Misper(@misperaki)さんの人気ツイート(古い順)

226
จริงๆ ชื่อของพันดอราก็เป็น paradox เหมือนกัน จะอ่านว่า 'ของขวัญทั้งมวล' หรือ 'ผู้ให้ทุกสิ่งทุกอย่าง' ก็ได้ ที่หนักกว่านั้นคือเฮซิออดเรียกพันดอราว่า καλον κακον คาลอนคาคอน 'ความชั่วร้ายที่งดงาม' หรือ 'ความชั่วร้ายที่แสนดี' ก็ได้ (คาลอนกับคาคอนเป็นคำตรงข้าม ดี/งาม กับ ชั่วร้าย)
227
กลอสเพิ่มนิด สมมติเราอยากปิคนิควันพรุ่งนี้ หวังว่าอากาศจะสดใสมีแดด ดูพยากรณ์อากาศมีโอกาสฝนตก 40% เราก็จะมีหวัง 60% ที่เหลือเป็นค.กลัว ถ้าหวัง 100% ก็ไม่ใช่หวังแต่คือเชื่อมั่น ถ้ากลัว 100% ก็คือยอมแพ้ (เค้าว่างั้นนะ) เลยมีคนตั้งคำถาม 3 virtues ว่าเราจะหวังและศรัทธาพร้อมกันได้ไหม
228
ว่าด้วยการฆาตกรรมครั้งแรกในงานศิลปะ: ทุกคนคงเคยได้ยินเรื่องของเคนกับเอเบลเนอะ อาจจะเคยเห็นภาพเขียนของทิเชียนหรือรูปปั้นความตายของอาแบล เคยสงสัยมั้ยคะว่าความตายครั้งแรกเกิดขึ้นในโลกได้ยังไง ทำไมเคนถึงฆ่าเอเบล มามะจะเล่าให้ฟัง (เป็นภาคต่อ (?) ของเรื่องคุณซาตานจ้ะ) /0 twitter.com/misperaki/stat…
229
และแน่นอนประโยคอมตะ! ลูซิเฟอร์: ข้าสงสารเจ้าที่รักสิ่งจะต้องตาย เคน: และข้าสงสารท่านที่ไม่รักอะไรเลย (เป็นไงล่ะ Byronic hero ตัวจริงเสียงจริง 555555555 จิตวิญญาณของยุคโรแมนติก!) /14
230
ช่วงนี้ไปเดินเล่นในทุ่งแล้วเจอนาฬิกาแสนบอบบางของเหล่าภูติ ที่อังกฤษเรียกเจ้านี่ว่า dandelion clock ล่ะ ว่ากันว่าพอดอกแดนดิไลออนเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีขาว เราจะบอกเวลาได้จากการเป่าเจ้าปุยขาวๆ ออกไป ต้องเป่ากี่ทีก็เท่านั้นโมง ช่างเป็นการบอกเวลาที่หาความแม่นยำไม่ได้ 5555555555
231
มีตำนานว่าถ้าเป่าเจ้าปุยขาวๆ ปลิวได้หมดในครั้งเดียวแสดงว่ามีคนแอบรักคุณอยู่ล่ะ! (แต่ถ้าเป่าไม่หมดก็ไม่เป็นไร เพราะแต่ละปุยจะหอบความฝันและความคิดถึงไปให้คนที่เราชอบ) เค้าบอกว่า dandelion มาจาก dent de lyon ('ฟันสิงโต') ใช้ครั้งแรกๆ ในบทนำของอีเนียดฉบับแปลปี 1513 ของ Gawin Douglas
232
พูดถึง ปีที่แล้ว Writers Edition ของ Montblanc เป็นอูโกล่ะ ข้อยได้มาแท่งนึง ปากกาสลักเป็นลายจากสถาปัตยกรรม/หน้าต่างกุหลาบของวิหารนอเทรอะดาม 'symphonie en pierre' ซิมโฟนีที่สร้างจากหิน คลิปเป็นที่ตีระฆังของกาสิโมโด แต่ถ้าสังเกตดีๆ ใบหน้าที่มองออกมาเป็นฌองวัลฌองจาก Les Misérables
233
คนเศร้าทอดถอนใจบอกว่า ข้าคือความรักผู้ไม่กล้าเอ่ยนามของตน ที่มอดลินมีบันทึกการพิจารณาคดีของไวลด์ แม้แต่ตอนที่ถูกถามว่ายังติดต่อกับโบซีอยู่อีกรึ ไวลด์ก็ยังตอบว่า 'แน่นอน ข้อกล่าวหาพวกนี้สร้างบนทราย มิตรภาพของเราสร้างบนหิน' ในสถานการณ์แบบนั้นยังคมขนาดนั้นเลย 💔
