มาแจกแจงความต่างให้อ่านกันดีกว่าค่ะ 1) แวมไพร์เป็นผีดิบดูดเลือด แต่แดร็คคูล่าคือตัวละครในนิยายเรื่อง ‘แดร็คคูล่า’ ที่มีชีวิต เป็นคน 2) แวมไพร์ต้องดูดเลือดเท่านั้นถึงจะมีชีวิตรอดได้ เลือดของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมก็ได้ แต่แดร็คคูล่าดูดเลือดคนเท่านั้น และไม่กินเลือดก็อยู่ได้ (7)
รักร้านข้าวกล่องแถวสถานีใกล้บ้านมาก ต้มมันฝรั่งลูกใหญ่เบอเริ่มกินได้สองมื้อแค่ 500 เยนเองอะ แล้วเขาต้มจนน้ำซึมเข้าเนื้อมันฝรั่งจนหวานกำลังดีเลย ㅜㅡㅜ ข้าวกล่องอื่นๆก็ใหญ่มาก กินไม่หมด แต่ทับจัยเมนูมันฝรั่งสุด
หลักๆก็ประมาณนี้ค่ะ จริงๆเทรนการแต่งหน้าหรือความสวยของคนสมัยก่อนนี่เป็น deadly trend อยู่เยอะมากๆ อันตรายสุดๆเลย ไว้จะมาเล่าให้อ่านอีกนะคะ :-) ขอบคุณที่แวะมาอ่านน้า เจอกันเธรดหน้าค่ะ 🤍🤍
แผนที่เครือข่ายรถไฟรอบโลก
ผู้หญิงไม่ได้มีสิทธิในชีวิตของตัวเองเท่าที่พวกเธอต้องการเลย หนทางในการใช้ชีวิตส่วนมากหลักๆมีแค่สองทาง คือแต่งงาน หรือไม่ก็บวชชี นี่คือการสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง ซึ่งสาวคนไหนไม่อยากมีลูกส่วนมากก็จะไปเป็นแม่ชีกัน (1)
เป็นยุคที่ผู้หญิงเริ่มต้องการการแต่งตัวที่เป็นกฎเป็นเกณฑ์น้อยลง และผู้หญิงเริ่มมีความคิดเป็นอิสระ พวกเธอเริ่มออกกำลังกาย เล่นกีฬา เรียนมหาลัย เข้าทำงาน ฯลฯ จริงๆช่วงนี้เป็นช่วงที่ชุดพร้อมใส่เริ่มมีบทบาทแล้วนะ
แต่จริงๆชอบการแปลท่อน “สะบัดครีบคงไม่ไกลเกินวา” มากๆ ที่แปลมาจาก Flippin’ your fins you won’t get too far แบบการเคลื่อนที่ด้วยครีบมันไปได้ไม่ไกล ควรจะเป็นขาที่โดดได้เต้นได้ แค่สะบัดครีบคงเขยิบตัวได้ไม่เท่าไหร่
ที่บางพื้นที่ในอังกฤษ ผู้คนจะตรวจสอบ ‘หัวใจ’ ของศพว่ามีเลือดอยู่ไหม ถ้ามีล่ะก็ เป็นแวมไพร์แน่นอน วิธีคือนำหัวใจนั้นไปเผาค่ะ และสมาชิกในครอบครัวจะสูดดมควันเข้าไปเพื่อป้องกันโรค (บางครอบครัวกินเถ้าเข้าไปก็มี) ส่วนในยุโรป จะขุดศพขึ้นมาเผาบ้าง แทงทะลุหัวใจบ้าง (6)
สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอนคือ ‘การไว้ทุกข์ 10 วัน’ ซึ่งมีผลใช้ทั่วอังกฤษ ซึ่งในช่วงนี้ นั่นแหละค่ะ คนในประเทศก็จะมีการร่วมไว้อาลัย (7)
