ในสแตนดาร์ดสมัยนั้น การที่ชายคนนึงพยายามจะแต่งงานกับคนที่เป็นพี่หรือน้องของหญิงที่ตัวเองมีความสัมพันธ์ด้วย จะนับว่าเป็นอินเซสหรือการร่วมประเวณีในสายเลือดก็ได้ เฮนรีถึงกับไปใช้ความช่วยเหลือจากองค์พระสันตะปาปาเลยทีเดียว (2)
เริ่มแรกคือ เงือกเข้าห้องน้ำกันยังไง? ต้องบอกเลยว่าเงือกคงไม่สามารถสร้างห้องน้ำที่มีระบบประปาซับซ้อนได้แบบในโลกมนุษย์นะคะ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องน่าห่วง เพราะมหาสมุทรที่เราอยู่นั้นสุดแสนอัศจรรย์ใจ มันสามารถทำความสะอาดตัวเองได้ค่ะ 😮 (1)
ประโยคเริ่มต้นของเพลงชาติในประเทศแถบยุโรป
(มีสปอยล์ Alice in Borderland ซีซั่น1) . ตัวช่างไม้มีซีนที่แก้เผ็ดการกระทำของวอลรัส ทำให้วอลรัสรู้ถึงข้อผิดพลาดของตัวเอง ก็เหมือนกับอิทธิพลของโชตะที่มีต่อคารุเบะในเกมหมาป่ากับแกะ ทำให้คารุเบะเห็นถึงความละโมบในการเอาชีวิตรอดของตัวเอง (6)
โรคนี่ยังทำให้เกิดแนวความคิดต่อต้านชาวยิว (Anti-Semitism) ด้วยค่ะ มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ชอบอะไรที่ตัวเองหาคำตอบไม่ได้ ในยุคนั้นมีความเชื่อต่างๆนานาว่าโรคมาจากไหน มีคนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าชาวยิวเป็นต้นเหตุค่ะ และแนวคิดนี้มีอยู่มาจนถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 เลย ยาวนานมากๆ (7)
ถ้าใครอยากรู้จัก Dollar Princesses ล่ะก็ แนะนำซีรีส์ Downton Abbey เลยค่ะ มีตัวละครที่เป็นดอลลาร์ปริ้นเซสอยู่ ซึ่งผู้สร้างซีรีส์บอกว่าได้แรงบันดาลใจตัวละครนี้มาจากเรื่องของดอลลาร์ปริ้นเซสเลย ซึ่งในซีรีส์ เงินของตัวละครคนนี้ก็ได้ช่วย Downton Abbey ไว้ (6)
อีกสิ่งนึงที่เปลี่ยนและมีผลกับศิลปะคือมุมมองของคนที่มีต่อเด็กค่ะ ในยุคเรเนซองส์ไม่ได้มองเด็กเป็นผู้ใหญ่ตัวเล็กแล้ว แต่เริ่มให้ค่าความบริสุทธิ์ เด็กไม่ได้ถูกมองเป็นสิ่งบิดเบี้ยวที่ต้องได้รับการแก้ไข แต่ถูกมองเป็นสิ่งที่ไร้พิษภัยที่ไม่รู้จักบาป (11)
ในขณะที่ในยุควิคตอเรียน จะมีสาวๆกว่าร้อยคนในแต่ละวันต่อคิวอยู่บนรถม้าหน้าพระราชวัง St.James (Buckingham ในปัจจุบัน) ถือช่อดอกไม้ และแต่งตัวในชุดเจ้าสาว แต่ชุดแต่งงานในยุควิคตอเรียนแรกๆจะเรียบง่าย และมีหลายสี เป็นชุดที่สามารถใส่ซ้ำได้ในโอกาสอื่น (3)