234
วันนี้ปี 1895 ไวลด์ถูกตัดสินจำคุกเพราะ the love that dare not speak its name 'รักที่ไม่กล้าเอ่ยนาม' วรรคนี้มาจาก The Two Loves ของโบซีล่ะ ในฝันมีคนสองคน คนหนึ่งร่าเริง อีกคนโศกเศร้า คนเศร้าบอกว่า 'นามของข้าคือความรัก' อีกคนบอกเจ้าโกหก ข้าต่างหากคือความรัก เจ้าคือความอับอาย
235
พูดถึงสำนวนที่เกี่ยวกับดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิกับความตาย อังกฤษก็มีคำว่า pushing up (the) daisies ที่แปลว่าตาย (และฝัง) เหมือนกัน แล้วช่วงฤดูใบไม้ผลิมองไปทางไหนก็เห็นเจ้าสองดอกนี้บานไปทั่ว ภาพพจน์ว่าดอกไม้บานเพราะมีคนตายดันขึ้นมาจากใต้ดินเนี่ยจะว่าน่ารักหรือน่ากลัวดีนะ twitter.com/misperaki/stat…
236
อีกอันคือ подснежник สโนว์ดร็อปภาษารัสเซีย แปลตรงตัวว่า 'สิ่งเล็กๆ ใต้หิมะ' ฟังดูแสนน่ารักแต่ใช้เป็นแสลงหมายถึงศพที่จมอยู่ในหิมะตอนหน้าหนาว แล้วโผล่ขึ้นมาในฤดูใบไม้ผลิตอนที่หิมะละลาย (…)
237
ทุกคนรู้ใช่มะว่าจริงๆ แล้วแดนดิไลออนเป็นดอกไม้สีเหลือง สีขาวๆ ปุยๆ เนี่ยไม่ใช่กลีบดอกแต่เป็นพัพพุส ตอนเป็นสีขาวเลยไม่เรียกดอกแดนดิไลออน แต่เรียกนาฬิกาแดนดีไลออนแทน twitter.com/misperaki/stat…
238
« Si Chanel a donné, comme on dit, la liberté aux femmes, tu leur as donné le pouvoir. » "ถ้าชาแนลได้ให้อิสระแก่ผู้หญิง นายก็ได้มอบพลังให้กับพวกเธอ" วันก่อนครบรอบวันเสียชีวิตของอีฟแซงต์โลรองต์ (YSL) เลยอยากเขียนถึงผลงานกับความรักของอีฟกับสามีค่ะ #PrideMonth2021 /0
239
ใน l'amour fou (สารคดีเกี่ยวกับ YSL) มีคนไปสัมภาษณ์อีฟถามว่ากวีคนโปรดคือใคร แล้วอีฟตอบยิ้มๆ ว่าคือปิแยร์ แบร์เฌ่ (สามีของอีฟ) มาก่อนพรุสต์ ตอลสตอย ริลเคอ ฯลฯ นี่ถึงกับต้องไปสรรหามาว่าแบร์เฌ่เขียนอะไรถึงอีฟ Lettres à Yves เป็นจดหมายที่แบร์เฌ่เขียนให้อีฟ หลังจากที่อีฟตายไปแล้ว /1
240
ในจดหมายเขียนถึงช่วงเวลา 50 กว่าปีที่อีฟกับแบร์เฌอยู่ด้วยกัน การพบกันครั้งแรก การก่อตั้งแบรนด์ YSL วงการแฟชั่น งานศิลปะ โอเปร่า homosexuality ในฝรศยุคนั้น อีฟที่แสนเป็นศิลปิน อัจฉริยะแต่ก็อ่อนไหว เปราะบาง กับแบร์เฌ่ที่แสนหนักแน่นมั่นคง เป็นภูเขาที่ยืนหยัดปกป้องอีฟจากทุกอย่าง /2
241
โชว์ของอีฟที่ดิออร์ประสบความสำเร็จมาก แต่ช่วงนั้นอัลเฌรีมีสงครามประกาศอิสรภาพ อีฟก็เลยถูกเกณฑ์ไปรบ อีฟไปติดที่โรงพยาบาลทหารพร้อมกับโรคซึมเศร้า แล้วก็ถูกปลดออกจากดิออร์ ตอนแบร์เฌไปเฝ้าอีฟที่ รพ อีฟเลยถามว่าเรามาสร้างแบรนด์กันเถอะ คุณจะดูแลทุกอย่างใช่ไหม /4
242
