การเอาศพออกมาจากบ้าน ต้องเอาเท้าออกก่อนหัวค่ะ เพราะเชื่อว่าถ้าเอาหัวออกก่อน คนตายอาจใช้โอกาสนี้เรียกให้หนึ่งในญาติสนิทของตัวเองตามไปโลกหน้าด้วย (16)
เล่าเพิ่มนิดนึง ติดลม5555 การไว้ทุกข์ของแม่หม้ายนี่มีเป็นสเตจด้วยนะ ซึ่งจะถูกจับตามองทุกสเตจก่อนที่เธอจะสามารถมูฟออนไปใช้ชีวิตใหม่ได้ สเตจแรกคือ deep mourning ซึ่งต้องใส่ชุดดำและผ้าคลุมหน้าดำเป็นเวลา 1 ปี 1 วัน twitter.com/arielqueenss/s…
สเตจที่สองเรียกว่า second mourning ซึ่งจะลากยาวไปอีกประมาณ 9-12 เดือน สเตจนี้เธอจะถอดผ้าคลุมหน้าได้ แต่ก็ยังต้องใส่ชุดดำ ส่วนเสตจสุดท้ายคือ half mourning ประมาณ 6 เดือน ซึ่งใส่ได้แต่เสื้อผ้าสีเข้มเท่านั้น หลังจากนี้จะยังใส่สีเข้มหรือไม่ก็แล้วแต่เลย
อย่างที่บอกว่าการไว้ทุกข์กับผู้หญิงในยุคนั้นเป็นของคู่กันมากๆ เหมือนเป็นตัวแทนของความเศร้าอะ ถ้าสามีเสียก็คือต้องถูกคาดหวังจากสังคมเลย อย่างน้อยสองปีที่ต้องไว้ทุกข์ แยกตัวจากสังคม เศร้าตลอดเวลา
มีคนถามเรื่องการจูบเข้ามา การจูบนี่มีมาตั้งแต่ 3500 ปีมาแล้ว แต่ที่เผยแพร่ไปรอบโลกได้ต้องขอบคุณจักรวรรดิโรมันเลย ชอบจูบกันมาก ถึงขั้นออกกฎหมายเกี่ยวกับการจูบเลย เช่น ถ้าสาวพรหมจรรย์โดนจูบแบบดูดดื่มในที่สาธารณะ เธอมีสิทธิ์เรียกร้องให้ผู้ชายคนนั้นแต่งงานกับเธอได้
กรี้ด ตัวอย่างใหม่ Lightyear น่าดูมาก ฮือ บัซเป็นตัวละครในความทรงจำที่เราอยากรู้จักเขามากขึ้นอีกมากๆ รักบัซ ㅜㅡㅜ
อันนี้น่ารักกกก คุณคนขวาคือราชินีที่แอบหลับระหว่างมื้ออาหารพบปะกับผู้คน ส่วนคุณคนซ้ายคืออัศวินคนสนิทที่แอบเห็นเธอหลับพอดี 🥺 คุณราชินีคือเหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูนหรือหนังยุคกลางเลย
tintinnabulum ในยุคโรมัน เป็นรูปจู๋ที่มีจู๋อีกทีห้อยด้วยกระดิ่งหรือระฆัง ทำหน้าที่เป็นกระดิ่งลม เชื่อว่ามันช่วยไล่ปีศาจและนำความโชคดีและความร่ำรวยมากให้ twitter.com/DrNWillburger/…
การศึกษาไทยทำให้วิชาประวัติศาสตร์กลายเป็นวิชาอะไรก็ไม่รู้ ทั้งที่จริงๆแล้วมีเรื่องราวน่าสนใจอีกมากรอให้นักเรียนได้เรียนรู้ มันไม่ได้มีแค่เรื่องของไทยด้วย มันมีอีกทั้งโลกเลย แล้วมันก็สนุกมากๆ นี่แหละถึงทำให้ชอบเล่าเรื่องปวศ. อยากให้ทุกคนเห็นว่ามันมีอะไรให้รู้อีกเยอะจริงๆนะ
