หลักๆก็ประมาณนี้ค่ะ จริงๆเทรนการแต่งหน้าหรือความสวยของคนสมัยก่อนนี่เป็น deadly trend อยู่เยอะมากๆ อันตรายสุดๆเลย ไว้จะมาเล่าให้อ่านอีกนะคะ :-) ขอบคุณที่แวะมาอ่านน้า เจอกันเธรดหน้าค่ะ 🤍🤍
สวนข้างๆอพาร์ทเมนท์มีต้นซากุระกำลังบานเลย สวยมาก เวลาเดินไปโรงเรียนแล้วผ่านทีไรเหมือนโดนบอกว่าขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีทุกครั้งเลย 🤍
ตัวละครที่มี mbti เหมือนกับเรา555555 ของคนอื่นได้ใครกันมั่งลองดู ส่วนใครทายของเราถูกบ้างว่า mbti อะไร 🤪
อีกอันนึงที่หลายคนน่าจะเคยได้ยินนั่นคือ ‘คำสาป’ ซึ่งมันเริ่มมาจากการค้นพบสุสานของคิงตุตันคามุ ที่หลังจากการค้นพบไม่กี่เดือน ก็มีคนในทีมเสียชีวิตจากโรคเกี่ยวกับเลือดที่มาจากยุง หลังจากนั้นคนที่เกี่ยวข้องก็เสียชีวิตกันต่อมาเรื่อยๆ (8)
สิ่งนึงที่ทับใจพนักงานที่ยูนิเวอร์แซลเจแปนมากๆคือเค้าจะชมแขกตลอด เราเดินไปซื้อหนม เล่นเครื่องเล่น โดนทักตลอดว่าชุดน่ารักจัง แต่งตัวน่ารักจัง ที่คาดผมเข้ากับคุณมากเลยนะ ฯลฯ แบบมันเป็นพลังบวกเต็มไปหมด ทำให้รู้สึกดีตลอดการอยู่ที่นั่นเลย
แต่ในยุคหลังๆที่มีการปฏิวัติฝรั่งเศสเกิดขึ้น การแต่งหน้าก็เริ่มไม่เป็นที่นิยมละเพราะมันสะท้อนถึงความร่ำรวยและอภิสิทธิ์ของบุคคล การถลุงเงินของคนรวยโดยเหยียบหัวคนจน ผู้ชายเริ่มหยุดแต่งหน้าเพราะจะโดนมองว่าเหมือนผู้หญิง หมอเริ่มออกมาเตือนถึงอันตรายของเครื่องสำอางค์ (5)
ในบรรดาผู้รอดชีวิต ผู้โดยสารชายจากชั้นสองมีจำนวนน้อยที่สุดค่ะ เพียง 14 คน หรือ 8 % ของทั้งหมดเท่านั้น ในกลุ่มนี้จะมีนักบวชที่อยู่กับผู้โดยสารคนอื่นจนวิสุดท้าย เหล่านักดนตรีที่เราเห็นในหนังก็อยู่ชั้นสองนะคะ (8)
อีกหนึ่งที่เห็นกันเยอะในหนังคือ ‘หมวก’ ใช่ไหมคะ หมวกใบใหญ่ๆเป็นที่นิยมของสาวๆในการใส่ในทุกโอกาสเลย ขนนกกระจอกเทศเป็นที่นิยมสุด รองลงมาก็ขนนกกระยางหรือนกกระสา ส่วนโบว์จะทำมาจากเส้นไหมและกำมะหยี่ค่ะ และจะนิยมสีเข้มมากกว่าสีอ่อน (7)
ในยุคนี้ไม่ได้มีมื้อเที่ยงแบบที่เรารู้จักกัน จะออกแนวเป็นอาหารเบาๆระหว่างวันมากกว่า ซึ่งส่วนมากจะเป็นอาหารเย็น (cold food) ที่จะเสิร์ฟในห้องใดก็ได้ที่คนในครอบครัวรวมตัวกันอยู่ เมื่อมีคนมาเยี่ยม สาวๆต้องเป็นคนเสิร์ฟอาหารและชาควบคู่ไปกับการคงบทสนทนาให้ลื่นไหลต่อ (5)
