เป็นซีนในเครื่องเล่นที่อยากไปเห็นกับตาสักครั้ง ขนาดถ่ายผ่านกล้องยังหลอกได้ขนาดนี้ อย่างเจ๋งเลย ทำได้ไงให้ร่างของอสูรกลายเป็นคนได้แบบนั้น เหมือนในหนังเลยอะ ฮือ ㅜㅡㅜ
ให้คนในไอจีพิมพ์สิ่งของแบบแรนด้อม อะไรก็ได้ แล้วเราจะเล่าประวัติศาสตร์ของสิ่งนั้นให้ฟังภายใน 15 วินาทีผ่านไอจีสตอรี่ พาร์ท 2 ค้าบ ตอนนี้กำลังเปิดให้ถามอยู่เลย!! ใครสนใจแวะมาเล่นด้วยกันได้ในสตอรี่ instragram.com/mimie.starr เลยค่ะ 🤍
ที่อยากดูสุดตอนนี้ก็คงเป็นซีรีส์ Zootopia+ อะ อยากเห็นอีกหลายๆมุมของเมืองนี้ วิถีชีวิตแต่ละคน เพราะตัวละครทุกตัวในเรื่องน่าจดจำหมดเลยจริงๆ ตัวหนังนำเสนอประเด็นต่างๆออกมาได้ดีมาก อยากเห็นอะไรเจ๋งๆจากเมืองนี้อีก ที่สำคัญคือคิดถึงนิคกับจูดี้ หวังว่าจะโผล่มาให้หายคิดถึงด้วยนะ 🥺
ยิ่งดูรูปยิ่งทึ่ง คนสมัยก่อนเก่งมากจริงๆที่สร้างอะไรแบบนี้ขึ้นมาได้ ส่วนที่เส้นมันอยู่มาเป็นพันปีไม่หายไปก็เพราะมันคือหินสีแดง ไม่ใช่ทะเลทรายซะทีเดียว แถมบริเวณนั้นยังไม่มีฝนตกอีกก็เลยไม่ได้เกิดการกัดกร่อนอะไร เอาละค่ะ สถานีต่อไป เปรู
เอ้อ หนึ่งในเส้นนาซคาที่เพิ่งถูกพบเมื่อ 2020 เป็นรูปแงว มีอายุมากกว่า 2000 ปีแล้วอะ แง น่ารัก เป็นหลักฐานว่าคนเป็นทาสแมวมาแต่ไหนแต่ไรแล้วสินะ5555 ปล. เส้นนาซคา (Nazca line) อยู่ที่เปรู เกิดจากการตักเอาหินชั้นบนออกให้เห็นพื้นชั้นในที่สีอ่อนกว่า บางคนเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวเป็นคนทำ
แต่นักโบราณคดีหลายคนก็ลงความเห็นว่าคนทำคือชาวนาซคานี่แหละ อาจทำขึ้นเพื่อเป็นการบูชาเทพเจ้า ขอน้ำขอฝนให้ตก ซึ่งมันก็มีรูปสัตว์หลายตัวที่เกี่ยวข้องกับฝน น้ำ ความอุดมสมบูรณ์ ไม่ก็เป็นการใช้เป็นปฏิทินดูดาว
อ้าก ดู Splash Mountain in snow นั่นสิ หนาวไปถึงขั้วหัวใจแต่สวยมาก อยากเล่นมากที่สุดเลยเพราะเป็นเครื่องเล่นโปรด ㅜㅡㅜ เมื่อไหร่เราจะได้เจอกันอีกนะดิสนีย์แลนด์
อันนี้ก็เพิ่งรู้จัก นี่คือเอกสารเกี่ยวกับการทำประกันภัยแรกของโลกเมื่อ 1,750 ปีที่แล้วใน Code of Hammurabi (เป็นประมวลกฎหมายของบาบิโลน) เป็นประกันภัยทางทะเลของเรือ โดยพ่อค้าชาวบาบิโลนจะกู้เงินสำหรับขนส่งของทางเรือ และจะต้องจ่ายค่าอภัยโทษให้กับคนกู้ในกรณีที่ของหายหรือถูกขโมย
