เป็นอีกตัวละครที่อยากรู้จักมากขึ้นมากๆๆๆ เลยยิ่งตั้งตารอดูไลฟ์แอคชั่นสุดๆ จริงๆมันน่าสนใจตั้งแต่ในการ์ตูนแล้วที่นางใบ้ว่าเคยอยู่ในวังมาก่อน แล้วนางคือใคร อยู่ในวังได้ไงทั้งที่คนละเผ่าพันธุ์กับเงือก (เห็นว่าในหนังนางจะมีศักดิ์เป็นป้าของแอเรียลด้วยนะ น่าสนใจปะล่า) twitter.com/__luvu2themoon…
Fuji Q Highland 🤍 ติดตามรีวิวเครื่องเล่นอื่นๆได้ที่สตอรี่ไอจี instagram.com/mimie.starr ค้าบ
ประโยคเริ่มต้นของเพลงชาติในประเทศแถบยุโรป
: รูปปั้นหินการ์กอยล์ที่มีชีวิตเป็นเพียงจินตนาการของควอซิโมโด เพราะควอซี่ถูกขังบนหอระฆังตั้งแต่เกิด อยู่ลำพังมาตลอด อาจไม่แปลกที่เขามโนให้รูปปั้นสามตัวนี้มีชีวิต เพราะตลอดเรื่องเราได้เห็นการ์กอยล์มีบทแค่เวลาคุยกับควอซี่ และพวกเขาไม่ได้มาช่วยควอซี่ในเวลาอื่นเลยด้วย (7)
แม่ของจูเลียก็เป็นนักปรุงยาพิษเช่นกัน! เธอคือ Thofania d’Adamo ที่ถูกประหารที่พาเลอร์โม, ซิซิลี ด้วยข้อหาใช้ยาพิษในการฆาตรกรรมสามี รวมไปถึงลูกสาวของจูเลียเองก็เช่นกันที่เป็นนักปรุงยาพิษ โดยลูกสาวของเธอก็ถูกประหารไปพร้อมกับเธอ (6)
หลายๆคนน่าจะจำเลดี้วิสเซิลดาว์นกันได้ ที่เขียนเรื่องข่าวซุบซิบข่าวฉาวให้บรรดาผู้ดีทั้งหลายได้อ่าน จริงๆในยุคนั้นมีอะไรแบบนี้เยอะมากค่ะ ทั้งการ์ตูนล้อเลียน บทกวีหยาบคาย แม็กกาซีน ทั้งยังมีคนใช้มันเป็นช่องทางแบล็คเมลล์คนอื่นด้วย! (3)
ในบรรดาผู้รอดชีวิต ผู้โดยสารชายจากชั้นสองมีจำนวนน้อยที่สุดค่ะ เพียง 14 คน หรือ 8 % ของทั้งหมดเท่านั้น ในกลุ่มนี้จะมีนักบวชที่อยู่กับผู้โดยสารคนอื่นจนวิสุดท้าย เหล่านักดนตรีที่เราเห็นในหนังก็อยู่ชั้นสองนะคะ (8)
ไม่ใช่ว่าแฟชั่นสไตล์นี้ fatphobic (อาการกลัวความอ้วน) หรืออะไร แต่บางคนเชื่อว่า มันถูกออกแบบมาไม่ให้เข้ากับรูปร่างของคนอวบหรือคนอ้วนมากกว่าเท่านั้น แต่ในปัจจุบันเอง ก็มีสาวๆในทุกสัดส่วนเอ็นจอยการแต่งตัวสไตล์นี้กันมากมาย สวยๆกันทั้งนั้นด้วยล่ะ 🥰💖 (12)
แต่จุดพีคของสีชมพูอยู่ในยุคศ.ที่ 18 เมื่อสีพาสเทลเป็นที่นิยมในแฟชั่นของราชสำนักทั่วยุโรป สีชมพูแทนความร่ำรวย โดยคนที่โปรดปรานมากเป็นพิเศษคือ Madame de Pompadour หนึ่งในภรรยาของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ผู้มักใส่สีฟ้าชมพู ถีงขั้นมีสีชมพูของตัวเองที่ผลิตโดยโรงงานเครื่องเคลือบ Sevres (3)
