนพากย์เสียงล่ะ น่ารักมากๆ twitter.com/cmlee09_/statu…
จะมีซีนนึงในหนังที่คริสตอฟฟ์บอกว่าผู้ชายทุกคนแคะขี้มูกแล้วเอามากิน จำได้กันมั้ยคะ ในเอ็นเครดิตของ Frozen มีประโยคโผล่ขึ้นมาตอนท้ายว่า ‘สิ่งที่คริสตอฟฟ์พูดเป็นความเห็นของเขาคนเดียว ไม่ได้แทนตัวคนทำหนังนะ’ ก็คือมั่ยรับรุ ไม่ได้บอกให้กินน้า ไม่ใช่ทุกคนกินน้า555555 twitter.com/sweetdream_sta…
นอกจากแก๊ซ ควัน และความร้อนแล้ว สิ่งที่คร่าชีวิตผู้คนอีกอย่างคือเศษหินจากภูเขาที่ตกลงมาใส่ เหมือนฝนตกเลยค่ะ มีหลายคนที่เสี่ยงวิ่งหนีแก๊ซ แต่ก็ไม่รอดจากหิน (8)
มีหลายทฤษฎีว่าเธอถูกจับได้ยังไง แต่ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับศพเด็กที่พบในแม่น้ำเทมส์ที่ถูกห่อด้วยเทป เมื่อตรวจดูก็พบชื่อกับที่อยู่บนกระดาษห่อ จนสืบไปสืบมาก็สาวไปถึงตัวอมีเลีย จนสุดท้ายก็ถูกจับและสารภาพ เธอชี้จุดในแม่น้ำ และตำรวจก็พบศพเด็กอีก 6 ศพตามที่เธอให้ข้อมูล (6)
ต่อมา แล้วชาวเงือกอึ๊ยังไงกัน? คงจะซับซ้อนหน่อยเพราะเงือกเป็นครึ่งคนและครึ่งปลา และเพราะท่อนล่างของเงือกเป็นปลา จึงเป็นไปได้ว่าเงือกอาจถ่ายแบบเดียวกับปลา ปลาส่วนมากเองก็มีรูทวารหนักเหมือนกับคนนี่แหละ ส่วนบางชนิดจะมี ‘cloaca’ ซึ่งจะเป็นรูที่อยู่ปลายด้านข้างบริเวณหาง (3)
หลังจากเวลาน้ำชา ก็จะเป็นช่วงใช้เวลาตอนเย็นร่วมกัน ทั้งอ่านหนังสือด้วยกัน เล่นเปียโน เย็บผ้า เขียนจดหมาย ฯลฯ ส่วนมากถ้ามีแขกก็จะมีการเล่นดนตรีหรือเล่นเกมไพ่กัน ระหว่างนั้นก็ยังมีมื้อ supper อีกมื้อ ที่ถ้าใครไหวก็ไปต่อ5555 แต่ไม่ใช่อาหารหนัก จะเป็นพวกซุปหรืออาหารเล็กๆน้อยๆ (14)
เมื่อภูเขาไฟระเบิดและเกิดควันหนาและขี้เถ้า ชาวปอมเปอีก็พยายามเอาชีวิตรอดค่ะ มีการขุดพบซากของคนที่ปรากฎเสื้อคลุมรัดเอวเอามาพันไว้รอบหน้า คือคนเขาก็พยายามรับมือเท่าที่ทำได้ล่ะนะ แต่ไม่พอจริงๆ (5)
นักโบราณคดีเชื่อว่าแถวเข้าส้วมยาวมากๆ เพราะดูจากที่มีกราฟิตี้บนผนังห้องน้ำเยอะแยะ (ถ้าให้เทียบก็เหมือนการเขียนผนังห้องน้ำในยุคปัจจุบัน) ตัวอย่างเช่น: ‘เหล่าผู้อึและฉี่ ขอให้ทุกอย่างเรียบร้อย คุณจะได้ออกไปจากที่นี่ซะที (รอนานแล้วโว้ย)’ ‘แพทย์แห่งจักรพรรดิ Titus เคยอึที่นี้’ (9)
ในโรมโบราณยุคแรกๆ จะมีการทำนายที่เชื่อว่าจะได้รับสารจากพระเจ้าโดยดูจากการขยับตัวของนก ผู้ทำนายจะโฟกัสไปที่ทิศทางการบิน ซึ่งในวัฒนธรรมกรีกจะเชื่อว่าสารของพระเจ้าเป็นไปในแง่บวกถ้านกบินจากขวา แต่สำหรับชาวโรมจะเชื่อว่าดีก็ต่อเมื่อบินมาจากทางซ้าย (2)
ducking tool เวอร์ชั่นสองก็คล้ายๆกับของเดิม แต่สาวๆจะถูกนำไปหย่อนลงในแม่น้ำซ้ำไปซ้ำมา เชื่อว่าเพื่อ “ทำให้ไฟร่านดับลง” อะไรประมาณนี้ รวมไปถึงใช้เพื่อทดสอบว่าสาวคนนั้นเป็นแม่มดหรือเปล่า ถ้าเธอลอยก็แปลว่าร่างกายปฏิเสธน้ำ (ซึ่งถือว่าศักดิ์สิทธิ์) = เป็นแม่มด ถ้าไม่ลอยก็จมน้ำตาย (6)
