มาเริ่มจากอะไรคือ ‘แวมไพร์’ กันก่อน พวกเขาคือสิ่ง (ไม่) มีชีวิตในตำนานที่ดูดเลือดคนในครอบครัว ออกหากินยามกลางคืน (เพราะไม่มีพลังเวลากลางวัน) และจะดูดเลือดโดยใช้เขี้ยว โดยเหยื่อที่ถูกดูดเลือดก็จะตายและกลายเป็นแวมไพร์ (1)
ส่วนทอม เอ็ดวาร์ดได้มอบตำแหน่ง ‘คนของพระราชา’ ซึ่งตำแหน่งนี้สำคัญและพิเศษมาก ทอมมีตำแหน่งนี้ติดตัวไปตลอดชีวิต ในตอนจบ เอ็ดวาร์ดเสียชีวิตไปก่อนในวัยรุ่น แต่ภายใต้การปกครองของเขา ถือเป็นยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความเมตตา ส่วนทอมอายุยืนจนแก่เฒ่า (10)
เป็น Afternoon tea ที่เก๋มากกกก 🫖🤍 มาในธีมชิงช้าสวรรค์ แต่ตัวตรงกลางเป็นหน้าปัดเข็มนาฬิกาเหมือนบิ๊กเบนของอังกฤษเลย ขนมอร่อยมาก จะเน้นของคาวมากกว่าของหวาน แต่สโคนคือเลิศสุด ไม่หวานกำลังดี ชอบที่เห็นวิวเมืองด้วยนี่แหละ 🥺 ที่โรงแรม So/ Bangkok นะคะ
ส่วนตัวชอบมากๆที่ได้เห็นมุมมองของนางในไลฟ์แอคชั่น รู้สึกว่านางกลายเป็นตัวละครที่ relatable และคงเป็นตัวละครตัวแรกๆเลยที่ทำให้เราเข้าใจประโยคที่ว่า บางเรื่องมันไม่ได้ขาวดำเสมอไป และเราจะไม่ตัดสินคนอื่นจากการฟังความข้างเดียวเด็ดขาด มาลิฟิเซนต์ deserve all the love 🤍 twitter.com/ilovemaprince/…
จะเริ่มมื้อเช้ากันตอนสิบโมงเช้าเป็นส่วนใหญ่ แต่บางบ้านก็เริ่มตั้งแต่เก้าโมง มื้อเช้าส่วนมากประกอบด้วยขนมปัง เค้ก เครื่องดื่มร้อนอย่างชา กาแฟ ช็อคโกแลทร้อน ซึ่งก็เป็นมื้อที่ยาวนาน บางทีสาวๆก็้เป็นคนทำขนมปังปิ้งเองด้วยการนำไปปิ้งกับไฟ (2)
ควีนชาร์ล็อตต์ที่เราเห็นในเรื่องเป็นนักแสดงคนดำ ซึ่งจริงๆแล้วก็มีนักประวัติศาสตร์ถกเถียงกันอยู่เรื่องต้นตระกูลของพระนางค่ะ โดยเชื่อว่าเป็น biracial (คนผิวขาวและผิวดำ) เพราะบรรพบุรุษของนางมีชาวแอฟริกันผิวดำอยู่จากราชวงศ์โปรตุเกสในช่วงศ.ที่ 13 (1)
กลุ่มลูกค้าของจูเลียคือบรรดาภรรยาที่ไม่มีความสุขทั้งหลาย เพราะในยุคนั้นส่วนมากสาวๆจะถูกคลุมถุงชน พวกเธอปฏิเสธไม่ได้ แถมหลังจากแต่งงาน ฝ่ายชายก็มีอำนาจควบคุมชีวิตของพวกเธออีก หลายคนที่ถูกใช้ความรุนแรงด้วย ทำให้หญิงหลายคนสบายใจที่จะเป็นโสดมากกว่าด้วยซ้ำ และนั่นคืองานของจูเลีย (5)
