หญิงขายบริการถูกแบ่งออกเป็น 3 คลาส 1) ชั้นที่ต่ำที่สุด: สาวๆจะต้องพึ่งพิงซ่อง (brothel) และจะไม่สามารถเลือกลูกค้าได้ ลูกค้าจะมาจากมาดามประจำซ่องที่จะเลือกให้ คุณภาพชีวิตค่อนข้างต่ำ สกปรก แต่ซ่องก็จะดูแลเรื่องสุขภาพและโรคติดต่อให้ เพราะมันอันตรายต่อสาวๆ รวมถึงเสียชื่อซ่องด้วย (5)
* ชวเลข (shorthand): การเขียนข้อความอย่างย่อโดยใช้สัญลักษณ์/คำย่อเพื่อแทนคำพูด เป็นการเขียนข้อความตามเสียงให้ทันคำพูดของผู้พูดโดยวิธีการลากปลายปากกาด้วยเส้นโค้งหรือขีด ตามเสียง การขายบริการเป็นอาชีพเดียวที่ผู้หญิงได้เงินเยอะ จ่ายเป็นเงินสด และชั่วโมงทำงานก็น้อย (4)
สาวเย็บผ้ามักจะเจอปัญหางานหนักเกินกำลัง รวมถึงค่าจ้างที่แสนจะน้อย ส่วนสาวใช้ในบ้านมักจะถูกบังคับให้ขายบริการ แต่ก็มีหลายคนที่เลือกจะขายบริการเองด้วยความสมัครใจ เพราะแม้สาวๆหลายคนจะมีสกิลอย่างพิมพ์ดีดหรือชวเลข* รายได้ก็ไม่เพียงพอจะเลี้ยงลูกถ้าไม่พึ่งสามี (3)
ปัจจัยหลักที่นำไปสู่การขายบริการทางเพศของผู้หญิงคือชนชั้นทางสังคมและเศรษฐกิจ โดยอาชีพหลักๆ 3 อย่างที่ผู้หญิงมักทำก่อนขายบริการคือ สาวโรงงาน, หญิงเย็บผ้า, สาวใช้ ซึ่งปัญหาที่สาวโรงงานเจอคือการถูกบังคับให้ทำงานท่ามกลางผู้ชาย และนำไปสู่ปัญหาต่างๆเช่นการขืนใจ (2)
หญิงขายบริการมักจะถูกเรียกจากสื่อว่าเป็น fallen women เพราะมีความเชื่อที่ว่าสาวๆในสังคมคงไม่เลือกจะทำอาชีพนี้เพราะผิดประเพณี แต่มันถูกกฎหมายและถูกสนับสนุนในบางครั้ง เพราะเชื่อว่าผู้ชายต้องปลดปล่อยความต้องการทางเพศที่เก็บกดจากชีวิตประจำวัน และช่วยให้ผู้หญิงสร้างรายได้ให้ตัวเอง (1)
Sex worker หรือหญิงขายบริการในยุควิคตอเรียนมีอยู่ประมาณ 80,000 คนในลอนดอน นับเป็น 3% ของประชากร ซึ่งถือว่าเป็นยุคทอง มีทั้งซ่องที่จัดเป็นธีมต่างๆ การแบ่งคลาสของสาวๆ รวมไปถึงถูกกฎหมายและบางทีก็มีการสนับสนุนให้ขายบริการด้วย! เธรดนี้จะมาเล่าอีกมุมที่น่าสนใจของยุควิคตอเรียนให้อ่านค่ะ
ทุกคนดูนี่ มันน่ารักมากก สานฝันการเป็นเงือกที่สุด 🥹 เป็นคอลใหม่ของ Jmella ซึ่งที่ไทยมีขายแล้ว ✨ นี่ประทับใจโดยเฉพาะแชมพูกะทรีทเมนท์ เพราะทำสีผมบ่อยเลยผมเสียง่าย ใช้ของเขาเซ็ตนี้คือจบ ผมแข็งแรงหอมนุ่มมาก! อย่างอื่นก็ดี หอมเหมือนฉีดน้ำหอม แนะนำมากๆใช้แล้วเหมือนเป็นแอเรียล 🧜🏻‍♀
หลังจากเวลาน้ำชา ก็จะเป็นช่วงใช้เวลาตอนเย็นร่วมกัน ทั้งอ่านหนังสือด้วยกัน เล่นเปียโน เย็บผ้า เขียนจดหมาย ฯลฯ ส่วนมากถ้ามีแขกก็จะมีการเล่นดนตรีหรือเล่นเกมไพ่กัน ระหว่างนั้นก็ยังมีมื้อ supper อีกมื้อ ที่ถ้าใครไหวก็ไปต่อ5555 แต่ไม่ใช่อาหารหนัก จะเป็นพวกซุปหรืออาหารเล็กๆน้อยๆ (14)