เวลาไปมิวเซียมหรือนิทรรศการศิลปะนี่ชอบค่อยๆเดิน อ่านคำอธิบายภาพแต่ละภาพ เพราะในคำอธิบายจะมีเกร็ดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับภาพให้ได้รู้ พอรู้แล้วก็ยิ่งอินกับมันมากขึ้นไปอีก เฮ้อ ให้อยู่ทั้งวันก็อยู่ได้
นี่คือโมเดลที่นั่งในเครื่องเล่นนี้ สวยมากกกกก เป็นเรือจริงๆด้วย 😭🤍 ต้องเป็นเครื่องเล่นเบสบนน้ำแน่ๆ ชอบเครื่องเล่นแนวนี้มาก นั่งชมห้องไปเรื่อยๆ
และนี่คือตัวอย่างของหน้าที่อุปกรณ์ต่างๆบนโต๊ะอาหาร รวมไปถึงวิธีวางส้อมกับมีดเพื่อสื่อสารกับพนักงานโดยไม่ต้องพูด นอกจากนี้ เวลาดื่มชาห้ามยกนิ้วก้อย และเวลาดื่มแชมเปญต้องถือที่ก้นแก้วและ ‘เอียง’ แก้วนิดหน่อยเวลาจะดื่มเท่านั้น (6)
ต่อกันในเรื่องของวิกผม ทีแรกก็มีแต่ผู้ชายใส่ แต่หลังๆมาผู้หญิงก็ใส่เช่นกัน และวิกที่สาวๆใส่คืออลังการกว่ามาก สูงกว่ามาก5555 มีทั้งขนนก ริบบิ้น บางคนใส่ของเข้าไปในนั้นด้วย!! วิกผมแพงๆจะทำมาจากผมคนจริงๆ ไม่งั้นก็จะเป็นขนแพะหรือม้า (7)
ด้วยความที่เป็นยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม และมีระบบคมนาคมอย่างเช่นรถไฟขนส่ง ทำให้วัตถุดิบในการทำอาหารส่งถึงกันมากขึ้น รวมไปถึงวัตถุดิบจากต่างประเทศ แต่ก็ราคาแพงมาก ทำให้อาหารถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่คนชนชั้นสูงใช้สำหรับโชว์ความร่ำรวยของตัวเองค่ะ อารมณ์ยิ่งวัตถุดิบแปลกคือยิ่งรวย (1)
: ถ้ำมหัศจรรย์ในอาละดินเป็นคำขอสุดท้ายของผู้ถือครองตะเกียงคนล่าสุด เจ้าของตะเกียงก่อนอาละดินอาจขอพร 3 ข้อไว้ดังนี้ 1) ขอให้ตัวเองมีเงินรวยล้นฟ้าชนิดที่ใช้ในชาตินี้ไม่หมด (ทำให้ในถ้ำมีสมบัติเยอะมาก) 2) ขอให้ตัวเองสามารถเดินทางไปไหนก็ได้ (จึงมีพรมวิเศษ) (4)
ตัวอย่างก็คือในปี 1809 โสเภณีชั้นสูงอย่าง Mary Anne Clarke พยายามจะเผยแพร่เรื่องของการที่ตัวเองเป็นภรรยาน้อยของดยุคแห่งยอร์ค หลังจากที่เขาทิ้งเธอ แม้เลดี้วิสเซิลดาว์นจะไม่มีจริง แต่ก็มี Mrs. Crackenthorpe ที่ได้ชื่อว่าเป็นหญิงผู้รู้ทุกสิ่งและคอยเขียนข่าวซุบซิบในยุครีเจนซี(4)
คำว่า Quarantine ก็มาจากยุคนี้นะเออ twitter.com/arielqueenss/s…