ขายของ เพิ่งเรื้มทำคอนเท้นในสตอรี่ไอจี มาหนับหนุนน้องแอเรียลควีนได้นะคะ จุ้บ 🥺 twitter.com/arielqueenss/s…
ลิ้งค์เว็บมันก็อปมาไม่ได้อะ แง ใครสนใจลองเสิร์ชดูนะคะ
ไปเจอมาว่าหนึ่งในแผ่นจารึกที่เก่าแก่ที่สุดในโลกมาจากเมโสโปเตเมีย ประมาณ 3,800 ปีที่แล้ว ซึ่งมันคือลูกค้าเขียนคอมเพลนร้านขายทองแดงเป็นภาษาอัคคาเดียน55555 เนื้อหาคือ รู้ไว้ด้วยนะ ชั้นจะไม่ซื้อทองแดงร้านหร่อนอีก คุณภาพไม่ผ่านเลย ชั้นหาทองแดงในสวนหลังบ้านชั้นยังจะดีกว่า ลงชื่อ นานนิ
คุณ Jonah Sidhom อนิเมท Encanto ที่บ้านเพราะ wfh แล้วดูคุณเขาใช้ตัวเองเป็นเรฟในการทำซีนนี้ แง ทั้งเก่งทั้งน่ารักเลย เอเนอจี้เต็มมาก ㅜㅡㅜ
ที่ทำคลิปเมื่อวานประทับใจสองอย่างนี้สุดแล้ว ภาพซ้ายเชื่อว่าคือดิลโด้ชิ้นแรกของโลก ภาพขวาเชื่อว่าคือถุงยางชิ้นแรกของโลก ดิลโด้คือนึกว่าไม้ครก55555555555
มาค่ะ ให้คนในไอจีพิมพ์สิ่งของแบบแรนด้อม อะไรก็ได้ แล้วเราจะเล่าประวัติศาสตร์ของสิ่งนั้นให้ฟังภายใน 15 วินาทีผ่านไอจีสตอรี่ อันนี้ทำรวมมาเป็นคลิปมาให้ดูกัน ส่วนใครอยากมาเล่นด้วยกันก็เชิญได้ที่ไอจีค่ะ (กดดูไฮไลท์อรค.เล่าเรื่องได้เลย) ٩( 'ω' )و 🤍 instragram.com/mimie.starr
มาเล่นเป็นเพื่อนหน่อย ไม่ต้องฟอลก็ได้ค่ะแต่มาเป็นหน้าม้า แอเรียลควีนกำลังทดลองทำคอนเท้นใหม่ในสตอรี่ไอจี5555555 Instragram.com/mimie.starr
แต่เทรนนี้กว่าจะมาถึงการกำหนดสีให้เสื้อผ้าเด็กก็ปาไปช่วง 1980s แล้วค่ะ ซึ่งเป็นช่วงที่การอัลตราซาวด์เพศของเด็กกลายเป็นธรรมเนียม พ่อแม่ก็จะไปหาช้อปของสำหรับลูกชายหรือสาว และแน่นอนว่าผู้ผลิตก็ตอบสนองกับเทรนนี้ด้วยการแบ่งแยกสีอย่างชัดเจนนั่นเอง (10)
จะระบุไปเลยว่าเมื่อไหร่ที่สีชมพูกลายเป็นสีของผู้หญิงก็คงจะยาก แต่ถ้าให้ประมาณก็คงจะเป็นหล้งสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อสังคมต้องการจะเน้นย้ำบทบาททางเพศของทางตะวันตก เมื่อผู้หญิงถูกจัดให้อยู่แต่บ้าน การตลาดการโฆษณาจึงมีผลอย่างมากในการเชื่อมโยงสีชมพูเข้ากับความเป็นแม่บ้าน (9)