หลังมื่อเย็น ถ้าไม่มีแขก คนในครอบครัวก็มักจะเดินเล่น ใช้เวลาชิวๆ แต่ถ้ามีแขก สาวๆก็จะแยกตัวไปห้องนั่งเล่น/ห้องรับแขก ซึ่งเดินไปตามลำดับชั้นเหมือนเดิม ส่วนผู้ชายจะอยู่ในห้องอาหารเพื่อดื่มและพูดคุยสักพัก และเมื่อพวกผู้ชายตามมาที่ห้องรับแขก ก็จะมีช่วงเวลาน้ำชาค่ะ (12)
บ้านไหนรวยก็จะได้กิน 2 คอร์สทุกวันค่ะ เมื่อคอร์สที่ 2 เสร็จก็ตามด้วยของหวานที่มักเป็นอะไรที่กินด้วยมือได้เช่น ผลไม้แห้ง ถั่ว ลูกกวาดหวานๆ และมักเสิร์ฟคู่กับไวน์ สาวใช้จะไม่ยกอาหารเสิร์ฟให้แต่ละคนเหมือนปัจจุบันเพราะงั้นบางทีก็จะมีอาหารที่เหมือนกันสองจานวางอยู่สองฝั่งของโต๊ะ (11)
ใครสนใจเรื่องอาหารในยุครีเจนซี คอร์สต่างๆว่ามีอะไรบ้าง อาหารในปาร์ตี้ต่างกับที่กินในบ้านยังไง รวมถึงมารยาทบนโต๊ะอาหาร (ที่เยอะมากกกก) เมนชั่นบอกได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะมาเล่าให้อ่านเธรดหน้า 🥰🤍
แขกชายตำแหน่งสูงจะนั่งถัดจากฝั่งขวาของเจ้าบ้านหญิง ส่วนแขกหญิงจะนั่งถัดจากฝั่งขวาเจ้าบ้านชาย ในกรณีนี้จะมีอาหาร 2 คอร์สค่ะ โดยคอร์สแรกจะมีทั้งเนื้อ หรือไก่อบ/ต้ม ซุปต้องมีแน่นอน บางทีก็มีปลาทั้งตัว ส่วนคอร์สสองจะเป็นอาหารที่เบากว่า เช่นเนื้อตุ๋น พาย ทาร์ตผลไม้หรือเยลลี่ (10)
การเดินเข้าห้องอาหารจะเดินเป็นคู่ ถ้าแรงค์ของทุกคนที่นั่นเท่ากัน คนที่เข้าไปก่อนคือคนที่แต่งงานแล้ว และจะเรียงตามอายุด้วย คนที่แก่กว่าจะได้เข้าก่อน โดยที่นั่งหัวโต๊ะจะเป็นของเจ้าบ้านผู้หญิง และฝั่งตรงข้ามเป็นเจ้าบ้านผู้ชาย (9)
ลุคมื้อเย็นจะแฟนซีกว่าลุคตอนกลางวัน ถ้ามื้อเย็นมีแค่คนในบ้าน อาหารก็จะไม่หรูหรามาก มีอาหารแค่คอร์สเดียว และเป็นเวลาที่สาวๆจะได้เรียนมารยาทบนโต๊ะอาหารจากคุณแม่ ส่วนถ้ามื้อเย็นมีแขกมาด้วย อาหารจะหรูขึ้นและก็จะมีพิธีรีตรองเพิ่มขึ้นมาหน่อย (8)
การแบ่งเวลาเช้ากับเย็นของสาวๆจะขึ้นอยู่กับชุดที่เปลี่ยนค่ะ เวลาตอนเย็นเริ่มกับชุดใหม่ มื้อเย็นเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดและทางการที่สุด อาจเริ่มตั้งแต่หกโมงเย็น ซึ่งเทรนด์ยุคนั้นคือยิ่งดึกยิ่งดี เพราะยิ่งดึก แปลว่าต้องใช้เทียนเยอะขึ้นเพื่อเพิ่มแสง = คนรวยเท่านั้นที่จะมีเงินเยอะพอ (7)
หลังจากรับแขกเสร็จ สาวๆจะกลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่อแต่งตัวเตรียมสำหรับมื้อเย็น ซึ่งก็นับเป็นเวลาส่วนตัวเล็กๆอีกหนึ่งที่สาวๆจะได้จัดผม รีเฟรชตัวเอง และเปลี่ยนเสื้อผ้า ซึ่งกิจกรรมตอนเย็นนั้นมีตั้งแต่มื้อเย็นกับที่บ้านจนไปถึงปาร์ตี้ มื้อใหญ่ ที่ลากยาวไปจนถึงเช้า (6)
ในยุคนี้ไม่ได้มีมื้อเที่ยงแบบที่เรารู้จักกัน จะออกแนวเป็นอาหารเบาๆระหว่างวันมากกว่า ซึ่งส่วนมากจะเป็นอาหารเย็น (cold food) ที่จะเสิร์ฟในห้องใดก็ได้ที่คนในครอบครัวรวมตัวกันอยู่ เมื่อมีคนมาเยี่ยม สาวๆต้องเป็นคนเสิร์ฟอาหารและชาควบคู่ไปกับการคงบทสนทนาให้ลื่นไหลต่อ (5)