ชั้นเจอ lil nas x ที่ชินจูกุ 🥹🤍
จริงๆคิดว่าตัวเองดูหนังเซตติ้งยุคกลางมาระดับนึง ถ้าจะทำเธรดแนะนำเรื่องที่คิดว่าค่อนข้างโอเคในเรื่องของความถูกต้องตามประวัติศาสตร์ พวกรายละเอียดเช่นการแต่งกาย วัฒนธรรม ความเชื่องี้ สนใจกันมั้ยคะ แต่ก็จะอิงตามความคิดเรานะ อาจจะมีใช่บ้างไม่ใช่บ้าง55555
3) เหยื่อของแวมไพร์ ส่วนมากจะเป็นคนในครอบครัว แต่เหยื่อของแดร็คคูล่าคือศัตรูหรือคนทั่วไป 4) ที่มาของแวมไพร์คือจากตำนานนิทานเรื่องเล่า ส่วนแดร็คคูล่าเป็นตัวละครที่อ้างอิงมาจากตำนานแวมไพร์อีกทีนั่นเอง (8)
น้องอีกคนที่มักจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเงือกคือ dugong แปลจากภาษามาเลย์ได้ว่าเป็น ‘สตรีแห่งท้องทะเล’ มีหลายครั้งที่โครงกระดูก dugong และมานาทีถูกพบและเข้าใจผิดว่าเป็นเงือก เพราะมีลักษณะคล้ายกันค่ะ (5)
สีชมพูในยุคนั้นเป็นสีที่ไม่มีเพศค่ะ ทุกเพศใส่สีนี้กันหมด ในยุค ศ.ที่ 19 โบว์สีชมพูมักจะถูกใส่โดยเด็กชาย เพราะสมัยนั้นเด็กชายก็คือผู้ชายตัวน้อย พวกผู้ชายใส่สีแดง ผู้ชายตัวน้อยเลยใส่สีชมพู แต่จริงๆแล้วยุคนั้นเสื้อผ้าเด็กมักเป็นสีขาว เพราะผ้าสีเวลาโดนซักด้วยน้ำร้อนจะเฟดไว (6)
เมื่อตื่นขึ้น คนที่นอนไปจะรู้สึกไม่ปกติ ขี้เกียจหนัก หรือไม่มีสติ ซึ่งก็ไปตรงกับอาการของคาโรลินาที่ว่ามีการละเมอเดิน พึมพำขณะยังหลับ ซึ่งต้นตอของภาวะนี้ยังไม่มีเหตุแน่ชัด บ้างก็เชื่อว่าอาจเป็นอาการที่ส่งต่อกันได้ในครอบครัว หรืออาจเป็นความผิดปกติของสมอง (11)
หลังจากการล่มสลายของอาณาจักรไบเซนไทน์ ความเฉพาะกลุ่มของสีม่วงก็ลดลง ในช่วงยุคกลาง นอกจากพวกบิชอป ก็จะเป็นพวกอาจารย์ในมหาลัยก่อตั้งใหม่ในยุโรปค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม สีม่วงก็มีบทบาทสำคัญในภาพวาดทางศาสนาของยุคเรเนซองส์ อย่างเทวดาและพระแม่มารีมักจะถูกวาดให้ใส่ชุดสีม่วง (7)
ประเทศที่โด่งดังที่สุดในเรื่องของ Finishing School ต้องยกให้สวิตเซอร์แลนด์ มีทั้งเจ้าหญิงจากประเทศต่างๆ ดารานักแสดงอีลีท หรือคนที่มีหน้ามีตาในสังคม (ภาพที่นำมาให้ดูคือรร.ในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ใช่ Finishing School กันแล้ว) (3)
หญิงขายบริการถูกแบ่งออกเป็น 3 คลาส 1) ชั้นที่ต่ำที่สุด: สาวๆจะต้องพึ่งพิงซ่อง (brothel) และจะไม่สามารถเลือกลูกค้าได้ ลูกค้าจะมาจากมาดามประจำซ่องที่จะเลือกให้ คุณภาพชีวิตค่อนข้างต่ำ สกปรก แต่ซ่องก็จะดูแลเรื่องสุขภาพและโรคติดต่อให้ เพราะมันอันตรายต่อสาวๆ รวมถึงเสียชื่อซ่องด้วย (5)
#ม็อบ7สิงหา ประกาศยุติการชุมนุมแล้ว สำหรับใครที่หาเพื่อนกลับบ้านนะคะ ขอให้ทุกคนกลับถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ขอบคุณสำหรับวันนี้ค่ะ 🤍