ช่วงเดือนท้ายๆของชีวิต พระนางไม่ยอมให้แพทย์ดูอาการของตัวเอง คนใกล้ชิดบอกว่าเพราะนางกำลังจมอยู่ในห้วงความเศร้าหนัก ถึงอย่างนั้นนางก็ไม่ยอมพัก เพราะนางเชื่อว่าตัวเองจะลุกไม่ได้อีกเลยถ้านอนลง นางจึงยืนนานกว่า 15 ชั่วโมงโดยที่รอบๆมีหมอนกองไว้รอง กันนางเป็นลมล้มพับ (7)
แป้งสีขาวจะผสมมาจากสูตรที่ค่อนข้างท็อกซิก มีสูตรนึงผสมโลหะเข้ากับน้ำส้มสายชู (ยุโรปสมัยก่อนนิยมใช้โลหะในเครื่องสำอางจริงๆ เพราะเชื่อว่ามันทำให้ขาว) แล้วทิ้งไว้ในปุ๋ยคอกประมาณ 3 วีค โลหะจึงนิ่มลงจนสามารถบดออกมาให้เป็นผงแป้งได้ แล้วค่อยผสมกับน้ำ นำไปตากให้แห้งและผสมกับน้ำหอม (2)
อีกอันนึงที่หลายคนน่าจะเคยได้ยินนั่นคือ ‘คำสาป’ ซึ่งมันเริ่มมาจากการค้นพบสุสานของคิงตุตันคามุ ที่หลังจากการค้นพบไม่กี่เดือน ก็มีคนในทีมเสียชีวิตจากโรคเกี่ยวกับเลือดที่มาจากยุง หลังจากนั้นคนที่เกี่ยวข้องก็เสียชีวิตกันต่อมาเรื่อยๆ (8)
ไว้จะมาขยายเรื่องฟาร์มเด็ก และเรื่องของฆาตรกรต่อเนื่องในยุควิคตอเรียนให้อ่านกันอีกนะคะ! ขอบคุณที่แวะมาอ่านเสมอมาค่ะ ก่อนจากกันขายของตามเคย แวะมาถามคำถามเกี่ยวกับปวศ.ได้ในไอจี instagram.com/mimie.starr นะคะ (ดูย้อนหลังได้ในสตอรี่อรค.เล่าเรื่องเลย) เจอกันวันศุกร์ค่ะ! 🤍
บันทึกจากชาวไอร์แลนด์จะถูกบันทึกโดยนักบวช ซึ่งพูดถึงความล้มเหลวในการปลูกพืช และปัญหา ‘ขาดแคลนขนมปัง’ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของคนในยุคนั้น (นักบวชไอริชเชื่อในการเรียนรู้ เพราะงั้นเค้าจะทำการบันทึกเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย) (6)
เริ่มแรกเลยคือภาพของพระเยซูวัยเด็ก ทุกภาพจะหน้าเหมือนชายโตเต็มวัยหมด สิ่งนี้มาจากความเชื่อของศาสนาคริสต์ค่ะ ในสมัยนั้นคือเชื่อว่าพระคริสต์อยู่ในรูปร่างที่สมบูรณ์ และเป็นหนุ่มตลอดไม่เปลี่ยนแปลง จึงต้องวาดให้ดูเป็นผู้ใหญ่แม้จะเป็นภาพวาดวัยเด็กก็ตาม (1)
ชาวบ้านสมัยก่อนสามารถใส่ได้แค่สีขาว หรือสีเอิร์ธโทนอย่างน้ำตาลและเขียวเท่านั้น เป็นผลมาจากกฎหมายที่กำหนดว่าใครใส่อะไรได้ไม่ได้บ้าง อ้างว่าเพื่อป้องกันการซื้อของเพื่อการอวดรวย (conspicuous consumption) แต่จริงๆก็เพื่อแบ่งแยกชนชั้นออกจากกัน และสงวนราคาให้พวกเขาซื้อกันได้เอง (6)
ยิ่งในช่วงบั้นปลายของชีวิต พระนางสู้อย่างหนักเลยที่จะปกปิดร่องรอยความแก่ แต่ในปี 1599 เอิร์ลแห่งเอสเซ็กซ์ได้พบเห็นสภาพของพระนางตอนไม่ได้ใส่วิกผม ไม่ได้แต่งหน้า อยู่ในชุดนอน กล่าวว่าเอิร์ลท่านนั้นช็อคมากที่พบว่าจริงๆแล้วพระนางหัวล้านเกือบหมด และมีริ้วรอยบนใบหน้า (6)
