ในศ.ที่ 18 ที่ชาวยุโรปล่าอาณานิคมในแถบมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิกใต้ พวกนั้นก็พบพืชและสัตว์แปลกๆมากมาย โดยหนึ่งในที่มีการบันทึกไว้คือเงือกแบบในภาพค่ะ โดย Samuel Fallours คือผู้วาด และเคลมว่าตัวเองจับเธอได้และพามาอยู่บ้าน เธออยู่ในแทงก์น้ำและไม่ยอมกินอะไรอยู่สี่วันจนเสียชีวิต (10)
นางเก่งและรอบคอบมากๆนะคะ เพราะไอ้ยาพิษ Aqua Tofana เนี่ยจะถูกบรรจุอยู่ในสองขวด ขวดแรกคือแป้งผงแต่งหน้า (สาวๆก็จะสามารถวางขวดไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งได้เลย ไม่มีใครสงสัย) กับขวดที่มีภาพของนักบุญนิโคลัสแห่งบาริแปะอยู่ เคลมว่ามันคือน้ำมันศักดิ์สิทธิ์นะ อย่าแตะต้อง55555 (8)
ผู้โดยสารชายชั้นหนึ่งหลายคนยังตื่นอยู่ในขณะที่เรือชนน้ำแข็ง ณ เวลา 5 ทุ่ม 40 นาทีค่ะ อยู่ในห้องสูบบุหรี่ นั่งเล่นไพ่บ้าง ซึ่งการจมลงไปพร้อมกับเรือถือเป็นเกียรติอันสูงสุดสำหรับพวกเขา จาก 175 คน มีผู้รอดเพียง 57 คนค่ะ หลายคนตัดสินใจเสียสละตัวเองหลังจากส่งครอบครัวลงเรือบดไปแล้ว (7)
วันนี้ส่งคลิปนี้ให้เซนเซคนญี่ปุ่นดู เซนเซชอบใหญ่เลย เป็นภาษาญี่ปุ่นโบราณแหละ บางคำก็คือส่งต่อมาจนถึงตอนนี้ บางคำไม่คุ้นเลย ยิ่งตอนพูดเป็นประโยคคือ เหมือนจะญี่ปุ่นแต่ก็ไม่ญี่ปุ่น 🤣 คลิปเต็มอยู่นี่ ใครสนใจตามไปฟังได้นะคะ น่าสนใจดีๆๆ >> youtu.be/4mWzhIcbQls
ทีนี้ ปัญหาของแฟชั่นยุค 2000s (หรือ Y2K ในปัจจุบัน) ในสมัยก่อนคืออะไร? แฟชั่นยุคนั้นออกแบบมาโดยคาดหวังให้สาวๆไม่มีพุง (พุงเรียบแบบกระดาน) ขาไม่เบียด สะโพกและแขนเล็ก แถมหลายทีก็ไม่มีขายในทุกไซส์ ทำให้คนที่มีสิทธิ์ซื้อใส่ได้คือคนที่ตัวเล็ก เข้ากับ beauty standard เท่านั้น (11)
ให้คนอเมริกัน 2066 คน จิ้มลงบนแผนที่เปล่าๆหลังจากโดนถามว่า “ประเทศยูเครนอยู่ไหน” จุดสีๆคือจุดที่แต่ละคนจิ้ม
ไว้วันหลังมาเล่าเป็นเธรดยาวๆค่ะ อันนี้ไปเจอคลิปน่าสนใจมาพอดีเลยแวะเอามาเล่าคร่าวๆเนอะ เธรดสุดท้ายนี้ ฝากภาพชุดยามเย็นสวยๆของสาวๆยุคนั้นให้ดูกันค่ะ 🤍
คนงานฝ่ายชายมีจำนวนมากกว่ามากๆๆๆ มีถึง 885 คนเลยค่ะ ทั้งแพทย์ สจ๊วต วิศวกร ช่างไฟฟ้า คนทำความสะอาดกระจก ฯลฯ แต่รอดมาได้เพียง 192 คนเท่านั้น ซึ่งคุณหมอสองคนบนเรือก็ไม่รอด ทีมวิศวกร 25 คนเสียชีวิตในขณะที่พยายามช่วยเรือ และตำแหน่งอื่นๆอีกมากที่เสียสละตัวเองเพื่อคนอื่น (11)
เครื่องเล่น journey to the center of the earth เป็นนั่งรถเข้าไปสำรวจใจกลางโลก แถวรอคิวจะเป็นฟิลเหมือนเรากำลังเดินเข้าไปในภูเขาไฟ ป้ายบอกคนใจไม่กล้าพอก็ไม่บอกทำมะดา นังว่าเป็นทางหนีกลับไปบนผิวโลกเว้ย!!!