ป้ายนี้น่ารักแม่กกก ห้ามให้อาหารพวกแฟรี่นะ ไม่งั้นพวกเค้าจะขี้เกียจจนเคยตัวและหยุดหาอาหารเอง ที่สำคัญ พวกมดก็อาจจะมาแย่งกินไปหมด! เพราะมีประตูพวกนี้รอบเมือง เด็กๆก็ชอบเอาของจิ๋วไปวางไว้หน้าประตูให้กับพวกแฟรี่ล่ะ 🌻
ปล. เท็ดดี้นั้นแม้จะไม่สนับสนุนเรื่องการมีทาสในครอบครอง แต่ในเรื่องความเท่าเทียมกันของชาติพันธุ์เขาก็ไม่เห็นด้วย เพราะยังมีแนวคิดที่ว่าประชากรคนดำในอเมริกาถือเป็นปัญหาอย่างนึง
จะยังไม่พูดถึงชนชั้นแรงงานในเธรดนี้นะคะ มาเริ่มกันที่มื้อเช้าค่ะ ในยุคนี้ มื้อเช้าก็เป็นมื้อที่สำคัญ ส่วนมากก็จะเป็นอาหารคลาสสิคอย่าง เบคอนกับไข่ หรือปลาคิปเปอร์/เฮอร์ริงกับมะเขือเทศย่าง เป็นมื้อที่จัดโปรตีนหนักๆเลยค่ะ บางบ้านมื้อเช้ามีหลายคอร์สเลย แต่เป็นคอร์สเล็กๆค่ะ (2)
แมรี่ (พี่สาวของแอนน์) ก็เคยเป็นภรรยาน้อยของคิงเฮนรีที่ 8 ก่อนที่แอนน์จะเข้ามา ทั้งสองเคยทำงานร่วมกัน โดยก่อนหน้านี้เธอก็เคยเป็นภรรยาของคิงฟรานซิสแห่งฝรั่งเศสเช่นกัน ซึ่งการที่พี่ตัวเองเคยเป็นเมียผัวตัวเองก็ทำให้แอนน์ไม่สบายใจที่จะแต่งกับเฮนรี เพราะว่า (1)
และที่สำคัญคือพระนางไม่อยากแยกครอบครัวออกจากกัน ซึ่งรถม้าที่เตรียมไว้ทีแรกเป็นคันเล็กสองคันและนั่นหมายถึงต้องแยกกันนั่ง (แต่มันก็จะเร็วกว่าน่ะนะ) ซึ่งนี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่ทำให้ครอบครัวถูกจังในที่สุด (10)
Finishing school ในปัจจุบันไม่ได้จำกัดแค่เพศหญิงเท่านั้น แต่ไม่ว่าเพศไหนก็สามารถเรียนได้ และโรงเรียนจะเน้นไปที่การเพิ่มความมั่นใจ รู้จักมารยาททางธุรกิจและทางสังคม เพิ่มสกิลการนำเสนองานและพูดในที่สาธารณะ ฯลฯ ซึ่งก็นับว่ามีประโยชน์มากๆสำหรับทุกเพศเลยค่ะ (9)
tw: suicide • Rusalki จากรัสเซีย เป็นวิญญาณของกลุ่มหญิงสาวที่จบชีวิตตัวเองในน้ำหรือถ่วงน้ำเพราะท้องโดยไม่เต็มใจ พวกเธอจะกลายเป็นเงือกพยาบาทที่คอยลงโทษผู้ชายและเด็ก ถ้าใครเจอพวกเธอ จะโดนหลอกล่อด้วยความสวยและเสียงที่ไพเราะ (9)
เครื่องสำอางตัวการคือ Aqua Tofana ที่สามารถปลิดชีวิตคนได้ใน 4 หยด (ซึ่งส่วนมากจะแบ่งให้กินวันละหยดจะได้ไม่น่าสงสัย) เจ้าตัวนี้ไม่มีกลิ่น รส สีใดๆ ทำให้มันผสมเข้ากับอาหาร/เครื่องดื่มได้ง่าย มันแฝงตัวเป็นเครื่องสำอางของผู้หญิง และน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ ทำให้สามีของพวกเธอจับไม่ได้ (4)