เพราะสีชมพูอาจสื่อถึงการไม่ใส่เสื้อผ้า ทำให้ชุดชั้นในสีชมพูเริ่มมีมากขึ้นและกลายเป็นเรื่องปกติ ในค่ายกักกันของนาซี นักโทษที่ถูกกล่าวหาเรื่องรักร่วมเพศ ไบเซ็กชวล หรือทรานส์ จะถูกบังคับให้ใส่สัญลักษณ์สามเหลี่ยมสีชมพู สัญลักษณ์นี้ภายหลังกลายเป็นสัญลักษณ์ของ gay rights movement (8)
ศ.ที่ 20 เป็นช่วงที่สีชมพูเริ่มจะชัดเจนและสว่างขึ้น ด้วยเทคโนโลยีสีย้อมเคมีที่ทำให้สีไม่เฟดง่าย และก็มาพร้อมกับค่านิยมที่ว่าผู้ชายในโลกตะวันตกเริ่มใส่เสื้อผ้าที่สีเข้มมากกว่า ทำให้สีที่อ่อนกว่าเริ่มถูกปัดไปเป็นสีของผู้หญิง และเริ่มถูกโยงเข้ากับความอีโรติค (7)
สีชมพูในยุคนั้นเป็นสีที่ไม่มีเพศค่ะ ทุกเพศใส่สีนี้กันหมด ในยุค ศ.ที่ 19 โบว์สีชมพูมักจะถูกใส่โดยเด็กชาย เพราะสมัยนั้นเด็กชายก็คือผู้ชายตัวน้อย พวกผู้ชายใส่สีแดง ผู้ชายตัวน้อยเลยใส่สีชมพู แต่จริงๆแล้วยุคนั้นเสื้อผ้าเด็กมักเป็นสีขาว เพราะผ้าสีเวลาโดนซักด้วยน้ำร้อนจะเฟดไว (6)
ซึ่งสีชมพูสไตล์พระนางคือชมพูที่เพิ่มสีฟ้า ดำ และเหลืองเข้าไป เรียกว่า Rose Pompadour ความหมายของสีชมพูในยุคนั้นก็มีแตกต่างไป เช่นภาพของ Emma, Lady Hamilton สีชมพูในชุดสื่อถึงการล่อลวง แต่ในภาพของ Sarah Barrett Moulton มันแสดงถึง วัยเด็ก ความไร้เดียงสา ความอ่อนโยน (5)
พระนางยังใช้สีชมพูในการปัดแก้มด้วย เพราะมันสื่อว่าเป็นหญิงอ่อนหวาน น่าปกป้อง และบริสุทธิ์ผุดผ่อง ซึ่งตรงข้ามกับหญิงสาวแก้มไร้สีที่เป็นคนหยาบกระด้าง หยาบกร้าน ไม่บริสุทธิ์เสียจนแก้มไม่มีสี (4)
แต่จุดพีคของสีชมพูอยู่ในยุคศ.ที่ 18 เมื่อสีพาสเทลเป็นที่นิยมในแฟชั่นของราชสำนักทั่วยุโรป สีชมพูแทนความร่ำรวย โดยคนที่โปรดปรานมากเป็นพิเศษคือ Madame de Pompadour หนึ่งในภรรยาของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ผู้มักใส่สีฟ้าชมพู ถีงขั้นมีสีชมพูของตัวเองที่ผลิตโดยโรงงานเครื่องเคลือบ Sevres (3)
หรืออย่างเช่นในภาพ Madonna of the Pink นี้ วาดโดย Raphael จะเห็นเป็นพระเยซูในวัยทารกกำลังมอบดอกไม้สีชมพูให้กับพระแม่มารี ซึ่งสีชมพูเป็นสัญลักษณ์ของการแต่งงาน และมันถูกใช้สื่อถึงการแต่งงานทางจิตวิญญาณระหว่างแม่และลูกนั่นเอง (2)