ต่อกันในเรื่องของวิกผม ทีแรกก็มีแต่ผู้ชายใส่ แต่หลังๆมาผู้หญิงก็ใส่เช่นกัน และวิกที่สาวๆใส่คืออลังการกว่ามาก สูงกว่ามาก5555 มีทั้งขนนก ริบบิ้น บางคนใส่ของเข้าไปในนั้นด้วย!! วิกผมแพงๆจะทำมาจากผมคนจริงๆ ไม่งั้นก็จะเป็นขนแพะหรือม้า (7)
พวกแป้งอะไรงี้คนก็ใช้น้อยลง รูจก็เริ่มถูกแทนด้วยขนสัตว์จากสเปนที่นำไปย้อมแล้วตัดแบ่ง แล้วค่อยเอามาทาปากกับแก้ม ช่วงปฏิวัติ ถ้าใครดูรวยดูแพง มีสิทธิ์โดนจับไปตัดหัวหมด การแต่งหน้าน้อยๆก็เลยเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทำให้ปลอดภัย (6)
แต่ในยุคหลังๆที่มีการปฏิวัติฝรั่งเศสเกิดขึ้น การแต่งหน้าก็เริ่มไม่เป็นที่นิยมละเพราะมันสะท้อนถึงความร่ำรวยและอภิสิทธิ์ของบุคคล การถลุงเงินของคนรวยโดยเหยียบหัวคนจน ผู้ชายเริ่มหยุดแต่งหน้าเพราะจะโดนมองว่าเหมือนผู้หญิง หมอเริ่มออกมาเตือนถึงอันตรายของเครื่องสำอางค์ (5)
อีกเทรนนึงที่สำคัญคือเทรนขี้แมลงวันค่ะ น่าจะเคยเห็นในหนัง/ซีรีส์กันมาบ้าง มันมาจากนักเขียนบางคนที่อธิบายถึงความงามของเทพีวีนัสที่มีไฝอยู่บนหน้า แต่สาวๆยุคนั้นใช้จุดนี้ในการปกปิดร่องรอยของซิฟิลิสหรือไข้ทรพิษ ละถ้าจุดไฝมากไปก็จะดูเว่อ น้อยไปก็จะดูเชย ต้องกะให้พอดีๆ (4)
ต่อมาพูดถึงรูจ (rouge) บ้าง การใช้รูจบนแก้มกับปากคือเทรนที่สำคัญมากกก ทั้งหญิงและชายจะทารูจที่แก้มเป็นกลมๆ เพราะใครที่ปากแดงแก้มแดงจะถือว่าสุขภาพดี โตมาดี แต่บางคนใช้รูจผสมกับปรอท เพราะสีแดงที่ได้มันปังมาก แต่ก็อันตรายต่อร่างกายมากเช่นกัน ทำให้ฟันร่วง ปากเหม็น น้ำลายยืด (3)
แป้งสีขาวจะผสมมาจากสูตรที่ค่อนข้างท็อกซิก มีสูตรนึงผสมโลหะเข้ากับน้ำส้มสายชู (ยุโรปสมัยก่อนนิยมใช้โลหะในเครื่องสำอางจริงๆ เพราะเชื่อว่ามันทำให้ขาว) แล้วทิ้งไว้ในปุ๋ยคอกประมาณ 3 วีค โลหะจึงนิ่มลงจนสามารถบดออกมาให้เป็นผงแป้งได้ แล้วค่อยผสมกับน้ำ นำไปตากให้แห้งและผสมกับน้ำหอม (2)
การแต่งหน้าของสาวๆหลักๆประกอบไปด้วย 3 อย่างคือ รองพื้น แป้ง และ rouge (เครื่องสำอางที่ใช้กับปากและแก้ม เป็นสีออกแดงๆ) เพื่อช่วยปกปิดผิวแห้งกร้าน กระ สิว หรือรอยแผลเป็น และทำให้ผิวเรียบสวยเหมือนเครื่องเคลือบ ซึ่งเทรนนี้มาจากยุคก่อนปฏิวัติฝรั่งเศสจากในวังเลย (1)
ถ้าพูดถึงแฟชั่น หลายๆคนคงมีนึกถึงฝรั่งเศสกันบ้าง เธรดนี้อยากเล่าถึงความสวยความฉ่ำ (และอันตราย) ของสาวๆวังแวร์ซายและชนชั้นสูงศ.ที่ 18 ให้อ่านกัน ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ต้องเว่อต้องปังเบอร์ไหนถึงจะก้าวออกจากบ้านได้ มาค่ะ ทดลองเป็นสาวแวร์ซายกันดีกว่า!