คนในราชวงศ์ไม่สามารถแต่งงานกับคนจากนิกายโรมันคาทอลิคได้ กฎนี้บังคับใช้จนถึงปี 2013 ค่ะ ซึ่งกฎนี้มาจากความตึงเครียดระหว่าง Anglican Church และ Catholic Church และทางฝั่งราชวงศ์อังกฤษนับถือ Anglican มานาน ทำให้มีกฎแบบนี้ แต่ก็ถูกยกเลิกไปแล้ว (12)
อย่างที่หลายคนน่าจะรู้กัน ด้วยความที่ช่วงนั้นของญี่ปุ่นจะมีการแบ่งชนชั้นกันเยอะมาก แม้แต่สำหรับโสเภณีเองก็ตาม ซึ่งสำหรับโสเภณีทั่วไปคือ ‘ยูโจะ (遊女)’ ที่จะทำงานที่ย่านโคมแดง (ยูคาคุ/遊廓) ส่วนโสเภณีชั้นสูงคือ ‘โออิรัน (花魁)’ ซึ่งย่อมาจาก ‘พี่สาวโตสุดแห่งสถานที่นี้’ (7)
รวมไปถึงไอค่อนของแฟชั่นทั่วไปในยุค 2000s ที่นอกจากหนังเรื่อง Clueless, Mean Girls หรือบุคคลอย่าง Britney Spears หรือ Paris Hilton แล้ว ก็ยังมีวงเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง Blaque และ Destiny’s Child ที่นำเทรน Y2K (ในปัจจุบัน) อย่าง กางเกงเอวต่ำหรือเสื้อซับในนีออนอีกด้วย (9)
พระมีความสัมพันธ์ที่เรียกว่า ‘นันโชคุ (男色)’ (หรือจะอ่านว่าดันโชคุก็ได้) ซึ่งสื่อถึงการมีอะไรกับผู้ช่วยพระ หรือผู้ที่เพิ่งบวช ซึ่งจะหมายถึงเด็กหนุ่มค่ะ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ก็ยังสามารถมีความสัมพันธ์แบบเปิดกับผู้หญิงได้ (เซ็กส์ระหว่างพระกับผู้หญิงถูกห้ามแบบรุนแรงกว่าอีก) (1)
เมื่อวานประทับใจพนักงานดิสนีย์ซีโซนทอยสตอรี่มากๆ นี่ไปเล่นเครื่องเล่นที่เป็นเกมยิงเป้า แล้วคะแนนออกมาว่าได้รางวัลเป็นกระรอก (แบบในภาพ) เลยอยากรู้ว่าคนได้คะแนนเยอะที่หนึ่งได้ตัวอะไร ก็ถามพนง.ตอนกำลังเดินออก ชีไม่รู้ แต่ชีหาคำตอบให้แบบสุดฝีมือมาก ถึงขั้นวอร์ไปถามคนอื่น เดินถามทั่ว
บ้างเชื่อว่าเป็นปลาปีศาจและเป็นศัตรูของพระเจ้าค่ะ จริงๆแล้วเจ้า Jenny Hanivers คือสเกต (ตระกูลปลากระเบน) ค่ะ และว่ากันว่าเจ้าตัวนี้ถูกนำมาดัดแปลงให้คล้ายกับเงือกและปลาปีศาจเท่านั้น เคยมีคนกล่าวไว้ด้วยว่า ‘เงือกก็เป็นแค่ปลากระเบนที่ร่างกายไม่สมประกอบเท่านั้น’ (7)
ส่วนมากที่เห็นเงือกกันคือนักเดินเรือ เห็นแวบๆ แต่ก็มีเคสที่เห็นเต็มตาโดยไม่ใช่นักเดินเรือด้วยนะ ในปี 1603 ที่เวลส์ ชาวนาชื่อโธมัส เรย์โนลด์ เคลมว่าตัวเองเห็นเงือก และไปลากชาวบ้านคนอื่นมาดูด้วยกัน โดยเงือกคนนี้ปรากฎตัวนานกว่า 3 ชั่วโมง เป็นที่พูดถึงจนมีการวาดภาพประกอบขึ้นมาเลย (9)