ฟันแฟคคือ ชื่อ Merida ของเธอแปลว่า ‘เกียรติยศ’ ในภาษา Gaelic (กลุ่มนึงของภาษาเซลต์) ซึ่งก็อยู่แถบสก๊อตแลนด์ซึ่งเป็นเซตติ้งของหนังด้วย บางคนคิดว่า Merida มาจากชื่อ Meredith แต่ไม่ใช่ล่ะ เพราะ Meredith จะเป็นได้แต่ชื่อผู้ชายเท่านั้นจนกระทั่งศ.ที่20 เซตติ้งของหนังเก่ากว่านั้นเยอะ twitter.com/mleanllisme_/s…
การย้อมผมอยู่คู่กับมนุษย์มาตั้งแต่โบราณ เชื่อว่าชาติแรกที่ทำคืออียิปต์ โดยการย้อมผมปกปิดร่องรอยผมหงอก ส่วนชาวกรีกโรมันก็เริ่มย้อมผมโดยใช้พืช รวมทั้งพบวิธีย้อมผมให้เป็นสีดำถาวรด้วย แต่มันท็อกซิกค่ะ ส่วนชาวเฟอนิเซียนมีการใช้ผงทองโรยบนผมทำให้ผมมีประกายสีทอง (2)
ห้องบัลลังก์ (Throne Room) ที่เป็นหนึ่งในท้องพระโรงที่มีบัลลังก์ไว้สำหรับพิธีราชาภิเษก ซึ่งว่ากันว่าควีนได้นั่งบนนั้นเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นควีนจะนั่งในบัลลังก์ที่ปราสาทวินซอร์ ส่วนบัลลังก์นี้ก็ไม่มีใครนั่งอีกเลย (6)
เมื่อภูเขาไฟระเบิดและเกิดควันหนาและขี้เถ้า ชาวปอมเปอีก็พยายามเอาชีวิตรอดค่ะ มีการขุดพบซากของคนที่ปรากฎเสื้อคลุมรัดเอวเอามาพันไว้รอบหน้า คือคนเขาก็พยายามรับมือเท่าที่ทำได้ล่ะนะ แต่ไม่พอจริงๆ (5)
พื้นที่สีชมพูคือพื้นที่ที่สามารถพบฟลามิงโก้ได้ตามธรรมชาติ
นอกจากผิวขาว ปากแดง อีกอย่างคือแฮร์ไลน์ต้องสูงๆ (เอาง่ายๆก็คือหัวเถิกๆ) และทรงคิ้วต้องเป๊ะแบบ 100% ซึ่งเป๊ะที่ว่าคือต้องถอนขนคิ้วให้คิ้วโก่งดั่งคันศร บางเฉียบ บางคนถึงกับถอนจนเกลี้ยงเลย จะได้โชว์หน้าผากตัวเองว่าหัวฉันเถิกที่สุดในย่านนี้แล้วนะ (4)
เล่าเรื่องของเธอย่อๆคือ สามีของเธอเสีย เธอจึงตั้งใจจะจบชีวิตตัวเองด้วยการกระโดดน้ำ แต่เธอกลับมีชีวิตรอด และเทพเจ้าก็เปลี่ยนให้เธอกลายเป็นครึ่งคนครึ่งปลา ซึ่งวัฒนธรรมของการไม่กินปลานี้ก็มาจากเธอ และชาวแอสทีเรียหลายคนก็ทำตามมาตั้งแต่โบราณ (2)
ที่มันน่าตื่นเต้นไม่ใช่แค่การแกะผ้าออก แต่คนตื่นเต้นว่าจะได้เห็นอะไรข้างใน อย่างเคสนึงแกะออกมาแล้วพบว่าในหัวศพมีแต่ทราย หรืออีกเคสคือแกะออกมาแล้วศพข้างในผสมรวมกันกับผ้าพันแผลข้างใน จนแยกไม่ออกว่าอันไหนคนอันไหนผ้า คือเหมือนสุ่มกาชานิดๆว่าจะได้เจออะไร คนก็จอยกัน (2)
หลังจากคนตายถูกฝังเรียบร้อยแล้ว นาฬิกาเรือนนั้นสามารถถูกทำให้เดินต่อได้ แต่ถ้าคนที่เสียชีวิตเป็นเจ้าบ้าน นาฬิกาเรือนนั้นจะไม่สามารถนำมาใช้ได้อีกเลย (12)