เล่มนี้ปังมากกกก ขุมทรัพย์ของคนรักยุครีเจนซีและอินบริเจอร์ตันแบบเรา ㅜㅡㅜ มีฟันแฟคเกี่ยวกับยุคเอย ฮาวทูเป็นเลดี้ ฮาวทูจีบตั่งต่าง ไว้จะเอามาแชร์ให้อ่านกันนะคะๆๆๆ
แค่โปสเตอร์ของ #Remember15 ก็ชวนให้เดาไปต่างๆนานาแล้วอะ หนึ่งในนี้คือฆาตรกรที่ฆ่าเพื่อนของตัวเอง แล้วแต่ละคนคือมีอดีตร่วมกัน มีปม ความสัมพันธ์ซับซ้อน โปสเตอร์บอกใบ้ด้วยว่าใครคือคนร้าย แต่นี่นั่งดูมาสักพักละก็ยังเดาไม่ถูก555555
เพื่อนฝากมาถามค่า อยากให้ช่วยแนะนำสถาบันสอนภาษาอังกฤษที่เน้นไปด้านฟังกับพูด เช่น บทสนทนาในชีวิตประจำวัน หรือคุยธุรกิจกับต่างชาติค่ะ เมนชั่นมาได้เลยนะคะ รีวิวเลยก็ได้
เป็นประโยคจากจดหมายรักที่ชอบมากๆ “คนบางคนสามารถตกหลุมรักความงามได้ภายในชั่วโมง และออกจากหลุมนั้นได้ในเวลาเท่าๆกัน แต่จิตวิญญาณเป็นสิ่งที่ต้องเรียนเท่านั้น เพื่อที่จะได้รู้”
ลิสต์หนังในอนาคตที่มีแพลนจะฉาย/สร้างของดิสนีย์ ปี 2023 มีสองไลฟ์แอคชั่น มีทั้งอนิเมชั่นดิสนีย์พิกซาร์ด้วย ยาวๆไปเลย อยากรู้แล้วว่าจะออกมาเป็นอะไร!
ความเชื่อนึงที่ชอบที่สุดคือทำไมต้องใส่แหวนแต่งงานที่นิ้วนางข้างซ้ายนี่แหละ เพราะ (คนสมัยก่อนเชื่อว่า) นิ้วนางข้างซ้ายมีเส้นเลือดที่ต่อตรงเข้ากับหัวใจ ใส่แหวนนิ้วนั้นก็เหมือนใส่คล้องใจเอาไว้ น่ารัก 🥺💍
เวลามีอะไรกัน เชื่อว่าทั้งสองฝ่ายต้องถึงจุดสุดยอดในเวลาเดียวกันเป๊ะๆ ไม่งั้นจะถือว่าเป็นเซ็กส์ที่ห่วย และถ้าสามีทำให้ภรรยาเสร็จพร้อมกันไม่ได้ ภรรยามีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการมีอะไรด้วย (12)
มันมีกฎหมายที่ว่าอนุญาตให้ตำรวจจับหญิงขายบริการได้ ที่มาคือโรค STI ที่เพิ่มขึ้นเพราะการมีอะไรกันที่ไม่ป้องกันกับสาวๆเหล่านี้ ละแทนที่จะหนับหนุนให้ผู้ชายป้องกัน ดันไปไล่จับสาวๆไปตรวจโรคแทน ละถ้าพบนะก็โดนส่งไปขังในรพ. ถึง 9 เดือน แน่นอน กฎหมายนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อผู้หญิงเลย (11)
(tw: rape) มีนักสรีระวิทยาคนนึง คือแปลกมาก เขาวิจัยอะไรแปลกๆออกมาเยอะมาก เช่น วิธีการคุมกำเนิดอย่างนึงคือหลังจากเสร็จกิจ ผู้หญิงต้องลุกขึ้นมาเต้น ไม่ก็ขี่ม้าในวันต่อไป เผยแพร่ความเชื่อว่าการข่มขืนไม่ทำให้ท้อง (เอ่อ) และนิสัยส่วนตัวของบุคคลเป็นตัวกำหนดว่าแต่ละคนจะมีลูกได้ไหม (10)
