Misper(@misperaki)さんの人気ツイート(リツイート順)

326
แถมอันโปรดข้อยคืออันนี้ umbra sumus ('เราคือเงา') ซึ่งก็หมายถึงเงาบนนาฬิกาแดดอีกนั่นแหละ แต่ก็มีความหมายซ้อนว่า '[เมื่อเราตายไป]ก็จะหลงเหลือแค่ฝุ่นและเงา' มาจาก diffugere nives ('หิมะละลาย') ของ Horace (ข้อยเคยเขียนถึงด้วย) เจ้านาฬิกานี่ดูฉลาดกว่าชั้นอีก 5555555 twitter.com/misperaki/stat…
327
เป็น #กระเบื้องบิ่นหินอ่อนร้าว ที่ข้อยชอบมาก ชายเสื้อสวยจนแทบจะรู้สึกถึงลมพัด จริงๆ เป็นรูปปั้นที่ยังสยายปีกอยู่ ตอนจัดแสดงครั้งแรกปี 1866 มีแค่นี้เองล่ะ แล้วก็ต่อเติมเข้าไปเรื่อยๆ เดาจากเสี้ยวขนนกชิ้นเล็กชิ้นน้อย บางทีก็สงสัยว่าถ้าสักวันเราได้เห็นโฉมหน้าของชัยชนะจะเป็นยังไงนะ
328
เอาจริงๆ ขนาดไม่ใช่อีฟ อ่านมาถึงตรงนี้ก็เริ่มพยักหน้าหงึกหงัก เอองูนี่พูดมีเหตุผล แต่ประโยคถัดไปคือ นอกจากจะไม่ตาย ข้ายังสามารถคิดได้เหมือนมนุษย์ทั้งๆ ที่โชคชะตาให้ข้าเป็นแค่งู นี่คือผลไม้แห่งความรู้ ลองถามตัวเองสิว่าพระเจ้าแบบไหนกันที่ห้ามไม่ให้มนุษย์เรียนรู้ ทรงกลัวอะไร /5
329
ผมจะไม่บอกอะไรคุณทั้งนั้น จะไม่ทำให้คุณลำบากใจ อะไรที่อยู่ข้างในผมจะไม่มีวันพูดออกมา ตอนกลางวันดอกไม้หลับใหล แต่เมื่อไหร่ที่พระอาทิตย์จมจากฟ้า ท่ามกลางเสียงดอกไม้แย้มกลีบ ผมก็ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองผลิบานอีกครั้ง พูดถึงวานยา อยู่ๆ ก็นึกถึง ในหนังสมัยข้อยเด็กๆ วานยาร้องเพลงนี้ล่ะ
330
ชุดแต่งงานของดิออร์กับของชาแนลจากคอลเลคชันฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาวปีนี้ล่ะ! ✨ twitter.com/misperaki/stat…
331
และอีฟ เหมือนคนส่วนมากที่ยืนตรงนั้นและฟังคำพูดนั้น ก็เด็ดผลไม้ลงมา แล้วก็กินมันเข้าไป ที่น่าสนใจคือคำถามถัดไปของอีฟคือ 'ควรจะให้อดัมกินผลไม้ด้วยไหม' หรือควรจะเก็บไว้ให้ตัวเองจะได้ 'เหนือกว่าอดัม' ในเมื่อ 'ถ้าต่ำต้อยกว่า ใครจะเป็นอิสระได้' for, inferiour, who is free? /7
332
ความไม่ธรรมดาของเฮลิโอกาบาลุสนี่คือเริ่มตั้งแต่ประโยคแรกของชีวประวัติ 'ชีวิตของเฮลิโอกาบาลุสเนี่ย จริงๆ ไม่น่าเขียนบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเลย คนจะได้ไม่รู้ว่าชาวโรมันเราเคยมีคนแบบนี้เป็นจักรพรรดิ' คืออ่านแล้วแบบ 555555555 โว้ย แล้วคุณพรี่จะบันทึกไว้ทำไม! /2
333
ป.ล. เรื่องเล่าความตามใจ ซลร ของแบร์เฌคือไม่มีที่สิ้นสุด 5555555 อย่างตอนซื้อบ้าน ซลร บอก 'อยากได้ทะเลสาบ' (…) คุณแบร์เฌคือแบบ 'ได้สิ' (…) แล้วไปหาคนมาขุดทะเลสาบให้อีฟจริงๆ แล้วพออีฟมาเห็น 'เล็กไป!' แบร์เฌ 'โอเค *รื้อหินออก ขุดใหม่*' และสุดท้ายอีฟก็ได้ทะเลสาบไซส์ที่เธอต้องการ
334
ถ้าเคยได้ยินคำพูดที่ว่า absence makes the heart grow fonder ประโยคนี้จริงๆ ก็แปลมาจากโพรแปร์เซียสล่ะ! ต้นฉบับภาษาละตินคือ [semper] in absentis felicior aestus amantis (II, xxxiii) แต่ฟีลละตินจะแบบ ยิ่งไม่อาจได้มายิ่งรักมากมายขึ้น twitter.com/misperaki/stat…
