มีสองทฤษฎีแยกกันค่ะ บ้างก็บอกว่าเจ้ากระต่ายน้ำตาลคืออะงุนิ บ้างก็บอกคือนิรากิ จุดเชื่อมระหว่างอะงุนิกับตัวละครนี้คือ เป็นเพื่อนกับแฮทเตอร์มายาวนาน ตั้งกฎแปลกๆขึ้นมาเพื่อปกครอง (ในที่นี้คือกฎแปลกๆของปาร์ตี้น้ำชา) ส่วนของนิรากิคือหลุดโลก เสียงดัง และไม่กลัวเชสเชียร์ (12)
หรืออย่างเช่นในภาพ Madonna of the Pink นี้ วาดโดย Raphael จะเห็นเป็นพระเยซูในวัยทารกกำลังมอบดอกไม้สีชมพูให้กับพระแม่มารี ซึ่งสีชมพูเป็นสัญลักษณ์ของการแต่งงาน และมันถูกใช้สื่อถึงการแต่งงานทางจิตวิญญาณระหว่างแม่และลูกนั่นเอง (2)
อัพเดท: Inside Out 2 ยังคงเป็นเรื่องราวของน้องไรลีย์แหละ! แต่ว่าเห็นว่าจะมีอารมณ์ใหม่เข้ามา พร้อมไปกับการเติบโตของน้อง
ในยุคกลาง การสั่งวาดภาพส่วนตัวค่อนข้างหายากค่ะ ส่วนมากจะเป็นโบสถ์ที่สั่ง ทำให้ภาพวาดสมัยนั้นวนๆเวียนๆอยู่กับเด็กจากพระคัมภีร์ ซึ่งก็รวมถึงพระเยซูวัยเด็กด้วย เพราะงั้นถ้ามีรูปวาดเด็กคนอื่นๆ เด็กก็ได้รับอิทธิพลมาจากการวาดเด็กเบบี๋แบบพระเยซูนี่แหละ (2)
ราทาทุยปกติจะนำผักฤดูร้อนไปทำเป็นสตู หรือต้มโดยใช้ไฟอ่อน อย่าง ซุคคินี มะเขือยาวสีม่วง พริกหยวกแดง/เหลือง มะเขือเทศ และหัวหอม บางทีก็มีเพิ่มผักชนิดอื่น โดยเมนูนี้มาจากแถว Provence ซึ่งอยู่บริเวณตะวันออกเฉียบใต้ของฝรั่งเศส (1)
คัมภีร์ไบเบิ้ลมีการยึดโยงคุณธรรมจริยธรรมเข้ากับด้านซ้ายและขวา เช่น พระเยซูจะนั่งอยู่ที่มือขวาของพระเจ้า ในขณะที่ทูตสวรรค์กาเบรียลจะนั่งทางซ้าย ใน Book of Matthew มีจุดที่พระเยซูที่ถูกอุปมาเป็นคนเลี้ยงแกะ กล่าวไว้ว่าคนที่อยู่ด้านขวาของตนเท่านั้นจะได้ไปสวรรค์ (5)
หลังจากนั้นไม่นานดอดจ์สันก็ติดต่อกับครอบครัวของอลิสอีกเหมือนเคย แต่ไม่ได้ใช้เวลากับอลิสอย่างที่เคย และในปี 1864 ดอดจ์สันมอบหนังสือ Alice’s Adventures Under Ground ให้เธอ และปีถัดมา เขาเขียนเกี่ยวกับอลิสว่าเธอได้เปลี่ยนไปแล้ว (8)
สรุปเราได้เป็นตัวแทนไปพูดสปีชใหญ่แหละค่ะ 🥹 ขอบคุณทุกกำลังใจมากๆๆเลยนะคะ พูดจริงอาทิตย์หน้าแล้ว จะทำให้ดีที่สุดเลย หวังว่าสปีชเรื่องสมรสเท่าเทียมและ Lgbtq ของเราจะช่วยให้คนเข้าใจประเด็นนี้ได้มากขึ้นไม่มากก็น้อย! twitter.com/arielqueenss/s…