อาหารก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับความหงี่ ตามความเชื่อของคนสมัยนั้น เขาว่าถ้าไม่อยากหงี่ต้องไม่กินมัสตาร์ด พริกไทย น้ำเกรวี่ เบียร์ ไวน์ และไซเดอร์ (9)
สำหรับสาวๆโดยเฉพาะที่ไม่ค่อยมีเงิน ไม่ได้มีอาชีพที่เปิดกว้างให้พวกเธอขนาดนั้น โอกาสอะไรก็มีน้อย บางคนก็ไม่มีทางเลือก (8)
แน่นอนว่าในยุคที่ยี้เรื่องเพศ อาชีพหญิงขายบริการก็โดนยี้ไปด้วย จริงๆที่คนยี้กันลึกๆก็มาจากการที่สาวๆเหล่านั้นเป็นตัวแทนของอิสระจากสังคมชายเป็นใหญ่ พวกเธออยู่เองได้ มีฐานะมั่นคงไม่ต้องพึ่งสามี คนจึงปักธงว่าสาวๆเป็นคนไม่ดี เพื่อกันไม่ให้เด็กๆอยากทำอาชีพนี้ตาม (7)
การมีลูกนอกสมรสคือ สิ่ง-ต้อง-ห้าม! เป็นอะไรที่เลวร้ายมากในยุคนั้น แม่เลี้ยงเดี่ยวหลายคนเลยที่กลัวโดนมองเป็นคนนอก จึงมักเอาเด็กไปวางไว้หน้ารพ. ฝากไว้กับฟาร์มเด็ก หรือจบชีวิตเด็กด้วยตัวเองก็มี (6)
หนังสือแนะนำเกี่ยวกับความสัมพันธ์เล่มนึงกล่าวไว้ว่า เจ้าสาวที่ฉลาดจะต้องไม่ให้สามีอึ๊บเกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ และสัปดาห์ต่อๆไปต้องให้มันยิ่งน้อยครั้งลงอีก ด้วยการแกล้งป่วย แกล้งง่วง หรือแกล้งปวดหัวก็ได้จ้า เอาเรยเต็มที่ แต่ต้องรอดนะ (5)
หลายคนเชื่อว่าการช่วยตัวเองจะนำไปสู่การเป็นโรคร้าย มีวิจัยวิทยาศาสตร์ออกมาเลยว่าช่วยตัวเองทำให้คนกลายเป็นบ้า (????) ซ้ำยังบอกอีกว่าคนที่น้ำหนักเกินมาตรฐาน คนผิวซีด คนผิวไม่สวย เป็นผลพวงมาจากการช่วยตัวเองทั้งหมด (4)
สำหรับสาวๆ การมีอะไรกันก็เพื่อการสืบพันธุ์เท่านั้น ถ้าเป็นอื่นจะทำให้เธอกลายเป็นหญิงคนละชั้นเลย มีหนังสือเขียนแนะนำไว้เลยค่ะว่า ถ้าผู้ชายจะจูบเธอ เธอต้องเอียงแก้มเข้าสู้แทน ถ้าเขาถกกระโปรงเธอขึ้นแล้วจะจูบที่อื่นแทน ให้รีบถกกระโปรงลงแล้วบอกว่าปวดฉี่ คือห้ามตุกติกเด็ดขาด (3)
เห็นสิ่งนี้ไหมคะ มันคืออุปกรณ์ระงับความหงี่ที่ผู้ชายใช้กันจริงๆ คือคนเชื่อว่าถ้าผู้ชายไม่หงี่จะเป็นบุคลากรที่มีประโยชน์กับสังคมมากกว่าเดิม เลยคิดค้นอุปกรณ์ป้องกันการช่วยตัวเองมา อย่างอันนี้ เวลากลางคืนที่จู๋ผู้ชายแข็งขึ้นเอง ไอแหลมๆก็จะทิ่มจนตื่น ให้ตื่นมาสงบใจนะ ห้ามทำอะไร (2)