ถ้าทวิตขิดจริงคงเสียใจมากก เป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้เกิดแอเรียลควีนขึ้นมาเลย ขอบคุณทุกคนเสมอที่คอยสนับสนุนอ่านเธรดของเรา ยังไงอาจทำเพจในเฟส หรือย้ายถิ่นฐานก็จะมาบอกนะคะ ระหว่างนี้มีอีก 2 ช่องทางการติดตามคือไอจีกับตต. ตามมาได้น้า • instagram.com/mimie.starrtiktok.com/@arielqueenss?…
บทสนทนาบนโต๊ะอาหารจะถูกวางไว้แล้ว ในช่วงคอร์สแรกของมื้อ ควีนจะคุยกับคนที่นั่งอยู่ทางขวาของตัวเอง เพราะลำดับที่นั่งนั้นถือเป็นของแขกผู้มีเกียรติ ส่วนคอร์สที่สองก็จะคุยกับคนที่นั่งทางด้านซ้าย และคนในราชวงศ์ก็ทำตามกฎนี้เช่นกัน เพื่อให้บทสนทนาบนโต๊ะอาหารไหลลื่น (9)
ทีมงานอาจไม่ได้ตั้งใจ แต่สีประจำตัวของอิลาสติเกิร์ลคือแดง ส่วนของมิสเตอร์อินเครดิเบิลคือฟ้า ผสมกันออกมาได้เป็นสีม่วง ซึ่งก็กลายมาเป็นชื่อของลูกสาวคนแรกอย่างน้องไวโอเล็ตล่ะ 🥺💜 (แต่ Violet อาจมาจากคำว่า shrinking violet ที่หมายถึงคนที่ไม่อยากเป็นจุดสนใจ เหมือนที่เธอเป็นคนขี้อาย) twitter.com/HelloMeToday/s…
รายละเอียดเกี่ยวกับโปรโตคอลการเสียชีวิตของควีนส่วนมากจะอ้างอิงจากหากนางเสียชีวิตในลอนดอน แต่ก็มีแพลนเผื่อไว้สำหรับทุกสถานการณ์ เช่น ถ้านางเสียที่ต่างประเทศ ก็จะมีเครื่องบินเจ็ทหลวงนำโลงศพและสัปเหร่อหลวง (5)
สีม่วงยังมีความเกี่ยวข้องกับมูฟเม้นทางสังคมอีกด้วย อย่างในต้นศ.ที่ 20 สีม่วง เขียว และขาว เป็นสัญลักษณ์ของ Women's Suffrage movement ที่ต่อสู้เพื่อสิทธิในการโหวตของผู้หญิง และประสบความสำเร็จ (10)
ในหลายศตวรรษที่ผ่านมา ผู้คนพยายามที่จะเอาน้ำออกและเข้าไปสำรวจข้างใน แต่ยังไม่เป็นผลสำเร็จ เชื่อว่าอุโมงค์นั้นลึกกว่า 30 เมตร และก็ลือกันไปต่างๆนานาว่ามีอะไรอยู่ข้างใน ทั้งสมบัติของมารี อ็องตัวเนตต์ หรือหลักฐานว่า Sir Francis Bacon เป็นผู้ประพันธ์ผลงานของเช็คสเปียร์ (7)
หลังจากหลับไป 32 ปี และอายุได้ 47 ปี คาโรลินาก็ฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล เมื่อเธอมองตัวเองในกระจก เธอจำแทบไม่ได้เลยว่านั่นคือเธอ คาโรลินาได้เข้ารับการทดสองทางจิตและทางกาย ผลคือเธอไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงใน 32 ปีที่ผ่านมา ตื่นมาด้วยจิตสำนึกของเด็กอายุ 14 ปี (9)
เพราะแบบนั้น คนที่จะสามารถซื้อสีม่วงได้ก็มีแต่ราชาและจักรพรรดิเท่านั้น มันจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของคนชนชั้นสูงไปโดยปริยาย สำหรับผู้ปกครองในแถบเมดิเตอร์เนียนอย่างโรม อียิปต์ หรือเปอร์เซีย สีนี้คือตัวแทนทางจิตวิญญาณ ว่าพวกเขาสืบเชื้อสายมาจากพระเจ้า (3)