335
ไหนๆ ก็พูดถึง Врубель ข้อยชอบ Утро (1897) อูตรา 'ยามเช้า' มากเลย วรูบิลขอบวาดภาพจากนิทานรัสเซีย Царевна-Лебедь (1900) เจ้าหญิงหงส์ขาวกับ Снегурочка (1895) ธิดาหิมะอะไรแบบนี้ ถ้ามีโอกาสอยากลองเขียนถึงนิทานรัสเซียบ้างจัง twitter.com/misperaki/stat…
336
ตอนนั้นก็เลยเกิดนึกถึงภาพสุดท้ายของจิตรกรอื่นๆ ขึ้นมา พอไปอ่านดูบรรดา 'ภาพสุดท้าย' แต่ละภาพก็มีเรื่องราวของมันเองอยู่เหมือนกัน น่าสนใจแบบขมๆ บรรดา sel de la terre ทั้งหลาย ทั้งคนที่วาดภาพโดยที่รู้ว่าภาพนี้จะเป็นภาพสุดท้าย คนที่พยายามจนสุดชีวิตและตายไปโดยที่ไม่ได้รับความรัก
337
การเล่นคำสุดเท่เช่น κοσμοπλόκος ชื่อรองของอพอลโล อ่านแล้วได้ภาพ 'ประดับด้วยมงกุฏ' ก็ได้ หรือ 'ผู้ประสานจักรวาล(ให้เป็นวงเดียว)' ก็ได้ <<เป็นคำที่เจอครั้งแรกรู้สึกว่าสวยมาก แต่แปลไม่ได้ 555555 ว่าจะใช้ในนิยายอิงปวศ กรีกโบราณของข้อย (อยากเขียนมาตั้งแต่สมัยเรียนเพิ่งได้สามหน้า 5555)
338
แต่แล้วเดการ์ตก็นึกขึ้นได้ว่า 'มีอะไรสักอย่างกำลังตั้งคำถามอยู่' ถ้ามีปิศาจหลอกให้เราคิดผิดก็ต้องมีอะไรบางอย่างที่ 'ถูกหลอก' เดการ์ตตั้งสิ่งนั้นให้เป็น ego = ตัวเรา เป็น res cogitans 'สิ่งซึ่งกำลังคิด' การคิดคือหลักฐานว่าเรามีอยู่ ถ้าหยุดคิด ก็จะหยุดมีตัวตน
339
@pppdpt ตอบกลางๆ นะคะ ประเด็น incest คือ ตัวละครมันน้อยอะเนอะ ถ้าจะสร้างเทพทั้งจักรวาลจากปฐมเทพไม่กี่องค์ ก็ต้องวนๆ จับคู่กันอยู่ในครอบครัวเดียวนั่นแหละ แต่จากงานเขียนช่วงศ. 5 BC ในสังคมกรีก incest จริงๆ ถือเป็นบาปเลวร้ายมาก (ανόσιος) นึกถึงอิดิปัสที่ควักตา+เนรเทศตัวเองเพราะมีลูกกับแม่
340
สุ่มภาพเขียนที่ข้อยชอบวันนี้: นี่คือ Das Stade der Vergessenheit ของ Eugen Bracht ล่ะ ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่ากรวดบนผืนทรายจริงๆ แล้วเป็นหัวกระโหลกมนุษย์ ได้ยินว่าบรัคท์จินตนาการแผ่นดินรกร้างบนโลกที่ไม่มีมนุษย์หลงเหลืออยู่อีกแล้ว ชอบแถบแสงอาทิตย์ที่ขอบหินกับเงามืดในฉากหลังมากเลย
341
จะว่าไป เรื่องที่ก็ไม่รู้จะรู้ไปทำไมวันนี้: โอเมกา Ω คือแปลตรงตัวว่าโอใหญ่ ส่วนโอมิครอน Ο (เจ้าสายพันธุ์โควิดน่ะ) คือโอเล็ก (แบบว่า μῑκρός มีครอส กรีกโบราณมันแปลว่าเล็กใช่มะ แบบไมโคร- ส่วน μέγᾰς เมกาส แปลว่ายิ่งใหญ่ แบบเมกะ-) twitter.com/misperaki/stat…
342
ประโยคนี้มาจาก René Descartes — เรื่องมันเริ่มจากเดการ์ตพบว่าบางสิ่งที่ตัวเองเชื่อมาโดยตลอดจริงๆ แล้วเป็นเรื่องโกหก เธอเลยนั่งลงตั้งคำถามกับทุกสิ่งทุกอย่าง ว่ามีอะไรที่เป็นความจริงอันตั้งคำถามไม่ได้บ้าง (เหมือนมงแตญถามว่า que sais-je ?) แล้วก็พบว่า…ไม่มี
343