อย่างที่หลายคนน่าจะรู้กัน ด้วยความที่ช่วงนั้นของญี่ปุ่นจะมีการแบ่งชนชั้นกันเยอะมาก แม้แต่สำหรับโสเภณีเองก็ตาม ซึ่งสำหรับโสเภณีทั่วไปคือ ‘ยูโจะ (遊女)’ ที่จะทำงานที่ย่านโคมแดง (ยูคาคุ/遊廓) ส่วนโสเภณีชั้นสูงคือ ‘โออิรัน (花魁)’ ซึ่งย่อมาจาก ‘พี่สาวโตสุดแห่งสถานที่นี้’ (7)
• จุดจบของกำแพงเบอร์ลินในปี 1989 จะว่าว่าเกิดอย่างไม่ตั้งใจก็ได้ Guenter Schabowski (ผู้แทนจากฝั่งเยอรมันตะวันออก) แถลงข่าวพูดถึงความเป็นไปได้ที่จะอนุญาตให้เดินทางผ่านกำแพงไปมาได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ก่อนแถลง เขาได้โน้ตมาจากพรรค Politburo ของเขา อัพเดทสิ่งที่เขาจะต้องพูด (11)
การเข้าร่วมปาร์ตี้ชายามบ่าย ไม่จำเป็นต้องมีบัตรเชิญแบบเป็นทางการค่ะ ใครที่อยากจัด ก็เขียนวันและเวลาลงบนนามบัตรของตัวเอง หรืออยากให้จริงจังก็ทำเป็นจดหมายส่งเฉพาะบุคคลเลยก็ได้ (6)
แต่เทรนนี้กว่าจะมาถึงการกำหนดสีให้เสื้อผ้าเด็กก็ปาไปช่วง 1980s แล้วค่ะ ซึ่งเป็นช่วงที่การอัลตราซาวด์เพศของเด็กกลายเป็นธรรมเนียม พ่อแม่ก็จะไปหาช้อปของสำหรับลูกชายหรือสาว และแน่นอนว่าผู้ผลิตก็ตอบสนองกับเทรนนี้ด้วยการแบ่งแยกสีอย่างชัดเจนนั่นเอง (10)
แล้วมาเริ่มเปลี่ยนตอนไหนล่ะ? ในยุคเรเนซองส์ เริ่มมีชนชั้นกลางเกิดขึ้น ซึ่งก็เป็นกลุ่มคนที่มีเงิน สามารถสั่งวาดภาพได้เอง (ไม่ใช่แค่โบสถ์แล้ว) ซึ่งพวกเขาก็อยากได้ภาพลูกที่ไม่ได้หัวล้านหน้าแก่ จึงเริ่มมีเทรนด์ศิลปะใหม่ที่ต่างไปจากเดิม เบบี๋เลยเริ่มเหมือนจริงมากขึ้น (10)
นี่คือ shrew’s fiddle ค่ะ เป็นอุปกรณ์ที่จะล็อคหัวกับมือสองข้างของผู้หญิงเอาไว้ แค่เพราะพวกเธอเสียงดังหรือมีปากเสียงกัน นิยมใช้ในเยอรมันและออสเตรีย บางทีเจ้านี่ก็จะมีกระดิ่งติดไว้เพื่อส่งเสียงให้ชาวบ้านรู้ว่าพวกเธอเดินผ่านมา (2)
Finishing school ในปัจจุบันไม่ได้จำกัดแค่เพศหญิงเท่านั้น แต่ไม่ว่าเพศไหนก็สามารถเรียนได้ และโรงเรียนจะเน้นไปที่การเพิ่มความมั่นใจ รู้จักมารยาททางธุรกิจและทางสังคม เพิ่มสกิลการนำเสนองานและพูดในที่สาธารณะ ฯลฯ ซึ่งก็นับว่ามีประโยชน์มากๆสำหรับทุกเพศเลยค่ะ (9)
ยุคแรกๆของ post-mortem photography จะเป็นการถ่ายคนเสียชีวิตในโลงศพค่ะ ส่วนมากจะถ่ายในบ้านนี่แหละ ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นความทรงจำแล้วก็ยังเอาไว้เตือนใจถึงประโยค memento mori หรือแปลได้ว่าความตายไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ (2)
