176
มีวันนึงนั่งรถไปกับเพื่อนแล้วเพลง"ถ้าเราเจอกันอีก"ของTilly Birds ก็ถูกเปิดผ่านวิทยุ อยู่ๆเราทั้งคู่ก็นั่งเงียบ นี่ก็เลยหันไปพูดกับเพื่อนว่าได้ยินเพลงนี้ทีไรน้ำตามาทุกทีเลยว่ะเพราะเอาจริงการคิดถึงใครสักคนที่ไม่รู้ว่าในชีวิตจะได้เจอกันอีกมั้ยเป็นอะไรที่โคตรทรมานจิตใจมากๆเลยอะ
177
เอาจริงๆแล้วความรัก ความผูกพันและความทรงจำของแพคอีจินและนาฮีโดก็เหมือนการหยุดเวลาไว้ที่วัย25และ21 แม้ว่าหลายอย่างมันจะไม่คงอยู่ตลอดไป แต่ช่วงเวลาดีๆทั้งหลายจะยังคงอยู่ตราบเท่าที่เรายังนึกถึงนั่นแหละนะ
#TwentyFiveTwentyOneEp16
178
179
อีกหนึ่งเรื่องที่เรียนรู้ได้ตอนโตคือ ปัญหาน่ะต่อให้แก้ยังไงก็ไม่จบไม่สิ้นหรอก เพราะต่อให้แก้เรื่องนึงจบไปได้ ในอนาคตมันก็จะมีเรื่องใหม่ๆให้มานั่งแก้อยู่ดี เราทำได้ก็แค่พยายามตั้งสติและค่อยๆแก้ไปทีละอย่างนั่นแหละ
180
181
"เพราะชีวิตมันสั้นเกินกว่าจะเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง"พอคิดถึงประโยคนี้ทีไรก็จะรู้สึกว่าควรใช้ชีวิตในแบบที่อยากจะใช้ พาตัวเองไปกินของอร่อยๆ มีบทสนทนาดีๆกับคนที่ไม่ทำให้ทุกข์ใจหรือกระทั่งควรจะซื้อของบางชิ้นที่อยากได้มานานแล้วเพื่อเป็นของขวัญให้ตัวเองบ้างก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
182
183
รู้เลยว่าคนเราไม่สามารถหนีความเป็นจริงที่เกิดขึ้นด้วยการมองมันในแง่ดีเพียงอย่างเดียวหรอก สิ่งที่ควรทำคือการทำใจยอมรับแล้วมองไปข้างหน้าพอ
184
185
บางคำพูดถ้ามาในเวลาที่ต้องการนี่เหมือนช่วยปลดล็อกอะไรหลายอย่างเลย ตอนดูTwenty five,Twenty oneนี่ชอบที่นาฮีโดถามลูกว่าสนุกกับการเต้นบัลเลต์หรือสนุกที่ได้รับคำชมมากกว่า ถ้าชอบที่ได้รับคำชมจะเลิกก็ได้นะ เอาจริงคำชมมันก็ดีแต่มันไม่มากพอให้ไปต่อเท่าการที่เราได้สนุกกับอะไรที่เราชอบหรอก
186
187
พอมีเรื่องที่ชวนให้รู้สึกไม่ดีจากข้างในนี่คือต้องมานั่งคิดก่อนว่าเรื่องนั้นมันคือเรื่องที่นอกเหนือการควบคุมของเราหรือเปล่า ถ้าคำตอบคือใช่ นี่มีทางเดียวจริงๆคือพยายามบอกตัวเองให้ทำใจแล้วคิดซะว่าอีกไม่นานเรื่องนั้นๆมันก็จะผ่านไป~
188
สิ่งที่ต้องการในชีวิตมากที่สุดตอนนี้ น่าจะเป็นสิ่งธรรมดาๆที่เรียกว่า"ความสบายใจ" นี่แหละนะ เข้าใจแหละว่าหลายๆเรื่องทุกวันนี้คือหนักหนาสำหรับทุกคนมากๆแต่ก็อย่าลืมหาเวลาฮีลใจตัวเองสักนิดสักหน่อยก็ยังดี