ซึ่งสำหรับสาวๆ แล้วเวลารับแขกนั้นมีทั้งพาร์ทที่สนุกสนานบันเทิงใจไปจนถึงน่ารำคาญและน่าเบื่อ ถ้าเคยเห็นในสื่อบันเทิง น่าจะคุ้นเคยกันกับที่ฝ่ายชายแวะมาหาฝ่ายหญิงหลังจากพบกันที่งานเลี้ยง ก็เป็นช่วงเวลานี้เหมือนกัน หรือถ้าไม่มีแขก สาวๆก็มักจะนั่งเย็บผ้ากันเป็นกลุ่มในบ้าน (4)
เวลาช่วงเช้ายาวไปจนบ่าย (10 โมง- 6 โมงเย็น) เป็นเวลารับแขก ขึ้นอยู่กับเวลาอาหารของแต่ละบ้าน ส่วนมากจะใช้เวลาด้วยประมาณ 15 นาที (น้อยกว่านั้นถือเป็นการดูถูก) จนถึงครึ่งชม. ซึ่งเหตุผลของการมาเยี่ยมก็มีหลากหลาย ส่วนใหญ่จะแวะมาลาเพราะต้องออกเดินทาง หรือเป็นเพื่อนบ้านใหม่มาทักทาย (3)
จะเริ่มมื้อเช้ากันตอนสิบโมงเช้าเป็นส่วนใหญ่ แต่บางบ้านก็เริ่มตั้งแต่เก้าโมง มื้อเช้าส่วนมากประกอบด้วยขนมปัง เค้ก เครื่องดื่มร้อนอย่างชา กาแฟ ช็อคโกแลทร้อน ซึ่งก็เป็นมื้อที่ยาวนาน บางทีสาวๆก็้เป็นคนทำขนมปังปิ้งเองด้วยการนำไปปิ้งกับไฟ (2)
ช่วงเช้าจะเป็นช่วงที่สาวๆมีเวลาเป็นของตัวเองมากที่สุด คือช่วงระหว่างหลังตื่นนอนจนถึงก่อนมื้อเช้า อาจจะเดินเล่นในสวน เขียนจดหมายถึงเพื่อนๆและครอบครัว ซ้อมดนตรี เรียกว่าเวลาส่วนตัวนั่นแหละ ส่วนนายหญิงประจำบ้านจะใช้เวลานี้ในการดูแลเมนูอาหารหรือสั่งเรื่องงานบ้านกับสาวใช้ (1)
ชีวิตวันๆของเหล่าคุณหนูผู้ดีในยุครีเจนซี (ต้นศ.ที่ 19 อังกฤษ) เป็นยังไงบ้าง? น่าจะเคยเห็นในหนังกับซีรีส์กันบ้าง มันเว่อวังมีนั่นมีนี่ให้ทำอะไรขนาดนั้นเลยเหรอ? บอกเลยว่าเพียบ แบ่งเวลาเป็นกิจวัตรชัดเจน มาค่ะ มาลองเป็นสาวๆยุครีเจนซีกับเธรดนี้กันดีกว่า!
กิจกรรมนึงที่คนญี่ปุ่นชอบทำกันคือ glamping (glamorous+camping) คือการไปแคมปิ้งแบบแกลมๆ สบายๆ รับเอเนอร์จี้ธรรมชาติพร้อมกับพักผ่อน นี่ไปที่กุนมะมา มันปังมากกก 😭 ที่พักสวย ปรับแสงได้ มีออนเซ็นกลางแจ้ง แถมมีบาร์บีคิวจากผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของจังหวัด เนื้อนุ่มๆ แซลม่อนสดๆ ทับใจสุด 🤍 twitter.com/i/web/status/1…
ซีรีส์อาหารกับประวัติศาสตร์วันนี้ จะพาทุกคนมารู้จักอาหารที่คนยุควิคตอเรียนกินกันค่ะ! สรุปที่ว่าซีเรียลถูกคิดขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้คนช่วยตัวเองนี่จริงเหรอ? แล้วคนยุคนั้นเขากินอะไรกันบ้าง บอกเลยว่าแปลกสมกับเป็นยุควิคตอเรียนจริงๆ มีซุปเต่ากับเยลลี่ปลาไหลด้วย 😱??
ขวดลายใหม่ของน้ำดื่ม Sprinkle คือมีความ festive ม้าก 🎄🤍 ขวดเรืองแสงในความมืดได้ด้วย สดชื่นขึ้นอีกสองร้อยเปอร์! แถมมีกิจกรรมดีๆอย่างการทำ greeting card ที่สามารถส่งให้กับเพื่อน แฟน หรือคนพิเศษได้ด้วยนะคะ เราทำแล้วน่ารักมากๆ (≧∀≦) #SPRINKLEXmas