ซึ่งทุกตำแหน่งตั้งแต่หน้าที่คนรับโทรศัพท์ไปจนถึงพ่อบ้าน จะต้องถูกเทรนอย่างหนักเพื่อจะได้บริการทุกระดับประทับใจที่สุด (11)
ซึ่งจะดูว่าประเทศไหนเรียกชาหรือที/เท ก็ดูว่าได้รับชามาจากทางไหน บนบกหรือทางน้ำ เจ๋งนะ แต่ก็มีบางภาษาที่มีคำเรียกชาเป็นของตัวเอง สันนิษฐานว่าเพราะชาโตในประเทศเหล่านั้นเองโดยคนในประเทศ เช่น ภาษาพม่าเรียกใบชาว่า lakphak ชาวรวันดาเรียกว่า icyayi ฯลฯ (2)
การเดินเข้าห้องอาหารจะเดินเป็นคู่ ถ้าแรงค์ของทุกคนที่นั่นเท่ากัน คนที่เข้าไปก่อนคือคนที่แต่งงานแล้ว และจะเรียงตามอายุด้วย คนที่แก่กว่าจะได้เข้าก่อน โดยที่นั่งหัวโต๊ะจะเป็นของเจ้าบ้านผู้หญิง และฝั่งตรงข้ามเป็นเจ้าบ้านผู้ชาย (9)
ในอาณาจักรไบเซนไทน์ จักรพรรดินีให้กำเนิดบุตรใน ‘ห้องสีม่วง’ (Purple Chamber) และผู้ที่เกิดในห้องนั้นจะถูกกล่าวขานว่า ‘เกิดจากสีม่วง’ (Born to the purple) เพื่อชี้ว่าผู้นั้นเป็นเจ้าแต่กำเนิด ต่างจากเจ้าคนอื่นที่แย่งชิงหรือชนะตำแหน่งมาได้ (4)
นี่สินะกิจกรรมหน้าร้อนของคนญี่ปุ่น ไม่มีอะไรดีกว่าการแคมป์ปิ้ง ทำบาร์บีคิว เล่นดอกไม้ไฟ แล้วก็นั่งเล่นเกมกับเพื่อนจนเช้าแล้ว 🤍
หญิงขายบริการมักจะถูกเรียกจากสื่อว่าเป็น fallen women เพราะมีความเชื่อที่ว่าสาวๆในสังคมคงไม่เลือกจะทำอาชีพนี้เพราะผิดประเพณี แต่มันถูกกฎหมายและถูกสนับสนุนในบางครั้ง เพราะเชื่อว่าผู้ชายต้องปลดปล่อยความต้องการทางเพศที่เก็บกดจากชีวิตประจำวัน และช่วยให้ผู้หญิงสร้างรายได้ให้ตัวเอง (1)
🍇 องุ่น: มีผลไม้มากมายอยู่บนไททานิค แต่ต้องพูดถึงองุ่น เพราะมันอยู่ในทั้งเมนูอาหารเช้าของผู้โดยสารชั้นหนึ่ง และอาหารกลางวัน/เย็นของชั้นสอง แต่ความต่างคือ ผู้โดยสารชั้นสองจะต้องเด็กเม็ดองุ่นเอง ในขณะที่ชั้นหนึ่งจะได้รับกรรไกรสำหรับตัดเม็ดออกจากพวงโดยเฉพาะ (2)
พี่สาวของเงือกขอแลกผมของพวกเธอกับแม่มดทะเล เพื่อให้ได้มีดมา และให้เงือกสาวใช้มีดนั้นฆ่าเจ้าชายซะ เพราะเมื่อใช้เลือดของเจ้าชายชโลมขาของเธอ เธอจะได้หางกลับมาและกลับมาอยู่ใต้ทะเลได้ แต่สุดท้ายเงือกน้อยก็ทำใจฆ่าเจ้าชายไม่ลงอยู่ดีค่ะ น้องเป็นคนจิตใจดีมากเลย (2)
วันนี้ท้องฟ้าที่หัวหินสวยมากเลยเอามาฝาก ขอให้มีค่ำคืนที่ดีและพรุ่งนี้ที่ดีกว่าวันนี้นะคะ :-)