มีคนเขียนว่า Yves crée, Pierre construit (Yves creates, Pierre builds) อีฟสร้างสรรค์ แบร์เฌ่ 'ก่อสร้าง' มอบโครงสร้างที่มั่นคงให้ อีฟเริ่มทำงานกับดิออร์ตั้งแต่ยังหนุ่ม ปี 1957 ดิออร์หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน อีฟถูกเลือกให้เป็นคนรับช่วง 'วิหารของดิออร์' มา ตอนนั้นอีฟอายุแค่ 21 ปี /3
243
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ YSL ที่เรารู้จักวันนี้ค่ะ! ผลงานที่โดดเด่นที่สุดของอีฟคือ le smoking เป็นทักซีโดสำหรับคุณสุภาพสตรี ที่ชื่อสโมคกิงเพราะสมัยนั้นหลังดินเนอร์ผู้หญิงจะแยกไปอีกห้อง ระหว่างที่พวกสุภาพบุรุษจะสูบบุหรี่แล้วก็คุยเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ ฯลฯ /5
244
เค้าว่า Le smoking เป็นการสนับสนุนโดยนัยให้ผู้หญิงได้แสดงความคิดเห็นทางการเมือง ไม่ใช่ให้ผู้หญิงแต่งตัวแบบผู้ชาย แต่ปรับทักซีโดให้เหมาะกับผู้หญิง (เป็นยุค second-wave feminism) อีกคอลเลคชั่นที่ทุกคนน่าจะรู้จักของ Ysl คือมงเดรียน /6
245
อีฟเคยบอกว่า les modes passent, le style est éternel (ประมาณว่าแฟชั่นไม่ยั่งยืน แต่สไตล์เป็นนิรันดร์) งานของอีฟก็จะ reinterpret งานเช่นเลอสโมคกิงมาเรื่อยๆ ปี 2002 อีฟเปิดโชว์ครั้งสุดท้ายที่คัดเลือกงานจากทุกคอลเลคชันที่ทำมาตลอดชีวิต ใครสนใจน่าจะยังหาวีดีโอเต็มๆ ได้นะคะ /7
246
ปี 2008 อีฟถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งในสมอง หมอบอกแบร์เฌ่ว่าอีฟจะอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่อาทิตย์ แบร์เฌ่ไม่ได้บอกอีฟ แต่ขออีฟแต่งงาน ทั้งสองคนจดทะเบียน PACS (เหมือนคู่ชีวิต (?) civil partnership ของฝรศ) หลังจากคบกันมา 50 ปี หลังจากนั้นไม่กี่วันอีฟก็เสียชีวิต /8
247
จริงๆ ในช่วงเวลา 50 ปีมันก็มีขึ้นมีลงน่ะนะ ช่วงที่ทะเลาะกัน ยาเสพย์ติด โรคซึมเศร้า ฯลฯ แต่ก็ยังอยู่เคียงข้างกันมาตลอด 50 ปี แบร์เฌ่บอกว่านี่ละมั้ง l'amour fou (จะแปลเป็นไทยว่า 'คลั่งรัก' ได้มั้ยนะ 555555) แต่จดหมายแบร์เฌ่ทุกฉบับนี่เต็มไปด้วยความคลั่งรักจริงๆ /9
248
ป.ล. PACS ในฝรศ เพิ่งผ่านปี 1999 ป.ล.2 แบร์เฌเคยเป็น président ของโอเปร่าปารีสอยู่ช่วงนึง ข้อยเลยชินเรียกแบร์เฌ จริงๆ ควรจะเรียกอีฟว่าแซงต์โลรองต์ด้วยแต่ที่ไม่พอ
249
เราว่าแบร์เฌ่อุทิศทั้งชีวิตตัวเองให้เป็นเกราะของอีฟ ปกป้องอีฟ ดูแลอีฟ ถ้าไม่มีปิแยร์แบร์เฌ่ก็ไม่มีอีฟแซงโลรองต์ แต่สิ่งสุดท้ายที่แบร์เฌ่เขียนถึงอีฟคือ 'อีฟ ผมติดค้างคุณมากเหลือเกิน' /10
250
ป.ล.3 บนปกหนังสือคนที่ถือช่อดอกไม้คืออีฟ ส่วนคนที่ยืนข้างหลังคือแบร์เฌ่ค่ะ ส่วนอันนี้เป็นภาพสมัยหนุ่มๆ จากเว็บพิพิธภัณฑ์ Musée YSL ค่ะ museeyslparis.com