เรื่องเริ่มขึ้นในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 1876 คาโรลินาในวัย 14 ปีหัวกระแทกในขณะที่เดินบนแผ่นน้ำแข็งบนทะเลสาบ ซึ่งอาการแรกที่เกิดคือเธอปวดฟัน คนในยุคนั้นยังมีความเชื่อโบราณอยู่ ครอบครัวเธอจึงเชื่อว่าเธอโดนคำสาปจากแม่มด เมื่ออาการปวดฟันไม่ยอมหายสักที (2)
ไม่ใช่ว่าแฟชั่นสไตล์นี้ fatphobic (อาการกลัวความอ้วน) หรืออะไร แต่บางคนเชื่อว่า มันถูกออกแบบมาไม่ให้เข้ากับรูปร่างของคนอวบหรือคนอ้วนมากกว่าเท่านั้น แต่ในปัจจุบันเอง ก็มีสาวๆในทุกสัดส่วนเอ็นจอยการแต่งตัวสไตล์นี้กันมากมาย สวยๆกันทั้งนั้นด้วยล่ะ 🥰💖 (12)
นั่นคือ ‘Escapism’ หรือ ‘การหลบหนีจากความเป็นจริง’ เพราะโลกในปัจจุบันเต็มไปด้วยความขัดแย้งทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาการเมือง ทั้งยังโรคระบาด ผู้คนต่างก็อยากเดินทางไปสู่ยุคที่ดีกว่า 20 กว่าปีที่แล้วเป็นอย่างไร ในปัจจุบันก็ยังคงเป็นแบบนั้นอยู่ แฟชั่นเป็นอีกหนึ่งทางในการแสดงออก (7)
เมื่อตื่นขึ้น คนที่นอนไปจะรู้สึกไม่ปกติ ขี้เกียจหนัก หรือไม่มีสติ ซึ่งก็ไปตรงกับอาการของคาโรลินาที่ว่ามีการละเมอเดิน พึมพำขณะยังหลับ ซึ่งต้นตอของภาวะนี้ยังไม่มีเหตุแน่ชัด บ้างก็เชื่อว่าอาจเป็นอาการที่ส่งต่อกันได้ในครอบครัว หรืออาจเป็นความผิดปกติของสมอง (11)
ผู้โดยสารชายชั้นหนึ่งหลายคนยังตื่นอยู่ในขณะที่เรือชนน้ำแข็ง ณ เวลา 5 ทุ่ม 40 นาทีค่ะ อยู่ในห้องสูบบุหรี่ นั่งเล่นไพ่บ้าง ซึ่งการจมลงไปพร้อมกับเรือถือเป็นเกียรติอันสูงสุดสำหรับพวกเขา จาก 175 คน มีผู้รอดเพียง 57 คนค่ะ หลายคนตัดสินใจเสียสละตัวเองหลังจากส่งครอบครัวลงเรือบดไปแล้ว (7)
คนที่ทำให้กิจกรรมนี้ป๊อปปูล่าร์คือคนนี้ค่ะ Thomas Pettigrew คือเขาเรียนด้านอียิปต์มาโดยเฉพาะ ถึงจะไม่ใช่คนแรก แต่เป็นคนที่ทำให้มันกลายเป็นโชว์ ด้วยการผสมของสองอย่างที่คนยุควิคตอเรียนคลั่งไคล้ คืออียิปต์ วิทยาศาสตร์ และเรื่องน่ากลัว (6)
โชตะคือช่างไม้ (the carpenter) เหมือนกันที่นิสัยโฟกัสกับงานมากกว่าชีวิตตัวเอง ทั้งยังเป็นคนซื่อสัตย์ ภักดี เชื่อในคำพูดของวอลรัส (ที่จะโยงเป็นคารุเบะในเธรดถัดไป) เสมอ (5)
แต่ชาวบริเทนทำให้เอ็กซ์ตร้าไปอีกด้วยการเปลี่ยนเป็นกองคุ้กกี้ ขนมปังเครื่องเทศ และสโคน นำมาทำเป็นหอคอยของหวานให้คู่บ่าวสาวจูบกันผ่านกองนั้นให้ได้ และต่อมาในศ.ที่ 17 ก็เริ่มมีเค้กแต่งงานครั้งแรกเกิดขึ้น แล้วก็ต่อๆมาจนในปัจจุบันนั่นเอง (12)