คือจริงๆชุดสำหรับชายามบ่ายมีประวัติที่ค่อนข้างแซ่บ เราจะเล่าในเธรดหน้าแทนนะคะเพราะยาวหน่อย5555 เอาเป็นว่าช่วงหน้าร้อนและการดื่มชานอกสถานที่ก็จะนิยมใส่เป็นชุดสีขาว ทำมาจากผ้าฝ้าย แต่บนไททานิคที่เป็นสถานที่ปิดแถมเป็นระหว่างเดินทาง สาวๆก็จะใส่ชุดที่ตัดมาสำหรับเดินทางโดยเฉพาะค่ะ (10)
ต้นคริสมาสต์ 🎄: หลายๆวัฒนธรรม ทั้งอียิปต์โบราณหรือชาวเซลต์ ฉลองวันเหมายันด้วยต้นไม้ที่มีสีเขียวตลอดปีค่ะ ชาวโรมันเองก็ใช้ต้นไม้แบบเดียวกันในการฉลองเทศกาลที่คล้ายกับคริสมาสต์ และชาวคริสเตียนนำวัฒนธรรมเหล่านี้มาปรับใช้กับตัวเอง (1)
เป็นมารยาทสำคัญที่สาวๆจะต้องใส่ ‘ถุงมือ’ ในที่สาธารณะ ยกเว้นเวลาอาหาร เพราะว่าการสัมผัสโดยตรง (เนื้อต่อเนื้อ) ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม การใส่ถุงมือจะทำให้การสัมผัส เช่น การจับมือทักทาย ระหว่างชายหญิงเป็นเรื่องโอเค (4)
อยากไปไพร์ดพาเหรดที่สีลมวันนี้มากๆ ทุกอย่างปังไปหมด เสียดายที่ไปไม่ได้ ㅜㅡㅜ อยากฝากทุกคนให้มาร่วมลงชื่อสนับสนุนสมรสเท่าเทียมกันนะคะ because love is love and every human being deserves to be treated the same regardless of their gender & sexuality 🥺 support1448.org
มีอีกเยอะมากกก นี่คัดที่น่าสนใจมา ดูเพิ่มเติมได้ที่ reddit.com/r/MapPorn/ เลยค่ะ
มาต่อที่ชุดมื้อกลางวันหรือชุดสำหรับชายามบ่าย 🫖 มื้อกลางวันก็ค่อนข้างจริงจัง บางทีทานกันนานถึง 2 ชม. และมีอาหารจัดเป็นคอร์ส ชุดจะออกทางการกว่าตอนเช้า จะเป็นชุดปล่อยตรง รอบเอวสูง คอเสื้อตัววี ความยาวประมาณศอก และด้วยว่าคออาจจะลึก จึงมักจะมีเสื้ออีกชั้น เรียกว่า chemisettes (8)
ของขวัญคริสมาสต์ปีนี้ ซานต้าให้รูปแอเรียลตกแต่งต้นคริสมาสต์ใต้ทะเลแหละ 🎅🏻🤍 น่ารักมาก ยัยแอเรียลก็ฉลองคริสมาสต์เหมือนกันสินะ
ชอบที่มุมซ้ายของปราสาทคือมีห้องนั่งเล่นเล็กๆด้วย เดาว่าเป็นห้องที่มอริสเดินไปเจอ ละก็เป็นห้องที่เบลล์ทำแผลให้อสูรด้วย ส่วนห้องนอนของเบลล์เป็นสีชมพูล่ะ เป็นห้องที่วิวดีที่สุดในปราสาทด้วยนะ 🤍
ไม่พูดถึงเจ้าพวกนี้ก็คงไม่ได้ ในหนังดิสนีย์เรื่องอื่น ตัวเอกมักจะมีเพื่อนเป็นสัตว์ใช่ไหม แต่เรื่องนี้เพื่อนของตัวเอกคือรูปปั้นการ์กอย (Gargoyles) ค่ะ! ซึ่งสำหรับวิหารก็ทั้งใช้ตกแต่งและทำหน้าที่เป็นรางน้ำด้วย ในตำนานเชื่อว่าพวกการ์กอยมีหน้าที่ไล่วิญญาณร้ายไม่ให้มาใกล้น่ะเอง (5)