ใครถนัดซ้ายบ้างยกมือขึ้น! วันนี้อยากเล่าถึงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับ “มือซ้าย” ให้ได้อ่านกันค่ะ รู้กันหรือเปล่าว่าในอดีตมือซ้ายถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของปีศาจ และในการล่าแม่มด หนึ่งในคุณลักษณะของแม่มดคือถนัดซ้าย รวมทั้งยังเคยมีกฎหมายห้ามใช้มือซ้ายอยู่บนโลกด้วย
ย้อนกลับไปสมัยโบราณ จริงๆแล้วการถนัดซ้ายไม่ใช่เรื่องแย่ค่ะ อย่างชาวเซลต์โบราณเชื่อว่าถนัดซ้ายนั้นดี เพราะมันส่งผลดีในการต่อสู้ในโลกที่คนส่วนมากถนัดขวา อย่างครอบครัว Kerr แห่งสก็อตแลนด์ที่สอนลูกหลานให้ใช้มือซ้ายเป็นหลัก และสร้างปราสาทสำหรับคนถนัดซ้ายโดยเฉพาะ (1)
ในโรมโบราณยุคแรกๆ จะมีการทำนายที่เชื่อว่าจะได้รับสารจากพระเจ้าโดยดูจากการขยับตัวของนก ผู้ทำนายจะโฟกัสไปที่ทิศทางการบิน ซึ่งในวัฒนธรรมกรีกจะเชื่อว่าสารของพระเจ้าเป็นไปในแง่บวกถ้านกบินจากขวา แต่สำหรับชาวโรมจะเชื่อว่าดีก็ต่อเมื่อบินมาจากทางซ้าย (2)
ในวัฒนธรรมอินคา การถนัดซ้ายจะเกี่ยวข้องกับความดี เพราะชื่อของหัวหน้าชาวอินคาคือ Lloque Yupanqui ซึ่งแปลว่าการถนัดซ้าย สำหรับชาวมายันก็มองการถนัดซ้ายในแง่ดีเช่นกัน โดยคำว่าซ้ายภาษาเขาคือ dziic มาจากคำว่า dziicil ที่แปลว่าทหาร/กล้าหาญ (3)
และมือซ้ายก็ถูกยึดโยงกับผู้หญิงและความด้อยกว่าด้วยนะ อันนี้แบบ เอ่อ มือซ้ายถูกโยงกับผู้หญิงเพราะถือว่าเป็นมือที่อ่อนแอ ความยอมทุกอย่าง ในขณะที่มือขวาที่คนใช้มากกว่าและเป็นมือหลักก็เลยถูกโยงกับความเป็นชายที่สื่อถึงพลัง (4)
คัมภีร์ไบเบิ้ลมีการยึดโยงคุณธรรมจริยธรรมเข้ากับด้านซ้ายและขวา เช่น พระเยซูจะนั่งอยู่ที่มือขวาของพระเจ้า ในขณะที่ทูตสวรรค์กาเบรียลจะนั่งทางซ้าย ใน Book of Matthew มีจุดที่พระเยซูที่ถูกอุปมาเป็นคนเลี้ยงแกะ กล่าวไว้ว่าคนที่อยู่ด้านขวาของตนเท่านั้นจะได้ไปสวรรค์ (5)
ในช่วงการมีอยู่ของศาลศาสนาสเปน (Spanish Inquisition) ที่กระทำการล่าแม่มด หนึ่งในคุณสมบัติของแม่มดคือถนัดซ้าย เพราะถือว่าเป็นคนไม่ปฏิบัติตามหลักคาธอลิค จะถูกลงโทษ และมีถึงขั้นคร่าชีวิต (6)
ในวัฒนธรรมแอฟริกาบางที่ก็ไม่โอเคกับการใช้มือซ้าย อย่างชาวซูลูสมัยก่อนเคยมีการลงโทษเด็กที่ถนัดซ้ายด้วยการเอามือซ้ายไปจุ่มน้ำเดือดร้อนจัดทำให้ใช้การไม่ได้ ในบางวัฒนธรรมของแอฟริกาห้ามผู้หญิงทำอาหารด้วยมือซ้าย ไม่งั้นจะถูกหาว่าเป็นแม่มด หรือถูกหาว่าพยายามจะวางยาใส่อาหาร (7)