ตามเรื่องเล่า ทางตต.เฉียงใต้ของเมกาว่ากันว่าเต็มไปด้วยสมบัติที่หายไป ซึ่งมันคือของที่ถูกขโมย และมีกับดักที่ถึงชีวิตติดตั้งไว้ป้องกันไม่ให้ใครเอามันไปได้ แต่ก็เป็นเพียงเรื่องเล่า กับดักที่ว่าอาจหมายถึงการเอาสมบัติไปซ่อนไว้ในที่ที่ไม่มีคนไปถึง เช่น หุบเขาลึกทิ้งร้างหรือหน้าผา (10)
เมื่อสัตว์ทะเลถ่ายในทะเล น้องๆก็จะถ่ายกันตรงนั้นเดี๋ยวนั้น และเชื้อจุลินทรีย์รวมถึงสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กชนิดที่ตาเปล่ามองไม่เห็น (microorganisms) จะกินมันเข้าไปแทบจะในทันที ด้วยเหตุนี้เอง ห้องน้ำใต้ทะเลจึงไม่มีความจำเป็นค่ะ! (2)
เมื่อวานประทับใจพนักงานดิสนีย์ซีโซนทอยสตอรี่มากๆ นี่ไปเล่นเครื่องเล่นที่เป็นเกมยิงเป้า แล้วคะแนนออกมาว่าได้รางวัลเป็นกระรอก (แบบในภาพ) เลยอยากรู้ว่าคนได้คะแนนเยอะที่หนึ่งได้ตัวอะไร ก็ถามพนง.ตอนกำลังเดินออก ชีไม่รู้ แต่ชีหาคำตอบให้แบบสุดฝีมือมาก ถึงขั้นวอร์ไปถามคนอื่น เดินถามทั่ว
ปล. เท็ดดี้นั้นแม้จะไม่สนับสนุนเรื่องการมีทาสในครอบครอง แต่ในเรื่องความเท่าเทียมกันของชาติพันธุ์เขาก็ไม่เห็นด้วย เพราะยังมีแนวคิดที่ว่าประชากรคนดำในอเมริกาถือเป็นปัญหาอย่างนึง
ความจริงคือ ชั้นชอบวาเล็คมากๆๆๆ (แม่ชีจากคอนเจอริ่ง2) ถึงขั้นเคยตั้งเป็นหน้าจอมือถือ (แน่นอนว่าช่วงนั้นไม่มีใครกล้าเล่นมือถือชั้นเลย) ตามอ่านประวัติจนเจอวิธีซัมม่อนด้วย นางไม่ธรรมดานะเออ ไม่ใช่ใครก็เรียกได้ แต่นี่ก็ไม่ได้หาทำนะ55555 ไว้มาเล่าๆๆๆ
ในช่วง 1970s มีกฎหมายในหลายประเทศจำกัดการใช้มือซ้ายของประชาชน และโรงเรียนจะต้องสอนการเขียนด้วยมือขวาเท่านั้น ซึ่งในประเทศอัลบาเนียจะหนักสุด เพราะการใช้มือซ้ายถือว่าผิดกฎหมายเลย (9)
การแต่งตัวของสาวๆก็เปลี่ยนไปตามช่วงเวลาของวันเหมือนกับยุคก่อนๆ เราจะมาเล่าถึงทีละช่วงเลยนะคะ แฟชั่นช่วงเช้า 🌤 สาวๆเฟิร์สคลาสหลายคนทานอาหารเช้าในห้องส่วนตัว เพราะงั้นชุดที่ใส่จึงจะเป็นชุดสำหรับเดินทางค่ะ จะใส่ง่าย สบาย เหมาะกับอากาศหนาว (เพราะเรือมุ่งหน้าผ่านแอตแลนติก) (3)
เป็นคนมีเสน่ห์มาก แต่ถ้าเราเป็นแดฟนี อาจจะไม่เลือกคนนี้เป็นคู่ของตัวเองล่ะ 🤣 (ไม่นับเรื่องฐานะ duke of hastings น่ะนะ) เราเข้าใจและเรสเปค trauma ในวัยเด็กของเขานะ แต่สิ่งนึงในความสัมพันธ์ที่เราเชื่อว่าควรมีคือการพูดคุยกัน คิดว่าท่านดยุคน่าจะคิดคนละแบบกับเรา แต่ก็แล้วแต่คนแหละ twitter.com/purepure_pp30/…