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการหาคู่จะมี ‘ฤดู’ ของมันอยู่ค่ะ ซึ่งฤดูนี้เป็นช่วงที่คนสำคัญจากทั่วทุกสารทิศมากระจุกตัวกันอยู่ในลอนดอน เราเรียกมันว่า ‘ตลาดงานแต่ง’ (Marriage Mart) ฤดูนี้จะอำนวยให้บรรดาลูกสาวลูกชายของชนชั้นสูงได้พบปะกันผ่านงานเลี้ยง มื้ออาหารค่ำต่างๆ (1)
อีกอย่างนึงก็คือคนในยุคนั้นฟันไม่สวยค่ะ อย่างว่า เรื่องของทันตกรรมมันก็ยังไม่ได้ก้าวหน้าเหมือนปัจจุบัน ถ้าเป็นภาพวาดก็ยังจะปกปิดเรื่องฟันได้ แต่ภาพถ่ายมันจะโชว์ทุกอย่าง คนก็เลยนิยมปิดปากกันเวลาโดนถ่ายภาพค่ะ (3)
ลุคมื้อเย็นจะแฟนซีกว่าลุคตอนกลางวัน ถ้ามื้อเย็นมีแค่คนในบ้าน อาหารก็จะไม่หรูหรามาก มีอาหารแค่คอร์สเดียว และเป็นเวลาที่สาวๆจะได้เรียนมารยาทบนโต๊ะอาหารจากคุณแม่ ส่วนถ้ามื้อเย็นมีแขกมาด้วย อาหารจะหรูขึ้นและก็จะมีพิธีรีตรองเพิ่มขึ้นมาหน่อย (8)
ปกติถ้าเทพเจ้าลงไปในน้ำ ตามตำนานของชาว Syrian จะเชื่อว่าเทพเจ้าจะกลายเป็นปลา แต่อะธาร์กาธิสนั้นงดงามมากเกินกว่าที่จะทำให้กลายเป็นปลาได้ แบบสวยจนมนตร์เปลี่ยนเทพให้เป็นปลายังทำใจเปลี่ยนร่างเธอไม่ได้ การเปลี่ยนร่างจึงหยุดอยู่แค่ท่อนล่าง ทำให้เธอกลายเป็นครึ่งคนครึ่งปลานั่นเอง (8)
พระนางห่วงความสวยและภาพลักษณ์มากๆ ถึงขั้นที่ว่าในอังกฤษยุคนั้นมีกฎหมายห้ามมีภาพวาดที่ควีนดูไม่ดีเลยเด็ดขาด จิตรกรต้องวาดพระนางที่ไม่มีริ้วรอย แม้จะเข้าสู่วัยแก่แล้วก็ตาม เพราะงั้นทุกภาพวาดที่เราเห็นกันจะเป็นภาพของพระนางเวอร์ชั่นที่อยากให้เราเห็น (5)
ส่วนผสมของตะกั่วผสมน้ำส้มสายชูเรียกว่า Ceruse ค่ะ ทาลงทั้งหน้าและคอเพราะเชื่อว่าจะทำให้ผิวเหมือนเครื่องเคลือบ แต่เพราะมันท็อกซิก มันก็ยิ่งทำให้หน้าของนางโดนกัดกร่อน แต่แทนที่จะหยุด นางกลับแก้ปัญหาด้วยการยิ่งทามันหนักกว่าเดิมเพื่อปิดรอย ว่ากันว่านางพอกหน้าหนาเป็นนิ้วเลยค่ะ (3)
มาถึงการทำความสะอาดหน้า สมัยนั้นไม่ได้เช็ดหน้าทุกวันแบบที่เราทำกันนะคะ พอแต่งหน้าแล้ว พระนางก็ทิ้งเอาไว้เป็นอาทิตย์ (คิดดูว่าพิษจะซึมเยอะขนาดไหน) แล้วพอจะเช็ดออก สิ่งที่ใช้ก็ยังมีส่วนผสมของปรอทอีก เพราะเชื่อว่าปรอทจะทำให้ผิวนุ่ม แต่เพราะจริงๆแล้วมันลอกผิวออกไปเลยต่างหาก (4)