ในช่วงของการล่าแม่มดแห่งซาเล็ม ผู้หญิงที่ถนัดซ้ายจะถูกตีตราว่าเป็นแม่มดทันที มีผู้หญิงอย่างน้อย 1 คนที่ถูกเผาส่วนนึงมาจากการที่เธอถนัดซ้าย ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นสมัยก่อน แค่ผู้หญิงถนัดซ้ายก็จะถูกเกลียดได้ หรือแม้แต่ถูกหย่าก็มี (8)
ในช่วง 1970s มีกฎหมายในหลายประเทศจำกัดการใช้มือซ้ายของประชาชน และโรงเรียนจะต้องสอนการเขียนด้วยมือขวาเท่านั้น ซึ่งในประเทศอัลบาเนียจะหนักสุด เพราะการใช้มือซ้ายถือว่าผิดกฎหมายเลย (9)
มาแนะนำวิธีเห็นเนื้อคู่ในอนาคตของตัวเองด้วยการใช้กระจกกับแอปเปิ้ลค่ะ ใครใคร่ลองทำลองดูแล้วมารีวิวด้วยนะ แต่วิธีการน่าเอาไปทำเป็นหนังสยองขวัญมาก ชั้นกลัว555555555
โอ้ย เทรลเลอร์ Bridgerton ซีซั่นสอง ㅜㅡㅜ ชั้นรักความเว่อวังของยุครีเจนซี แฟชั่นเอย จริตจก้านเอย เอาจริงคิดว่าสนุกแน่ แต่ถึงจะไม่สนุกขนาดนั้นแต่แค่ได้นั่งดูงานเต้นรำสวยๆ ดูบ้านเรือนดูวัง ดูค่านิยมในยุคนั้น (ที่บางอย่างก็ไม่ดีนะ555) ก็ฟินแล้วอะ ชอบ
เป็นภาพที่ชวนให้คิดว่าผู้หญิงคนนี้ร้องไห้ทำไม ชื่อภาพว่า After the Ball เลยคิดว่าคงเป็นเหตุการณ์หลังงานเลี้ยงตอนเย็น ดีเทลที่มีกระดาษอยู่บนโต๊ะบวกกับเพื่อนสาวที่มองมันอยู่อาจจะสื่อถึงการที่เธอโดนปฏิเสธทางจดหมายหรือเปล่านะ หรืออาจจะเกิดอะไรขึ้นที่งานเลี้ยง
เคยเล่ากฎแปลกๆในวังแวร์ซายไปเมื่อนานมาแล้ว เธรดนี้จะพูดถึง ‘พิธีการ’ ในวังนี้กัน ซึ่งพิธีการที่ว่าไม่ใช่อะไรยิ่งใหญ่ แต่มันอยู่ในกิจวัตรประจำวันของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และครอบครัว! ตั้งแต่ตื่นยังหลับจะมีพิธี มีคนจับตา โดยมีเหตุผลที่เป็นเช่นนี้ มาทำความรู้จักแวร์ซายให้มากขึ้นกันค่ะ
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เป็นผู้ริเริ่มเปลี่ยนให้อิริยาบถธรรมดาๆเช่นการตื่นการหลับให้กลายเป็นพิธีการ เพราะต้องการให้ตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจตลอดเวลา และการมีกิจวัตรเหมือนเดิมทุกวันแบบเปิดเผยจะทำให้ทุกคนรู้ว่าตัวเองอยู่ ณ จุดไหนในแต่ละช่วงเวลาของวัน (1)
ที่สำคัญยังช่วยให้ตัวเองอยู่ในบัลลังก์อย่างปลอดภัย อย่างไรล่ะ? ลองนึกดูว่าการได้เป็นขุนนางที่ทำหน้าที่มอบกระจกให้เจ้า ผูกเชือกรองเท้าให้เจ้า มันเท่ไม่หยอกและบ่งบอกว่าใกล้ชิดกับคิงมากแค่ไหน บรรดาขุนนางก็จะเอาแต่แย่งชิงตำแหน่งในพิธีพวกนี้กัน จนไม่มีเวลาสนใจจะชิงบัลลังก์ (2)