คนที่เป็นญาติกันก็มักจะโตมาในสภาพแวดล้อมและมุมมองที่คล้ายกัน รวมทั้งต่างฝ่ายต่างก็รู้จักมักจี่ประวัติครอบครัวกันและกันเป็นอย่างดี และที่สำคัญมากคือ ทรัพย์สมบัติความมั่งคั่งก็จะปลอดภัย เพราะมันก็จะวนกันอยู่ในตระกูล ไม่ตกไปเป็นของคนอื่น (3)
ซึ่งจริงๆจะแบ่งเป็น 2 ช่วงคือ • The Grand Entrée began: คนที่ถือสิทธิ์ได้เข้าก่อน (ซึ่งสิทธิ์พวกนี้ซื้อได้ด้วย) จะได้เห็นคิงใส่วิกกับเสื้อขณะยังอยู่บนเตียง • Première Entrée: คนที่ถือสิทธิ์น้อยกว่า เข้ามาตอนใส่เสื้อผ้า (ว่ากันว่าหลุยส์ 14 ชอบแต่งตัวเอง แต่ต้องมีคนถือกระจกให้)
• พูดถึงวงการดนตรีกันบ้าง วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 1959 เป็นวันที่ได้ชื่อว่า ‘วันที่ชีวิตของดนตรีได้จบลง (The Day the Music Died)’ และมันก็เกิดมาจากการตัดสินใจชั่วพริบตาเดียวจริงๆ โดย Buddy Holly, Richie Valens และ JP Richardson, Jr. เสียชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินตกในรัฐไอโอวา (5)
อลิสชอบเรื่องนี้มากจึงขอให้ดอดจ์สันเขียนมันลงหนังสือ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ Alice in Wonderland ค่ะ ซึ่งจริงๆแล้วดอดจ์สันเนี่ยเป็นคนรักเด็ก มีหลักฐานว่าเขาเป็นเพื่อนกับเด็กสาววัยละอ่อนมากมาย แต่อลิสถือเป็นคนพิเศษของเขา (4)
ค่าเงินสมัยนั้นนับหน่วยเป็น AS ค่ะ ซึ่งพบว่าบริการหนึ่งครั้ง สาวๆจะได้เงินอยู่ที่ 2 ถึง 16 assess (ประมาณ 112 บาทจนถึง 1000 บาท) ยิ่งเป็นสาวชื่อดังหรือป๊อปในวงการ ยิ่งได้เงินแพงขึ้นไปอีก สมัยนั้นถือว่าเป็นเรทที่ใช้ได้ ออกจะได้เยอะด้วยซ้ำ (1)
อยากไปญี่ปุ่น คิดถึงใจจะขาด
ฝ่ายทอมในร่างเจ้าชาย พยายามอย่างมากในการปรับตัวทั้งในเรื่องมารยาทและการประพฤติตัวของเจ้าชาย แต่ท่าทางที่แปลกไปของเจ้าชายกำมะลอทำให้คนในวังคิดว่าเจ้าชายป่วย และความจำเสื่อม ทุกคนพยายามถามถึง ‘ผนึกลับแห่งอังกฤษ’ ที่หายไปกับเขา แต่เขาก็ตอบไม่ได้ (ผนึกถูกซ่อนไว้โดยเจ้าชายตัวจริง) (6)
สมัยนั้นมีกฎหมายว่าด้วยเรื่องของหญิงที่ท้องไม่มีพ่อคือ Bastardy Act of 1733 ชี้ว่าหญิงโสดที่ท้องต้องบอกให้ได้ว่าใครคือพ่อของเด็ก สาวๆมีทางเลือกไม่มาก ยิ่งด้วยสังคมมักจะทำให้พวกเธอรู้สึกอับอาย หลายคนจึงนำลูกไปฝากรพ. Foundling ที่ลอนดอน ที่รับเลี้ยงเด็กที่พ่อแม่ไม่พร้อมเลี้ยง (7)