189
ตอนนี้ชอบประโยคที่ว่า "เรามีสิทธิ์สงสัยแต่เราไม่มีสิทธิ์ไปตัดสิน" ซึ่งก็จริง คือใช้ได้กับหลายๆเรื่องเลย
190
กำลังนึกว่าถ้าเป็นคนใกล้ตัวตกอยู่ในสถานการณ์ที่ดูอันตรายเราจะกล้าทิ้งเค้าดื้อๆแล้วกลับบ้านไปเฉยๆงี้เลยเหรอวะ โอ้โห้จุกแทนอันนี้คือเกินไปมาก อย่างน้อยมันก็อยู่ดูจนแน่ใจว่าเค้าโอเคนะหรืออยู่ในมือคนที่พอจะช่วยเหลือต่อได้มั้ยอะ
191
อย่างน้อยๆตอนมีชีวิตอยู่ก็ควรเรียนรู้ที่จะใจดีกับคนรอบๆตัวสักนิดสักหน่อยก็ยังดีนะ
192
นี่เห็นด้วยมากๆที่จะบอกว่าทุกวันนี้ไม่เรียกใช้ชีวิตละนะ เรียกว่าเอาชีวิตรอดไปวันๆจะดีกว่า
193
194
อยู่ในช่วงวัยที่เห็นคนรอบตัวเติบโตไปในทิศทางของตัวเองแน่นอนว่ามันต้องมีสักแว็บที่อยู่ๆก็มานั่งเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับใครสักคนแต่อย่าลืมว่าเราต่างก็มีเป้าหมายในใจที่ต่างกันมันเทียบกันไม่ได้หร ก ที่ควรทำคือยินดีกับความสำเร็จของคนอื่นไปพร้อมๆกับทำทุกวันให้เต็มที่ในแบบของตัวเองก็พอ
195
"แล้ววันหนึ่งเราจะพบว่าไม่มีใครใส่ใจว่าเราจะทำอะไรขนาดนั้นหรอก!"
เป็นทั้งบทความและหนังสือที่ขอมอบให้แด่ตัวฉันและใครก็ตามที่คิดมากไม่เข้าเรื่อง :)
cleothailand.com/2022/02/cultur…
196
การได้อยู่ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดใจรวมถึงเข้าใจในความไม่สมบูรณ์แบบของอีกฝ่ายนี่แหละนับเป็นความสัมพันธ์ที่ดีมากๆในรูปแบบนึงเลยก็ว่าได้
197
หนึ่งในวิธีเช็คว่าตัวเองปลดล็อกความรู้สึกแย่ๆกับเรื่องอะไรสักเรื่องได้บ้างหรือยัง นี่ว่าถ้าเราเล่าเรื่องนั้นได้ด้วยความตลกกับความคิดตัวเองตอนนั้นได้ก็ถือว่าสอบผ่านละนะ
198
อยู่ๆก็คิดถึงประโยคนึงใน "คำนี้ดี podcast" ที่ว่า 𝐋𝐢𝐟𝐞 𝐢𝐬 𝐭𝐨𝐮𝐠𝐡 𝐛𝐮𝐭 𝐬𝐨 𝐚𝐫𝐞 𝐲𝐨𝐮! เอาไว้ใช้ตอนที่รู้สึกว่าเออชีวิตแม่ง ก็ไม่ง่ายนะ แต่แล้วไงแกก็เก่งพอตัวที่จะผ่านไปได้อยู่เหมือนกัน
199
200
คือเชื่อแล้วว่าพอใช้ชีวิตมาถึงจุดนึง อะไรๆในชีวิตมันก็ไม่ได้ง่ายขึ้นหรอก เราแค่เข้าใจและรับมือกับมันได้ดีขึ้นก็เท่านั้นและแน่นอนว่าพอเวลาผ่านไปบางเรื่องก็อาจกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยชนิดที่ว่าจำความรู้สึกนั้นไม่ได้ด้วยซ้ำ •ᴗ•