เกร็ดเล็กๆของโสเภณีชั้นสูงสมัยอียิปต์ด้วย Hetaira ถึงจะเป็นโสเภณี แต่นอกจากเรื่องทางเพศ พวกเธอยังเป็นศิลปิน ผู้ให้ความสนุก และช่างพูดช่างจามากๆ ซึ่งพวกเธอได้รับการศึกษาชั้นสูง และสามารถเข้าร่วมงานต่างๆได้ ถ้าใครสนใจ เธรดหน้าจะเล่าเรื่องโสเภณีในอียิปต์โบราณให้อ่านเพิ่มนะคะ (4)
สิ่งที่พวกชาวบ้านที่เชื่อว่าญาติที่เสียไปเป็นภัยทำก็คือ ไปขุดหลุมศพนำศพขึ้นมาและจัดการกับร่างนั้น ว่าว่าเป็นการ ‘กำจัดแวมไพร์อีกครั้ง’ โดยแต่ละภูมิภาคมีวิธีจัดการต่างกันไปค่ะ ที่แมสซาชูเซตและเมนน์ คนก็จะแค่พลิกศพให้นอนคว่ำและฝังใหม่ (5)
สถานที่ที่คนรวยนิยมไปเมากันไม่ใช่ทีผับบาร์ แต่เป็น the Royal College of Surgeons ค่ะ แต่โชว์แกะศพเริ่มครั้งแรกในปี 1834 ที่ London anthropology museum  ซึ่งตั๋วขายหมดเกลี้ยง มัมมี่หญิงถูกวางในเครื่องมือที่ทำให้เหมือนเธอกำลังเต้นและยังมีชีวิตอยู่ ขณะค่อยๆแกะผ้าออกจากตัว (1)
เหมือนกับบรรพบุรุษของนาง คนทั้งประเทศสามารถให้คนทั้งประเทศมาเห็นได้ จนกว่าจะถึงวันงานศพ ร่างของนางจะอยู่ที่ โถง Westminster ซึ่งเปิดให้สาธารณชนเข้าชม ซึ่งจะเปิดให้บริการ 23 ชั่วโมงในหนึ่งวัน (8)
❗️เนื้อหาอาจโหดร้าย เกี่ยวกับการทรมาน❗️ เพื่อให้ทุกอย่างไวขึ้น เธอจึงใช้น้ำเชื่อมผสมฝิ่น ซึ่งทำให้เด็กเงียบและตายไว จนตัวเธอเองก็พลอยติดฝิ่นไปด้วย แล้วเธอก็พบว่ามันยังไม่เร็วทันใจ จึงใช้วิธีรัดคอเด็กด้วยการพันเทปรอบคอให้เสียชีวิตคาที่ (4)
disclaimer: นี่เป็นการวิเคราะห์ล้วนๆนะคะ จริงหรือไม่ไม่มีใครทราบ (ยกเว้นชาวเงือกในทวิต อย่าบอกใครนะ จุ๊ๆ 🤫) อ่านเอาเพลินๆ ทำความรู้จักชีวิตสัตว์ใต้ทะเลกันดีกว่า!
ที่นี่นะคะ รีวิวเต็มๆจะตามมาในไอจีและยูทูป555555 เผื่อใครอยากไปตาม แปะโลไว้ให้ก่อน ขอเวลาตัดคลิป 🤣 秋葉原 MOGRA +81 3-6206-8338 goo.gl/maps/MaK3zbriB…
❗️เนื้อหาอาจโหดร้าย เกี่ยวกับการทรมาน❗️ เธอไม่ได้คิดจะดูแลเด็กอยู่แล้ว แค่อยากได้เงินเท่านั้น แรกๆเธอปล่อยให้เด็กหิวตาย ละเธอก็คิดว่าวิธีนี้มันช้าไป เพราะยิ่งเด็กตายไว เธอก็จะไปหาเด็กใหม่ไว เท่ากับได้เงินไวขึ้นและเพิ่มขึ้นด้วย (3)
พวกผมปลอมหรือวิกผมล่ะ? จริงๆก็ใส่มาตั้งแต่อียิปต์โบราณ และนิยมใส่วิกขาวในศ.ที่ 18 แล้ว แต่วิกแบบที่ดูธรรมชาติมาบูมช่วงปลาย 1800s ค่ะ ในยุควิคตอเรียน การมีผมลอนเล็กๆตกแต่งกรอบใบหน้าสักหน่อยเวลารวบผมคือกรุบกริบ ซึ่งวิกยุคนั้นก็ทำมาจากผมจริงๆของคนนี่แหละ (5)