และไฮไลท์สำคัญที่เราเพิ่งรู้ว่ามันมีอยู่จริง คือ “ถ้ำของแอเรียล” ค่ะ!! 😭😭 ใช่แล้ว เราได้ไปเที่ยวในถ้ำของแอเรียลจริงๆเลย มีรูปปั้นเจ้าชายเอริค มีแม้แต่ภาพวาดที่โผล่ในหนัง ของรักของหวงแอเรียล แถมยังมีเซบาสเตียนอยู่ในถ้ำด้วย รายละเอียดเยอะมาก ฟินที่สุด!! twitter.com/i/web/status/1…
โชตะคือช่างไม้ (the carpenter) เหมือนกันที่นิสัยโฟกัสกับงานมากกว่าชีวิตตัวเอง ทั้งยังเป็นคนซื่อสัตย์ ภักดี เชื่อในคำพูดของวอลรัส (ที่จะโยงเป็นคารุเบะในเธรดถัดไป) เสมอ (5)
เพิ่งรู้ว่ากาแฟ dirty ที่เราดื่มกันมีต้นกำเนิดมาจากญี่ปุ่น!! ได้แวะไปลองออริจินัลเดอร์ตี้ที่ shimokitazawa มา บอกเลยว่าคนละแนวกับที่เคยรู้จักเลย นมที่เขาใช้จะเป็นนมจืดแต่มันๆและนัวมากก เน้นไปที่กลิ่นกาแฟเต็มๆ แต่ถ้าใครชินกับแบบไทยก็น่าจะไม่ชินกับเดอร์ตี้เวอร์นี้55555
ก่อนอื่น Finishing School กับ Charm School ต่างกันยังไง? สำหรับ Charm School นั้น สาวๆคนไหนก็ไปเรียนได้ไม่ว่าจะยากดีมีจน และคอร์สเรียนจะระยะสั้น ส่วน Finishing School จะเป็นคอร์สระยะยาว เป็นโรงเรียนประจำ และคนที่เข้าเรียนได้มีแต่หญิงจากชนชั้นสูงเท่านั้น (1)
อัตราการเสียชีวิตของเด็กสมัยยุคกลางมีเยอะมาก ประมาณไว้ว่า 25% ของเด็กทารกอยู่ไม่ถึงวันเกิดครบรอบ 1 ขวบของตัวเอง อีก 12 % เสียชีวิตขณะอายุเพียง 1-4 ขวบเท่านั้น การถ่ายทอดเด็กในภาพวาดให้ออกมาแบบนี้อาจสื่อถึงความหวังของผู้ปกครองที่อยากให้ลูกของตนแข็งแรง มีชีวิตรอด (5)
เจ้าชายสาบานว่าเมื่อคืนสู่บัลลังก์ ตนจะปกครองโดยความเมตตา แต่เมื่อเจ้าชายประกาศฐานะตัวเองกับกลุ่มโจร นอกจากจะไม่มีใครเชื่อ ยังคิดว่าเอ็ดวาร์ดเป็นบ้า และจัดพิธีราชาภิเษกแบบล้อเลียนให้ด้วย เอ็ดวาร์ดผ่านการผจญภัยมากมาย จนสุดท้ายก็ได้ปรากฎตัวในงานราชาภิเษกของทอมในคราบเจ้าชาย (8)
มีหมอเดินทางมารักษาเธอจำนวนมาก แต่ไม่มีใครทำสำเร็จ มีทฤษฎีวิเคราะห์เกี่ยวกับอาการของเธอมากมาย บ้างว่าเธออยู่ในโหมดจำศีล บ้างว่าเธอมีอาการผิดปกติทางจิตบางอย่าง แต่ด้วยความรู้ด้านจิตเวชยังน้อยก็เลยไม่สามารถวินิจฉัยใดๆได้ (6)
2) ชั้นกลาง: เหมือนฟรีแลนซ์ สาวๆจะมีอพาร์ทเมนท์ของตัวเอง หรือบางทีก็เดินตามถนน สามารถเลือกลูกค้าได้ และไม่ต้องเสียส่วนแบ่งให้มาดาม แต่ก็จะไม่ได้รับการคุ้มครองจากซ่อง (อาจโดนลวนลามหรือฝืนใจ) หรือการตรวจสุขภาพต่างๆ ทำให้สาวๆชั้นนี้มักติดโรค หรือเจอลูกค้าแปลกๆ ซึ่งสาวๆในชั้นนี้- (6)
ลูกนั้นจะหนักมากจนทำให้เหยื่อขยับไม่ได้ และเมื่อนั้นแหละที่เธอจะโจมตีเหยื่อด้วยการกินเลือดทั้งหมดในตัว เพราะอาหารหลักของเธอคือเลือดมนุษย์ ในบางตำนาน เธอก็ใช้ผมของตัวเองรัดคอเหยื่อจนเสียชีวิตด้วย (4)