จะว่าไปนี่ก็เป็นยุคเปลี่ยนผ่านความเชื่อเหมือนกัน ยุคสมัยที่บรรดาโอลิมเปียนกำลังจางหายไปและศาสนาคริสต์ยังไม่มั่นคง คนก็ต้องไขว่คว้าหาอะไรที่ตัวเองจะเชื่อได้ บางทีสำหรับเฮเดรียน 'ความจริงนิรันดร์' อย่างเดียวคือคนรักที่เดินลงไปในแม่น้ำไนล์และไม่กลับมาอีกเลย twitter.com/misperaki/stat…
344
มีใครเคยอ่านตาทริสแล้วอยากดูโอเปราเต็มๆ มั้ยคะ? วันนี้เป็นวันของคุณค่ะ! เย็นนี้จะมีถ่ายทอดสดทริสตันจากมิวนิคล่ะ! ฟรีแล้วก็ดูได้จากทั่วโลกเลย! ที่ไทยน่าจะเริ่มฉายตอน 4 ทุ่ม ใครไปดูแล้วมาคุยกันนะ 💕 (กระซิบว่าข้อยไปดูรอบเพรเมียร์มาคือเจียนตาย 5555) staatsoper.tv twitter.com/misperaki/stat…
345
หนึ่งใน 'ต้นฉบับ' ของเฟาสท์เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุสมัย ศ 16 ที่อยากเปลี่ยนโลหะให้เป็นทองคำล่ะ ในปี 1540 เฟาสท์ทำการทดลองผิดพลาดจนตายอนาถ (?) หน้าเป็นสีดำ คอหมุนกลับมาข้างหลัง (เป็นวิธีตายแบบพวกพ่อมดแม่มดสมัยนั้น) คนที่เจอศพพยายามจะหมุนคอคืนที่ แต่ทุกครั้งหัวก็หมุนกลับหลังอีก twitter.com/misperaki/stat…
346
อนึ่ง คำด่าภาษาละตินวันนี้: เห็นชื่อแสนน่ารักแบบนี้ จริงๆ คำว่า ฟูร์ฟูร์ภาษาละตินแปลว่า รำ/เปลือกข้าว ล่ะ แต่เค้าบอกว่าชื่อฟูร์ฟูร์น่าจะมาจาก furcifer ฟูร์คิแฟร์ (รากเดียวกับลูซิเฟอร์) ภาษาละตินเป็นคำด่า แปลแบบอ่อนโยนได้ว่า ไอ้เวร 55555555
347
อยากเล่า ชอบเห็นมีมภาษาละตินว่าเรียนเอาไปอัญเชิญเทพเจ้าอย่างเดียว จริงๆ ภาษาละตินเป็นภาษาธรรมดามาก คนส่วนมากที่พูดได้ก็เรียนตั้งแต่เด็ก ในอะคาเดเมียตั้งแต่ยืมปากกายันเมลทวงงานก็พูดเป็นภาษาละติน (อนึ่ง คำว่า ใช่ = ita, ไม่ = minime — ส่วนคำว่าอีเมลคือ epistula electronica)
348
อนึ่ง เป็น memento mori น่ะนะ เครื่องเตือนใจว่าต่อให้ยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ต้องตาย (แบบสมัยโรมันมีคนกระซิบบอกจักรพรรดิว่า hominem te memento 'จงจำไว้ว่าท่านก็เป็นมนุษย์') อ่านจากป้าย แบร์นินีแกะสลักหัวกระโหลกให้พระสันตะปาปา Alessandro VII ช่วงปี 1655 และปี 1656 ก็เกิดโรคระบาดในโรม
349
เฉลย: ผลการทดลองครั้งนั้น (กับอเมริกันช่วงสงครามเวียดนาม) มี 26 คน (=65%) ค่ะ นอกจากนั้นทุกคนยังกดไปถึงอย่างต่ำ 300 โวลต์ อย่าลืมว่านี่เป็นสถานการณ์สมมติที่ค่อนข้างปลอดภัย ต่อให้ขัดคำสั่งก็ไม่ได้มีผลร้ายแรงอะไรตามมา แต่คนก็ยังเลือกทำตามคำสั่งของ authority figure อย่างไม่มีเหตุผล
350
พอมาคิดอีกทีก็เศร้าเหมือนกันนะ การไปนั่งอยู่ที่อนุสรณ์ทุกวันเพื่อดูคนผ่านไปผ่านมาอ่านชื่อคนที่รักสุดหัวใจ แต่ไม่มีวันจะได้เจอแล้ว เหมือนที่จะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว มีคนคอยถึงอีฟเป็นเพื่อน 555555 เหมือนอยากได้คำยืนยันว่าคนๆ นั้นมีตัวตนในชีวิตของคนตั้งมากมาย ไม่ใช่แค่เรา