นี่คือภาพของ Mother Louse เอลไวฟ์ยุคศ.ที่ 17 ค่ะ แต่สำหรับหลายคนเธอคงดูเหมือนแม่มดใช่มั้ย นั่นเพราะลักษณะใส่หมวกแหลม มีหม้อใหญ่สีดำ และแมวดำ ที่มักจะเชื่อมโยงกับแม่มดนั้นพบเห็นได้ทั่วไปกับหญิงขายเบียร์ จึงเป็นไปได้ที่ภาพจำแม่มดของพวกเราจะมาจากพวกเธอ (6)
ทีนี้ ปัญหาของแฟชั่นยุค 2000s (หรือ Y2K ในปัจจุบัน) ในสมัยก่อนคืออะไร? แฟชั่นยุคนั้นออกแบบมาโดยคาดหวังให้สาวๆไม่มีพุง (พุงเรียบแบบกระดาน) ขาไม่เบียด สะโพกและแขนเล็ก แถมหลายทีก็ไม่มีขายในทุกไซส์ ทำให้คนที่มีสิทธิ์ซื้อใส่ได้คือคนที่ตัวเล็ก เข้ากับ beauty standard เท่านั้น (11)
โดยทีแรกสคริปต์ของสปีชนั้นมีการถูกเตรียมเอาไว้ก่อนแล้ว แต่เมื่อเขากำลังจะเริ่มพูด ก็มีคนตะโกนขึ้นมาบอกว่า ‘บอกพวกเขาเกี่ยวกับความฝันสิ’ ตอนนั้นแหละค่ะที่เขาด้นสด ใช้ใจพูดถึงความรู้สึกที่หนักแน่น และมันก็กลายเป็นตัวอย่างของหนึ่งใน public speaking ที่ดีที่สุด (2)
Black Crêpe หรือผ้าแพรย่นสีดำคือสัญลักษณ์การไว้ทุกข์ จะผูกอยู่บนกลอนประตูเพื่อบอกว่าเทวดาแห่งความมืดได้นำสิ่งมีค่าของครอบครัวไป และการเคาะประตูหรือกดกริ่งจะเป็นการรบกวน มีหลายทีที่ประตูบ้านจะถูกเปิดไว้ คนจะได้เข้ามาเงียบๆ ผ้าสีขาวจะใช้ผูกแทนถ้าผู้ตายยังเด็กหรือยังไม่แต่งงาน (10)
กระเป๋าที่ควีนถือมีประโยชน์มากกว่าการใช้ใส่สิ่งของ เชื่อกันว่าควีนจะใช้กระเป๋านี้เพื่อส่งข้อความลับ เช่น ถ้าเอากระเป๋าวางลงบนโต๊ะอาหารเย็น แปลว่าต้องการให้อีเว้นท์อะไรก็ตามที่กำลังเกิดขึ้นอยู่จบใน 5 นาที หรือ วางกระเป๋าบนพื้น แปลว่าไม่โอเคกับบทสนทนาตอนนี้ ต้องพาออกไปจากตรงนี้ (5)
เพิ่งเคยเห็นเจ้าเห็ดทอดด์ที่ USJ แงงง น้องน่ารักจัง ตะเร้กปุ้กปิ้ก ㅜㅡㅜ
เส้นทางการเดินทางที่เราสามารถเดินทางต่อเนื่องได้ที่ยาวที่สุดในโลก
อาหารก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับความหงี่ ตามความเชื่อของคนสมัยนั้น เขาว่าถ้าไม่อยากหงี่ต้องไม่กินมัสตาร์ด พริกไทย น้ำเกรวี่ เบียร์ ไวน์ และไซเดอร์ (9)
ในปี 1915 บริษัทเมบิลีนถูกก่อตั้งขึ้น โดยเจ้าของเห็นพี่สาวตัวเองใช้วาสลีนกับผงถ่านหินในการทำให้ตาคมเฉี่ยว เขาเลยปิ๊งไอเดียอยากทำเครื่องสำอางค์สำหรับปัดขนตาโดยเฉพาะ เลยมีการคิดค้น Maybelline Cake Mascara ขึ้น โดยถือว่าเป็นเครื่องสำอางค์ดวงตาสมัยใหม่อย่างแรกของโลก (8)