ไม่ใช่กฎจริงจัง แต่เป็นธรรมเนียมที่ทำสืบต่อกันมานานตั้งแต่ยุควิคตอเรียน นั่นคือช่อดอกไม้งานแต่งต้องมีพืช myrtle อยู่ด้วยเสมอ เพราะพืชชนิดนี้เป็นของขวัญจากเยอรมนีที่ย่าของเจ้าชายอัลเบิร์ตมอบให้ควีนวิคตอเรีย และควีนก็ใช้ในวันแต่งงานด้วย (8)
และมีหัวมังกรบนตู้ใส่ชุดเกราะ ตอนที่ตามังกรลุกวาวและบรรพบุรุษถูกปลุกให้ตื่น ไม่ใช่เพราะมังกรจะเตือน แต่เพราะมันคือวิญญาณผู้ปกป้องตระกูลของมู่หลานต่างหากที่ตื่นขึ้นมาแล้ว ที่มูชูปลุกมังกรหินไม่ได้เพราะในนั้นไม่มีมังกร แต่มู่หลานนั่นแหละคือมังกรที่จะปกป้องวงศ์ตระกูล (3)
ที่เกียวโตใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีแล้ว วิวจากรถไฟสวยมากกกก
ที่โรงอาบน้ำ Titus ในโรมถึงกับมีข้อความเขียนไว้เลยว่า ‘ถ้าใครอึหรือฉี่ที่นี่ เทพเจ้าทั้งสิบสองรวมไปถึงซุสผู้ยิ่งใหญ่จะพิโรธ’ 55555555 เคลมถึงเทพกันเลยทีเดียว ห้ามอึนะไม่งั้นเทพโกรธ (2)
เป็นหนึ่งในอนิเมชั่นที่ดูซ้ำบ่อยๆไม่ได้จริงๆ ร้องไห้หนักมาก ยิ่งมาดูตอนโตยิ่งเข้าใจอะไรมากขึ้นยิ่งเศร้าและประทับใจ คุณปู่ของหนุ ㅜㅡㅜ
แถมคู่รักจะต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองก่อนถ้าอายุไม่ถึง เพราะงั้นสำหรับคู่ไหนที่รีบมากๆๆๆ หรืออายุไม่ถึงและที่บ้านไม่อนุญาต สก็อตแลนด์จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพราะใกล้สุด และไม่มีกฎหมายนี้เหมือนที่อังกฤษด้วย (10)
หลังจาก 6 โมงเย็น หญิงที่ใส่หมวกจะต้องเปลี่ยนไปใส่มงกุฎแทนเสมอเวลาออกงานสาธารณะ ซึ่งประเพณีนี้ก็มีที่มาตั้งแต่สมัยก่อน โดยสำหรับผู้หญิงจะเป็นการโชว์สถานะของเธอ ชี้ว่าเธอแต่งงานแล้วและไม่ได้มองหาสามี (4)
มีความเชื่อที่ว่าโลกคนเป็นกับโลกคนตายคือโลกเดียวกัน แค่ถูกคั่นไว้ด้วยผ้าบางๆ ซึ่งก็มีความเชื่อว่าผ้าบางๆนี้จะบางที่สุดในช่วงตีสาม และเพราะแบบนี้ วิญญาณคนตายจึงสามารถมายังโลกคนเป็นได้ ทำให้ในเวลาตีสามจึงมักมีคนสะดุ้งตื่นเพราะรู้สึกเหมือนโดนจ้องหรืออยู่ใกล้ (5)
• หนึ่งในตำนานเงือกของญี่ปุ่นจากทางคิวชูคือ “นูเระอนนะ” (หญิงเปียก) ที่มีผมและหน้าเป็นผู้หญิง แต่ตาและฟันเป็นงู เธอจะอยู่ตามชายฝั่ง คอยหลอกล่อมนุษย์ให้คิดว่าเธอเป็นแม่อุ้มเด็กทารกที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ และจะหลอกล่อให้มนุษย์อุ้มลูกของเธอ ซึ่งถ้าใครคนไหนรับลูกมาอุ้มล่ะก็ (3)